เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธานนปช. เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ใจความสำคัญตอนหนึ่งพูดถึงปรากฎการณ์ยุบพรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ตามคำร้องของหลายฝ่ายจากการตรวจสอบการกระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง โดยระบุว่า ต้องดูวันที่ 3 มี.ค.นี้ และผลการตัดสินของศาล รธน.จะลามเป็นไฟลามทุ่งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ศาล รธน.เคยวินิจฉัยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะมาแล้วเมื่อ 2 เม.ย. 2549 และ 2 ก.พ. 2557 ส่วนครั้งนี้พรรคการเมืองล้วนเฝ้าชะเง้อมองอย่างระทึกเช่นกัน
“เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 มี.ค.นี้ ผมเชื่อและคิดเป็นอื่นไม่ได้ เพราะถ้าชี้ช่องทางเอาคนต่างด้าวมาคำนวณเขตเลือกตั้งได้จะเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งต่อไปอาจมีการวางแผนนำคนต่างด้าวมาจัดหมวดหมู่ เพิ่มสัดส่วนประชากรเพื่อหวังผลทางการเมืองได้เช่นกัน”
ด้วยเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีคนต่างด้าวกว่า 9 แสนคนกระจายไปในเขตเลือกตั้ง 4 จังหวัด หาก ศาลวินิจฉัยว่าทำไม่ได้ ผู้แทน 4 จังหวัดจะลดลง แล้วไปเพิ่มอีก 4 จังหวัด เขตเลือกตั้งจะเปลี่ยนแปลงไป
อีกทั้งยังจะลามไปถึงการเลือกตั้งปี 2562 เสมือนหนึ่งไม่มีการเลือกตั้ง ผล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นเสมือนกับนายกฯ รักษาการมา 4 ปีและยังมีอำนาจตาม ม.44 ในมือ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ ส.ส. ก็มีสภาพเสมือนไม่เคยเป็นมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพราะสภาพการเป็นถูกโมฆะด้วยคำวินิฉัย แต่ยังได้รับการคุ้มครองจากการทำหน้าที่ ในส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ต้องแสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออกหรือถูกดำเนินคดี ซึ่งมีเพียงสองเส้นทางเดินนี้เท่านั้น
สำหรับการยุบพรรคการเมืองทั้ง เพื่อไทย ก้าวไกล และพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น นายจตุพร กล่าวว่า คงเป็นอีกมาตรการหนึ่ง เพราะกรอบเวลาการพิจารณาตามระเบียบใหม่ของ กกต.ดำเนินการภายใน 6 เดือน เปรียบเหมือนการรอตกปลา เพื่อเฝ้าจับตาและให้พรรคการเมืองตายใจ แล้วแสดงพฤติกรรมเข้าข่ายยุบพรรค