การออกมาเคลื่อนไหวของ “เสี่ยตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนี้น่าสนใจและแฝงนัยยะเป็นอย่างยิ่งว่ากำลังคิดทำอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์ สถาบันการเมืองเก่าแก่เกือบ 80 ปี อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าสาธิตนั้นเป็นแกนนำพรรคประชาธิปัตย์สายตรง “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯหน้ามน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่ 3 ที่ได้เป็นนายกฯต่อจาก นายควง อภัยวงศ์ และนายชวน หลีกภัย แม้ปัจจุบันจะทำงานกับขั้วอำนาจใหม่ภายใต้การนำของ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบัน แต่ทุกคนในพรรครู้ดีว่า “ตัว” และ “หัวใจ” ของสาธิตนั่นภักดีกับอภิสิทธิ์เรื่อยมา สมัยก่อนตอนอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ใกล้ตัวก็มีก๊วนการเมืองที่ใกล้ชิดมากมาย นอกจากสาธิตก็มี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ นางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายศิริโชค โสภา นายเทพไท เสนพงศ์ นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ ฯลฯ แต่ภายหลังจากอภิสิทธิ์นำพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้หลุดลุ่ยในการเลือกตั้งที่ผ่านมาเมื่อ 24 มี.ค.2562 ทั่วประเทศได้ส.ส มา 53 คน ปักษ์ใต้ลดเหลือ 22 คน กทม.สูญพันธุ์ อภิสิทธิ์แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากหัวหน้าพรรค พรรคประชาธิปัตย์มีการล้างไพ่ใหม่ในพรรค จุรินทร์ขึ้นหัวหน้า มี “เสี่ยต่อ”เฉลิมชัย ศรีอ่อน เจ้าพ่อสามอ่าวเป็นเลขาฯพรรค ได้นิพนธ์ บุญญามณี คนใหญ่สงขลามาเป็นแบ็กอัพให้ พรรคประชาธิปัตย์เลยเข้าสู่ยุค 3 ประสาน
ผู้แพ้จากสงครามการเลือกหัวหน้าพรรคอย่าง กรณ์ จาติกวณิช กับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ต้องหันหลังเดินออกจากพรรคไป แต่ตะกอนแห่งความร้าวฉานและความขัดแย้งในพรรคสีฟ้าก็ยังไม่ดับมอดไป แค่สงบสะสมกำลังรอวันปะทุ พรรคประชาธิปัตย์ทุกยุคทุกสมัยไม่เคยสงบ ขั้วสีฟ้าไม่เคยนิ่ง เพราะในพรรคมีการเมืองไหลเวียนเข้มข้น ทิ่มแทงขัดแย้งกันมาตลอด ยุคนี้ก็เช่นกัน ย้อนอดีตเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเกิดกระแสข่าวแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ขั้วตรงข้าม 3 ประสาน “จุรินทร์-เฉลิมชัย-นิพนธ์” ก่อหวอดล่าชื่อกดดันให้จุรินทร์ลาออก กรรมการบริหารพรรคไขก๊อก อ้างเรื่องผลงานพรรคตกต่ำ คะแนนนิยมลดลง ชาวบ้านไม่ศรัทธา ชื่อเสียงบารมีของจุรินทร์ขายไม่ได้ เที่ยวนี้กลายเป็นข่าวใหญ่โต โชคดีที่ 3 ประสานเคลียร์กันจบ พรรคเลยไม่แต่ออกเป็นเสี่ยงๆไปก่อนการเลือกตั้ง รอบนั้นชื่อของสาธิตกับก๊วนเด็กเก่าอภิสิทธิ์ตกเป็นจำเลยว่าเป็นต้นคิดดำเนินการ ถัดมาสาธิตก็มีข่าวระหองระแหงกับ 3 ประสานและมีข่าวย้ายพรรคมาตลอด ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าถูกทาบทามจากพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่ทำงานสนิทกันในกระทรวงสาธารณสุข ถัดมาก็มีข่าวว่าถูก “เสี่ยพี”พีระพันธุ์ทาบทามไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติไปช่วยงานนายกฯ ที่ระหว่างกำลังชุลมุนกับข่าวย้าย/ไม่ย้าย จู่ๆ สาธิตก็ประกาศเตรียมแถลงเปิดใจอนาคตการเมืองในวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา คนก็เลยตกใจว่าสาธิตเตรียมประกาศไขก๊อกแหง๋ ๆ เพราะตั้งเวทีใหญ่โตที่บ้านเกิดจ.ระยอง แต่พอถึงเวลาจริงทุกอย่างกลับตารปัตร สาธิตยันอยู่พรรคประชาธิปัตย์ต่อ 77 ปีไม่คิดทิ้งพรรค แม้ปัจจุบันพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมจะอยู่ในช่วงตกต่ำขาลง ก็จะขอทนอยู่สู้กันต่อไป
20 ก.พ.เปิดใจพร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์เขต 3 จัวหวัดอีอีซี ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ที่สาธิตในฐานะแม่ทัพภาคตะวันออกหมายมั่นปั้นมือจะโชว์ผลงานให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อจะได้การันตีเก้าอี้รัฐมนตรีต่อไป ถัดมาสาธิตยังไม่หยุดเพราะโยนโครมไอเดียดึงนายเก่าอย่างอภิสิทธิ์มาฟื้นฟูพรรค เอาอดีตนายกฯมาช่วยหาเสียง สุดท้ายเลยเถิดถึงขั้นให้ดันเป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 2 ของพรรคต่อจากจุรินทร์เลย สาธิตออกมาเขย่า 3 ประสานแบบนี้ ด้านนึงแม้จะเป็นผลดีกับพรรคที่ได้อภิสิทธิ์อดีตนายกฯมากบารมีที่มีแฟนคลับเหนียวแน่นมาช่วย แต่อีกด้านก็ถือเป็นการรุกคืบเข้ามากดดัน 3 ประสานพรรคประชาธิปัตย์ยุคปัจจุบันอย่างหนักหน่วงเช่นกัน หากเลือกตั้งรอบนี้ พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้เชื่อแน่ว่าในพรรคจะเกิดการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ฝ่ายอภิสิทธิ์จะผงาดกลับมาคุมพรรคแน่ สาธิตเดินเกมเขย่าจุรินทร์เที่ยวนี้ถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ต่อ ด้านนึงก็ได้โชว์บารมีของตัวเองที่เที่ยวนี้ประกาศตัวเป็นแม่ทัพภาคตตะวันออกรุกคืบ 3 จังหวัดอีอีซี หากทำสำเร็จโอกาสจะได้นั่งเป็นรัฐมนตรีต่อไปก็มีสูง อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้สาธิตเคยมีสัญญาใจกับเฉลิมชัยเรื่องการเป็นรัฐมนตรีแค่ 2 ปี จากนั้นก็จะคืนเก้าอี้มาให้กับเสี่ยต่อ ที่เจ้าตัววาวคิวให้ “เฮียต๊ง” มนตรี ปาน้อยนนท์ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ น้องรักได้ขึ้นเป็นเสนาบดีมีศักดิ์ศรีกับเขาบ้าง แต่ผ่านมา 2 ปี ทางเสี่ยตี๋ก็ไม่ยอมคืนเก้าอี้เสนาบดีมาเสียที รอบนี้ออกลูกงอแง สร้างสตอรี่สารพัดเรื่องก็เพื่อรักษาเก้าอี้ของตัวเอง อีกด้านก็ช่วยเจ้านายเก่าอภิสิทธิ์ได้ขยับเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่อยู่ลอยๆ จับผลัดจับผลู พรรคประชาธิปัตย์แพ้เลือกตั้งขึ้นมา 3 ประสานต้องคืนอำนาจ อภิสิทธิ์กับขุมกำลังเก่าก็จะเข้ามาสวมสิทธิ์ฮุบพรรคได้ง่ายๆ
ปิดท้ายที่เดอะมาร์คอยู่ๆจะเข้ามาชุบมือเปิบในพรรคก็คงทำไม่ได้ง่ายๆ อย่าลืมว่าการเลือกตั้งคราวก่อน ตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคแท้ๆ ก็ทำพรรคแพ้ถล่มทลาย ตกตับสุดๆยุคหนึ่งของปชป. ทั่วประเทศได้ส.ส.เกินครึ่งร้อยแค่หางอึ่งอ่าง คะแนนรวมลดลงเหลือ 3,960,128 คะแนน จากอดีตได้ส.ส.ร้อยกว่า เป็นคู่ชิงตั้งรัฐบาลแข่งกับคอกเพื่อไทยฝ่ายทักษิณมาตลอด กวาดคะแนน 8-9 ล้านคะแนนจากทั่วประเทศ แต่ก็มาตกต่ำสุดขีดในยุคหน้าหล่อ อภิสิทธิ์ไม่ได้มีสถานะเทพเจ้าเหมือนนายหัวชวนที่จะขายได้ตลอด แบกพรรคคนเดียวไปรอด อาจจะเคยเป็นอดีตนายกฯคนดัง แต่ผลงานตอนเป็นรัฐบาลก็ไม่มีโดดเด่นอะไร สาธิตคิดแผนนี้ถ้าหวังเอามาร์คมาช่วยพรรคแต่พอดีก็จะงาม แต่ถ้าหวังเอาหัวหน้าเก่ามาไล่บี้ขยี้หัวหน้าปัจจุบันดูแล้วมันไม่เหมาะ ยามนี้สงครามใหญ่กำลังจะมาทุกคนในค่สยสีฟ้าควรช่วยกันแบกช่วยกันหาม เล่นการเมืองในบ้านตัวเองไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้ ระวังของจะเข้าตัวที่คิดการใหญ่อาจจะไม่ได้ผล จับตาการเมืองในพรรคเก่าแก่กี่ปีไม่เคยหยุดกี่ชาติไม่เคยนิ่ง
///////////////////