ภายหลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยศูนย์คดียาเสพติด อายัด 8 บัญชีธนาคารออมทรัพย์ต้องสงสัยของ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส และประสานเรื่องเส้นทางการเงินร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินอื่นที่เชื่อมโยงกับ นายพันธ์ธวัช ทั้งลักษณะการทำธุรกรรมรับเงินและโอนเงิน ต่อมาพบว่ามีบัญชีธนาคารของ นายพันธ์ธวัช บางส่วนได้มีการทำธุรกรรมทางการเงินกับ นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นเส้นทางการเงินที่ผิดปกติน่าสงสัย เนื่องจากแนวทางการสืบสวนพบว่าทั้งสองมีการลงทุนทำธุรกิจร่วมกันมานาน ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
"แทนไท" เข้าพบ "ดีเอสไอ" ตามหมายเรียก ชี้แจงเส้นทางการเงินโยง "นอท กองสลากพลัส"
ข่าวที่น่าสนใจ
และเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา แหล่งข่าวภายในกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กรณีที่ดีเอสไอเรียกนายแทนไท มาสอบปากคำในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) เวลา 09.00 น. เป็นการเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน ซึ่งตนได้รับรายงานว่า นายแทนไท ยังไม่ได้ติดต่อตอบรับ หรือขอเลื่อนเข้าให้ปากคำแต่อย่างใด แต่ทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคาดว่าจะมาตามกำหนดนัดหมาย ส่วนประเด็นที่จะสอบถามนั้น เจ้าหน้าที่จะสอบถามในทุกประเด็นที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความชัดเจน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าประเด็นใดบ้าง เพราะอาจส่งผลต่อรูปคดี หากนายแทนไท ไม่เข้ามาให้ปากคำตามขั้นตอน พนักงานสอบสวนก็จะทำการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2
วันนี้ (27 ก.พ.) นายแทนไท ณรงค์กูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไททัน แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด พร้อมนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ และทีมงานเข้าพบพนักงานสอบสวนศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ตามหมายเรียกครั้งแรกในฐานะพยาน หลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอตรวจสอบพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับ นอท กองสลากพลัส กว่า 100 ล้านบาท โดยก่อนที่นายแทนไทเข้าพบพนักงานสอบสวน ได้ยืนยันว่า เงินจำนวนกว่า 100 ล้านบาทที่ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส โอนมาให้ไม่ใช่เงินร่วมทำธุรกิจแต่อย่างใด เป็นเพียงการเงินให้กู้ยืมเท่านั้น และพร้อมชี้แจงทุกอย่างโดยจะให้สัมภาษณ์หลังเข้าพบพนักงานสอบสวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง