“เขตรัฐ” จุดยืนชัด “ผมไม่หนุนแก้ ม.112” พร้อมฝากถึงเยาวชน และคนบงการ

“ผมมองไม่เห็นว่า การแก้ ม.112 จะทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้นได้อย่างไร” น้องๆครับ มาตรา 112 ไกลตัวมาก ควรจะมาเรียกร้องให้แก้ไขกฎการจราจรจะดีกว่า เพราะเป็นกฎที่บังคับใช้อยู่เป็นประจำ ... “เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์” ยกเหตุผลสอนเยาวชนเคลื่อนไหวการเมือง และฝากไปถึงคนบงการเบื้องหลัง

ยิ่งนานวันความก้าวร้าวรุนแรงของเยาวชนที่ออกมาเรียกร้องทางการเมืองโดยพยายามยึดโยงประเด็นเชื่อมไปยังสถาบันเบื้องสูง ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั่นก็คือ “เด็ก และเยาวชน” เหล่านี้ เมื่อถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย กลับไม่สำนึก ไม่รู้สึกรู้สา ดาหน้ากันออกมา เรียกร้องให้ตัวเองหลุดพ้นจากความผิดด้วยพฤติกรรมพิลึก พิลั่น ทั้งปลุกปั่นเรียกร้องความสนใจให้พวกเดียวกันเคลื่อนไหวฝ่าฝืนกฎหมาย

 

 

โดยเฉพาะเคสล่าสุด น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ “ตะวัน” วัย 21 ปี และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือ “แบม” อายุ 23 ปี ประกาศอดอาหารและน้ำตั้งแต่ 18 ม.ค. เพื่อเรียกร้องให้ศาลอนุมัติการประกันตัว คดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทว่าการเคลื่อนไหวเหล่านี้แน่นอนว่ามีผู้ชักใยป้อนชุดข้อมูลความคิดผิดๆให้ เด็กและเยาวชน ต้องคล้อยตาม และแสดงออกในพฤติกรรมอันมิบังควร

 

แต่สำหรับมุมมองของ นักการเมืองเลือดใหม่ หลักคิดทันสมัยอย่าง “เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าอกเข้าใจดีกว่า การที่เยาวชนเหล่านี้ ออกมา เคลื่อนไหวเรียกร้องสิ่งต่างๆ ลึกๆแล้ว “มันคือความหวังดี เป็นห่วงประเทศชาติ ห่วงอนาคตของตัวเอง” แต่รูปแบบของการกระทำ จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ ให้กลายเป็นอีกเรื่องนึง ส่วนในเรื่องของ ข้อเรียกร้องในการบริหารประเทศ หรือมุมมองการเมือง เหล่านี้เป็นเสียงที่รัฐบาลควรรับฟังเยาวชน สิ่งไหนควรปรับ ก็ต้องปรับ

ข่าวที่น่าสนใจ

“แต่ที่มากกว่าการเมืองการบริหารประเทศ นั่นก็คือ น้องๆจำนวนหนึ่ง กำลังเข้าใจผิดเกี่ยวกับ บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ และพยายามผูกโยงให้เกี่ยวพันการเมือง โดยเฉพาะเรื่องของ ม. 112 … สำหรับผม มาตรา 112 เป็นมาตราที่ “ห่างไกลชีวิตตัวเองมาก” ถ้าน้อง ๆ เยาวชนต้องการจะเรียกร้องให้แก้ไขมาตรา 112 ผมคิดว่าน้อง ๆ ควรจะมาเรียกร้องให้แก้ไขกฎการจราจรจะดีกว่า เพราะเป็นกฎที่บังคับใช้อยู่เป็นประจำและเราก็โดนกันอยู่เป็นประจำ ผมจึงมองไม่เห็นว่า การแก้มาตรา 112 จะทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้นได้อย่างไร และมีเหตุผลไหน มีใคร ทำให้น้อง ๆ ต้องออกมาเคลื่อนไหว และแสดงพฤติกรรมในสิ่งที่ไม่ควรทำ”

 

 

 

 

