ททท.คาดปีนี้ไทยมีรายได้ท่องเที่ยว 2.38 ล้านล้าน “เราเที่ยวด้วยกัน” ดันสงกรานต์คึกคัก

ททท.คงเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยว ปี 2566 ที่ 2.38 ล้านล้านบาท ชี้โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ลงทะเบียนใหม่คึกคัก คาดหนุนคนไทยเที่ยวช่วงสงกรานต์ ผลักดันรายได้ของคนไทยทั้งปีนี้ ที่ 880,000 ล้านบาท

วันนี้ (28 ก.พ.66) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในปีนี้ ททท.ได้คงเป้าหมายการสร้างรายได้รวมการท่องเที่ยวปี 2566 ไว้เท่าเดิมคือ 2.38 ล้านล้านบาท โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวชาวไทย 135 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 880,000 ล้านบาท เนื่องจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ท้าทายอยู่แล้ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกถดถอย ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาเงินเฟ้อที่นำไปสู่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลทำให้เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

 

ขณะที่ แนวโน้มนักท่องเที่ยวไตรมาส 2 ตลาดต่างประเทศเป็นช่วงปลายของตลาดยุโรปหรือตลาดระยะไกล ซึ่งหวังว่าจะมีตลาดที่เข้ามาชดเชยโดยเฉพาะระยะใกล้ ทั้งอาเซียน อินเดีย จีน หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย

ข่าวที่น่าสนใจ

นายยุทธศักดิ์ ระบุถึง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 ที่ได้เปิดให้ลงทะเบียนวันเเรกเมื่อวานนี้( 27 ก.พ.) สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ์ พบว่า ในช่วงเวลา 16.00 น. ของวันที่ 27 ก.พ. มีผู้สมัครรายใหม่ร่วมลงทะเบียนแล้วกว่า 3 หมื่นราย ส่งผลให้ขณะนี้ มีประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลมีอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน โดยคนที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว สามารถที่จะระบบ บนแอพพลิเคชั่น เพื่อยอมรับเงื่อนไขการร่วมโครงการครั้งใหม่

 

เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ อาทิ จำนวนสิทธิ์ที่ได้รับ จาก 10 สิทธิ์ เหลือ 5 สิทธิ์ ต่อคน แม้จะไม่มีสิทธิ์ในเรื่องของตั๋วเครื่องบิน แต่ก็ยังมีสิทธิ์ในเรื่องของการลดค่าที่พัก 40% สูงสุด 3,000 บาทต่อห้อง และ สนับสนุนคูปอง E-Voucher 600 บาทต่อวัน เช่นเดิม โดยสามารถเริ่มจองใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. และ เดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม เป็นต้นไป โดยใช้สิทธิ์ ได้ถึง 30 เมษายนนี้

 

ทั้งนี้จากข้อมูลที่ผ่านมาของโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1- 4 พบว่ามีประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ต่อเดือนประมาณ 500,000 สิทธิ์ รวมถึงขณะที่หลายประเทศเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ทำให้มีการจัดโปรโมชั่นเพื่อแย่งชิงนักท่องเที่ยว รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยด้วย โดยททท.ได้ต้องการให้นักท่องเที่ยวไทยได้ท่องเที่ยวในประเทศในช่วงสงกรานต์ จึงต้องการให้ใช้สิทธิ์ในเดือนเมษายน

 

ในส่วนของจำนวนห้องพักนั้น ได้มีการรับสมัครผู้ประกอบการโรงแรมเพื่อเข้าร่วมโครงการททท. ในส่วนของผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ และผู้ประกอบการรายเดิมก็ยังอยู่ในโครงการและยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา และจำนวน เนื้องจากหากให้มีการเปลี่ยนแปลงราคาก็ยังมาเป็นในส่วนของประชาชนต้องจ่ายเพิ่ม เนื่องจากโครงการนี้รัฐบาลจะจ่ายให้ไม่เกิน 4% หรือ ไม่เกิน 3 พันบาท ผู้ประกอบการรายเดิมจึงยังร่วมโครงการเช่นเดิม ขณะที่ ผู้ประกอบการรายใหม่ก็สามารถที่จะสมัครเพิ่มเข้าร่วมโครงการได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กและไม่ได้เข้าร่วมในช่วงที่ผ่านมาเพื่อกระจายโอกาสให้ผู้ประกอบการมากขึ้น แม้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเพิ่มขึ้นก็ตาม

 

 

นายยุทธศักดิ์ กล่าวถึงข้อกังวลของภาคเอกชนเรื่องการเก็บค่าเหยียบแผ่นดินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเริ่มวันที่ 1 มิ.ย.นี้ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังหารือกันอย่างจริงจังโดยได้ดำเนินการใน 2 ส่วน ทั้งการทำความเข้าใจในเรื่องของประโยชน์ที่จะให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร รวมทั้งทำความเข้าใจกับวิธีการจัดเก็บของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และเมื่อจัดเก็บแล้ว ททท.จะนำเงินมาใช่ประโยชน์อย่างไร ซึ่งเบื้องต้นจะนำค่าธรรมเนียมที่จัดเก็บมาใช้ในการทำให้การท่องเที่ยวมีคุณภาพและยั่งยืนมากขึ้น

 

 

นอกจากนี้นายยุทธศักดิ์ กล่าวถึงในส่วนของจำนวนนักท่องเที่ยวรัสเซียที่เข้ามาในประเทศไทยว่า สำหรับนักท่องเที่ยวรัสเซียเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งททท. ได้พยายามหารือกับทางสายการบินในการนำเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(charter) เข้ามาเพิ่มเติม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกอย่างเช่นสนามบินอู่ตะเภา และจะดำเนินการให้เกิดความต่อเนื่อง เนื่องจากมีดีมานจากตลาดรัสเซียเข้าประเทศไทยที่ค่อนข้างสูง

ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวรัสเซียที่ตกค้าง จากสงครามรัสเซียยูเครนขณะนี้ยังไม่มีเสียงสะท้อนออกมาว่ามีความเดือดร้อนโดยนักท่องเที่ยวทุกคนอย่างมีความสุขในการอยู่ประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น