นายจอห์น เคอร์รี่ ทูตพิเศษด้านสภาพอากาศของสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับนางมารินา ซิลวา รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของบราซิล หลังการประชุมที่บราซิล เกี่ยวกับเงินทุนของสหรัฐ สำหรับการอนุรักษ์ป่าว่า ความเป็นจริงก็คือ อเมซอนคือบททดสอบมนุษยชาติของเรา โลกไม่สามารถบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศ ที่จะจำกัดอุณหภูมิโลก ให้เพิ่มอยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียสได้ เว้นแต่ว่า ป่าอเมซอนจะได้รับการปกป้องในระดับโลก การปกป้องอเมซอนมีความสำคัญต่อการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากก๊าซเรือนกระจกปริมาณมหาศาล จะถูกต้นไม้ของป่าดูดซับเอาไว้
เคอร์รี่ย้ำต่อว่า เราต้องทำงานร่วมกัน ไม่ใช่ในระดับทวิภาคีเท่านั้น แต่เป็นระดับทั่วโลก โดยสหรัฐเอง ก็กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินผ่านร่างกฎหมายออกมาให้ได้ อย่างไรก็ดี เคอร์รี่ยังไม่ได้ระบุถึงจำนวนเงินที่แน่นอน ในการให้การสนับสนุนกองทุนแต่อย่างใด
ด้านซิลวาก็กล่าวว่า เธอได้มีการหารือกับเคอร์รี่ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเปิดประเทศของสหรัฐ เพื่อรับผลิตภัณฑ์ที่มาจากบราซิล แบบยั่งยืนมากยิ่งขึ้น และบราซิลก็มีความยินดีมาก ที่สหรัฐมุ่งมั่นในจุดประสงค์ของการบริจาคเพื่อกองทุนป่าอเมซอน รวมถึงมีความพยายามที่จะปกป้องผืนป่าของโลก ไม่ว่าจะเป็นในคองโก, ในบราซิล, ในโคลอมเบีย, ในอินโดนีเซีย ทุกแห่งในโลก นี่เป็นพื้นฐานที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ที่จะช่วยพวกเรา ในการปกป้องป่าของเรา
ทั้งนี้ สหรัฐและบราซิลได้เริ่มกลับมาทำงานเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านสภาพอากาศ และสิ่งแวดล้อมแบบทวิภาคีอีกครั้ง หลังจากที่เคยเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2015 แต่ก็หยุดชะงักไปช่วงของนายจาอีร์ โบลโซนาโร อดีตประธานาธิบดีคนก่อน โดยช่วงของโบลโซนาโรปกครองประเทศนั้น การตัดไม้ทำลายป่าทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี เพราะยุคนั้น ได้มีการยกเลิกการปกป้องสิ่งแวดล้อม จนเมื่อประธานาธิบดีลูลา ดา ซิลวา เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปี ก็เร่งกลับมาหารือเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการตัดไม้ทำลายป่า กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐทันที