นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “คำลวง” ตอนหนึ่งว่า วันนี้เราต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีภาวะผู้นำ และแก้ปัญหาของชาติได้ นายกรัฐมนตรีก็เหมือนนักมวย เวลาขึ้นชกพี่เลี้ยงไปชกด้วยไม่ได้ เช่น กรณีของ 3 ป. ที่เมื่อจะเล่นบทผู้นำ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแถลง ส่วน 2 ป.จะไม่เข้าไปยุ่ง ไม่แสดงความเป็นพี่ใหญ่ พี่รองให้สาธารณะชนได้เห็น หรือบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ก็จะตอบคำถามในประเด็นสำคัญเอง จะไม่มีแกนนำของพรรคมาช่วยตอบคำถาม แต่กลยุทธ์ของพรรคเพื่อไทยกลับให้พี่เลี้ยงอย่างนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย หรือนายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มายืนประกบหรือเป็นพี่เลี้ยง เพื่อช่วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ตอบคำถามสื่อมวลชนในประเด็นต่างๆ ทั้งที่คนอยากฟังจากแคนดินเดตนายกรัฐมนตรี
"จตุพร" เปรียบ "อุ๊งอิ๊ง" เป็นลูกแหง่ ให้พี่เลี้ยงประกบช่วยตอบคำถาม ช่างไร้ภาวะผู้นำ
ข่าวที่น่าสนใจ
ซึ่งต้องมีภาวะผู้นำสูงมาก แต่การช่วยตอบคำถามของนายณัฐวุฒิและนายแพทย์ชลน่าน เพราะกลัวตอบไปแล้วมีปัญหา ทำให้นางสาวแพทองธารสูญเสียการเป็นภาวะผู้นำ คนรู้สึกว่าเป็นลูกแหง่ เนื่องจากคนจะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องมีความสมาร์ท ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ซึ่งวุฒิภาวะหรือภาวะผู้นำทางการเมืองเป็นเรื่องใหญ่มาก
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ใครคิดยุทธศาสตร์นี้ถือว่าคิดผิด เป็นการทำให้ผู้นำขาดสภาพภาะความเป็นผู้นำ และเป็นการสะท้อนว่านางสาวแพทองธารขาดภาวะผู้นำ ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือในสายตาประชาชน ทั้งที่คุณเป็นผู้นำของประชาชนทั้งประเทศ 60 ล้านคน คุญจะพาไปทางไหน แต่ในช่วงที่ผ่านมากลับไม่มีภาวะผู้นำ ต้องมีพี่เลี้ยงตลอด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง