การเมืองในพรรคประชาธิปัตย์กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจุดยืนเป็นคำรบที่สองจะไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และน่าสนใจยิ่งนักเมื่อผู้สื่อข่าวย้อนถาม ถึงประกาศจุดยืนครั้งแรก ที่ส่งผลให้ประชาธิปัตย์ต้องพ่ายแพ้ในสนามเลือกตั้งปี 62 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ ตอบกลับไปว่า คำประกาศที่ออกไปคือ “การยึดถืออุดมการณ์” ของพรรคตั้งแต่การก่อตั้ง
นับตั้งแต่ปี 2489 ภาพของประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ถือมั่นในอุดมการณ์ ตั้งแต่ยุคนายควง อภัยวงศ์, ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมทย์, นายชวนหลีกภัย, และนายอภิสิทธิ์ และยังมีอีกหลายบุลคลที่ยึดหลักการความถูกต้องมาอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่นายอภิสิทธิ์พูดในครั้งนี้แม้จะเป็นการยืนยันตามอุดมการณ์ของหลักการประชาธิปไตย แต่ในวันนี้บริบทการเมืองเปลี่ยนไป โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ที่วันนี้สามารถลบล้างภาพของนายทหารกระทำรัฐประหารมาสู่นักการเมืองเต็มตัว ในรั้วของพรรครวมไทยสร้างชาติ
ดังนั้นการประกาศจุดยืนครั้งที่สอง ที่จะไม่จับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ มีเรื่องต้องให้วิเคราะห์กันว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีแนวทางจัดการในเรื่องดังกล่าวอย่างไร หากต้องการให้นายอภิสิทธิ์หวนคืนสู่สนามการเมืองในฐานะ ส.ส.ปาร์ตีลิสต์อันดับต้น ๆ ซึ่งเรื่องนี้เป็นโจทย์ที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคต้องดีดลูกคิดให้ถี่ท่วน
หากย้อนดูการเลือกตั้งปี 62 ต้องยอมรับว่ากระแสของลุงตู่แรงสุด ๆ ขณะที่กระแสของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในช่วงทรง ๆ แต่ไม่ถึงกลับขาลง เพราะด้วยตัวตนของพรรคประชาธิปัตย์ และความนิยมในตัวของนายอภิสิทธิยังเชื่อขนมกินได้ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ประชาธิปัตย์ไม่เคยเป็นสองรองใคร
เช่นเดียวกับพื้นที่กรุงเทพหานคร พรรคประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ยังได้รับการตอบรับจากคนชั้นกลาง และแฟนคลัปอย่างเหนียวแน่ แต่ด้วยบริบทการเมืองที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะในช่วงรอยต่อปี 57 และปี 62 การเมืองไทยแบ่งขั้วกันชัดเจนระหว่างขั้วคนเอาทักษิณ ชินวัตร และคนเสื้อแดงกับขั้วอนุรักษ์นิยมที่หนุน พล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจากมีภาพความซื่อสัตย์สุจริต และเทิดทูนสถาบัน โดยไม่สนถึงการเข้ามาถือครองอำนาจจากการรัฐประหาร
จากรูปแบบการเมืองที่แตกเป็นสองขั้วชัดเจน ทำให้เกิดแรงผลักมายังพรรคประชาธิปัตย์กลายเป็นพรรคตัวเลือกแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไปโดยปริยาย ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้นายอภิสิทธิ์เลือกแทงหวย ด้วยการประกาศจุดยืนไม่เอาเผด็จการ ไม่สนับสนัน พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ ทราบดีถึงการที่ พล.อ.ประยุทธ์ กระทำรัฐประหารว่ามีสาเหตุมาจากความวุ่นวายของบ้านเมือง นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ยังเคยมีบทเรียนเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงทุบรถจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด