เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับ รายจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกตัญญู สยามร่วมใจ และทีมงานสายไหมต้องรอด ร่วมกันสกัดจับกุมนายหนุ่ม สงวนนามสกุล อายุ 32 ปี หลังอาละวาดก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว และขโมยกระเป๋าของเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ก่อนขับรถหลบหนีจากชุมชนย่านลาดปลาเค้า วนทั่วกรุงเป็นระยะทางรวมกว่า 110 กิโลเมตร จนถูกตำรวจอรินทราชเอารถขวางสกัดจับกุมไว้ได้ที่บริเวณปากซอยรามอินทรา 28
นายธนวัฒน์ มัณฑุกานนท์ เจ้าหน้าที่กู้ชีพที่รับแจ้งเหตุเล่าว่า ตอนแรกได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกันในครอบครัว ที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยลาดปลาเค้า 76 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยผู้ก่อเหตุคือลูกชายคนโตของบ้าน มีการดื่มสุรากับเพื่อนตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนมึนเมา ประกอบกับมีปัญหากับแฟนสาว จึงอาละวาด แต่เมื่อไปถึงผู้ก่อเหตุได้ออกจากบ้านไปแล้ว และคนในครอบครัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ตนเองจึงกลับออกมา แต่ไม่นานก็ได้รับแจ้งอีกครั้งว่าน้องชายของผู้ก่อเหตุหมดสติไป เนื่องจากอาการอ่อนเพลีย จึงกลับไปที่เกิดเหตุอีกครั้ง แต่ระหว่างขั้นตอนการรักษา ผู้ก่อเหตุก็เดินเข้ามาเตะน้องชาย ก่อนจะไปผลักแม่ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ และหยิบเอากรรไกรทางการแพทย์ของเจ้าหน้าที่กู้ภัยไป และนำมาชูในลักษณะจะข่มขู่ จากนั้นยังได้หยิบกระเป๋าเครื่องมือทางการแพทย์ขึ้นรถยนต์ฮอนด้า HRV หลบหนี พร้อมท้าให้เจ้าหน้าที่ขับไล่ตามไป เนื่องด้วยกระเป๋าเครื่องมือทางการแพทย์จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วย เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจไล่ตามตั้งแต่ย่านลาดปลาเค้า ไปจนรามคำแหง ต่อเนื่องร่มเกล้า พัฒนาการ คลองตัน ประตูน้ำ ห้าแยกลาดพร้าว เกษตรนวมินทร์ จนถูกสกัดได้ที่ถนนรามอินทรา
โดยผู้ที่ช่วยสกัดจับกุมได้คือสิบตำรวจเอกสมศักดิ์ นาดี ผบ.หมู่กองร้อยปฏิบัติการพิเศษ ที่ 2 กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งเล่าว่า ระหว่างที่กำลังพักผ่อนหลังออกเวรอยู่ในกองบินตำรวจ ก็เจอไลฟ์ไล่ล่าผู้ก่อเหตุในเฟซบุ๊ก และเห็นว่าอยู่ในพื้นที่ใกล้ๆ จึงตัดสินใจไปดักรอบริเวณถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ก่อเหตุกำลังมุ่งหน้าไป เมื่อเห็นรถผู้ก่อเหตุก็ตัดสินใจเอารถอีซูซุแวนคามิโอของตนเองเข้าขวางกลางถนนทันที จนรถผู้ก่อเหตุชนกับรถของตนเองและจอดนิ่ง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวิ่งลงจากรถและถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันรุมจับตัวไว้ได้ และส่งให้ตำรวจ สน.บางเขนรับไปดำเนินคดี
เบื้องต้นแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ และออกนอกเคหะสถานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ก่อนส่งตรวจหาสารเสพติดในร่างกายต่อไป