ยืดเยื้อมาเกือบ 4 ปี สำหรับปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีทางออกอย่างเป็นรูปธรรม จากผู้เกี่ยวข้อง ทั้งรัฐบาล โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , กระทรวงมหาดไทย , คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ กรุงเทพมหานคร จนทำให้มูลหนี้ปัจจุบันที่เกิดขึ้นการว่าจ้างให้ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย เพิ่มเป็นมากกว่า 40,000 หมื่นล้านบาท แม้ว่าศาลปกครอง จะมีคำพิพากษาให้ ทั้ง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด หรือ KT และกทม. ดำเนินการชำระหนี้ พร้อมอัตราดอกเบี้ย นับแต่วันมีคำพิพากษาแล้วก็ตาม
ล่าสุด ทีมข่าว TOPNEWS ได้สอบถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหลังจากนี้ ระบุว่า ตนเองไม่ทราบ เพราะเรื่องยังไม่มา จึงตอบไม่ถูก ต้องไปถามทางกระทรวงมหาดไทย กับกรุงเทพมหานคร (กทม.) เนื่องจากตนเองไม่ใช่เจ้าของเรื่อง โดยหากไม่ใช่เจ้าของเรื่อง แต่หากมีการยื่นเรื่องเข้ามาและตนเองเห็นก็สามารถที่จะตอบได้ แต่ขณะนี้ เรื่องยังไม่มา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่มีการนำเรื่องโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้าสู่ที่ประชุมครม. และรัฐบาลชุดนี้ จะมีผลอะไรหรือไม่ นายวิษณุ ยอมรับว่า หากเรื่องดังกล่าวไม่มีการนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม. หรือไม่ทันรัฐบาลชุดนี้ ย่อมมีผลกระทบตามมาแน่นอน แต่จะเลือกเอาผลข้อใด ตนเองไม่ทราบ จะเรียกเอาเงิน หรือ เรียกให้รัฐบาลช่วยเอาคืนไป หรือ เอกชนจะเรียกให้ตนเองได้ดำเนินการต่อ ซึ่งมีหลายเรื่อง และต้องไปถามบีทีเอส
กรณีหากมีการยุบสภา คำสั่งคสช. 3/2562 จะยังมีผลบังคับใช้ต่อหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า แม้จะมีการยุบสภาเกิดขึ้น แต่ในส่วนของคำสั่ง คสช.ยังคงมีอยู่และยังคงบังคับใช้ต่อ ไม่สิ้นผลไปด้วยการยุบสภา เนื่องจากคำสั่ง คสช. เป็นกฎหมาย แต่จะสิ้นผลบังคับใช้ โดยการออกกฎหมายมายกเลิก