“เขตรัฐ” เล่าถึงประสบการณ์ตรง ที่ได้สัมผัสกับกับความเป็นห่วงเป็นใย พสกนิกรไทยของ สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เราฟังว่า “ครั้งนึง ผมได้รับแจ้งว่ามีน้ำท่วมหนัก ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี หลายครอบครัว ที่มีทั้งเด็กเล็กและคนชรา ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่ง ณ ขณะนั้น ทีมงานของผมที่กาญจนบุรี ไม่รีรอ และลงพื้นที่ในทันที แต่เชื่อมั้ยครับว่า กลับมีหน่วยงานหนึ่งที่ไวกว่า นั่นก็คือ “จิตอาสาพระราชา”​ หรือ “จิตอาสา  904” พร้อมด้วยถุงพระราชทาน ได้เดินทางไปถึงก่อนหน้าพวกเรา และให้การช่วยเหลือไปแล้ว นี่คือความใส่ใจ ห่วงใยพสกนิกรไทยในเรื่องความเดือดร้อนขั้นพื้นฐาน ยังไม่รวมเรื่องอื่น ๆ อีกมาก ที่ไม่ได้ออกมาโปรโมทให้ทราบ

“ฝากไปถึงผู้อาวุโส หรือผู้ใหญ่ ที่อยู่เบื้องหลังน้อง ๆ ให้ออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องทางการเมือง หรือเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ คุณควรพิจรณาตัวเองว่า การกระทำที่พวกคุณกำลังทำอยู่ มันส่งผลอะไรกับปัจบันและอนาคตของประเทศชาติ เด็กเหล่านี้มีความรู้ความสามารถ เด็กเหล่านี้ บางคนอายุ แค่ 17- 18 ปี แต่ต้องทำสิ่งที่มันเกินอายุ เพราะพวกคุณเอาแต่ปลุกปั่น ป้อนข้อมูล ชุดความคิดที่ผิดๆ ผลที่ตามมาคือความเดือดร้อนเกิดขึ้นกับครอบครัว กับพี่น้องคนรอบข้างของเค้า ที่ต้องมาคอยช่วยเหลือแบกรับ แต่คนที่กระทำการปลุกปั่นหละ? คุณอยู่ที่ไหน คุณรับผิดชอบการกระทำอะไรเรื่องนี้บ้าง”

“เขตรัฐ” บอกด้วยว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่อุปสรรค์ของประชาธิปไตยตามที่เค้าพูด ประเทศแต่ละประเทศมีระบอบการปกครองเป็นของตัวเอง เหมือนประเทศมหาอำนาจ อย่างประเทศ “จีน” กับ “สหรัฐอเมริกา” ก็มีรูปแบบเป็นการปกครองเป็นของตัวเอง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทุกประเทศ ล้วนแล้วมีเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ในการปกครองสอดแทรกอยู่ ผมมองว่าประเทศเราควรหยุดการแบ่งแยกได้แล้ว อย่าบอกว่าฝ่ายไหนเป็น “ประชาธิปไตย” หรือฝ่ายไหนเป็น”ฝ่ายโหนเจ้า”

“สมมุติน้องบอกว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ หรือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นพวกโหนเจ้า อยากให้น้องลองมองย้อนกลับไปที่รัฐบาลคุณทักษิณ ซึ่งก็ทำงานใกล้ชิดกับสถาบันเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์แตกต่างกัน คนนึงทำงานเพื่อดำรงไว้ซึ่ง “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์” และประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนอีกคนนึงทำงาน เพื่อผลลัพธ์อะไร? ถึงได้ส่งผลให้มีประชาชนมากมาย ออกมารวมตัวกันต่อต้านสิ่งที่คนทั้งประเทศหวงแหน”

“เขตรัฐ” ทิ้งท้ายว่า …… “น้องๆอย่าฟังความข้างเดียว อย่าเพิ่งปิดกั้น และช่วยเปิดฟังชุดความคิดอีกความคิดหนึ่ง เพื่อประกอบการตัดสินใจของน้อง ๆ โดยเฉพาะในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือเลือกพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง เข้าไปเป็นตัวแทนประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น