สภาอุตฯ ชี้เป้านโยบาย “รัฐบาลใหม่” ที่ภาคอุตสาหกรรมอยากได้ ขอให้ความสำคัญ 5 เรื่องหลัก

สภาอุตฯ เปิดผลสำรวจ FTI Poll หัวข้อ “นโยบายรัฐบาลใหม่ที่ภาคอุตสาหกรรมอยากได้” ชี้ภาคเอกชนคาดหวังรัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบาย 5 เรื่อง ทั้งแก้ปัญหาต้นทุนพลังงาน เพิ่มความสามารถการแข่งขัน แก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ความเหลื่อมล้ำในภาคธุรกิจ ปัญหาโลกร้อนและมาตรการกีดกันทางการค้า

วันนี้ (2 มี.ค.66 ) นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 26 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ภายใต้หัวข้อ “นโยบายรัฐบาลใหม่ที่ภาคอุตสาหกรรมอยากได้” พบว่า จากการที่ประเทศไทยจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ภาคอุตสาหกรรมมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่เราจะได้รัฐบาลใหม่ และมีนโยบายใหม่ๆ ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งจากการสำรวจความเห็นของผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ คาดหวังให้รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับกรอบนโยบายใน 5 เรื่อง ดังนี้

 

 

 

1. การแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงานและการสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานให้แก่ประเทศ

2. การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม

3. การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น

4. การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในภาคธุรกิจ และการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME

5. การแก้ไขปัญหาโลกร้อน Climate change มาตรการกีดกันทางการค้า และการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งในแต่ละเรื่อง ส.อ.ท. ได้มีการสำรวจความเห็นเจาะลึกในแต่ละประเด็นนโยบายย่อย เพื่อเป็นโจทย์ให้กับพรรคการเมืองที่มีการหาเสียงอยู่ในขณะนี้ นำไปใช้เป็นกรอบในการกำหนดนโยบายการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศในอนาคตต่อไป

จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 255 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 26 จำนวน 6 คำถาม ดังนี้

1. รัฐบาลใหม่ควรให้ความสำคัญกับนโยบายในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมเรื่องใด (Multiple choices)

อันดับที่ 1 : การแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงาน และการสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานให้แก่ประเทศ 81.6%

อันดับที่ 2 : การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม 77.3%

อันดับที่ 3 : การแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น 70.6%

อันดับที่ 4 : การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในภาคธุรกิจ และการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME 52.5%

อันดับที่ 5:การแก้ไขปัญหาโลกร้อน Climate change มาตรการกีดกันทางการค้าและการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม 47.8%

 

 

 

2. นโยบายใดช่วยแก้ไขปัญหาต้นทุนพลังงาน และการสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานให้แก่ประเทศ (Multiple choices)

อันดับที่ 1 : เร่งเปิดเสรีพลังงานทางเลือก ส่งเสริมการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใช้เองภายในโรงงาน 72.9%

อันดับที่ 2 : ปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย 71.8%

อันดับที่ 3 : แก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบจากนโยบายด้านพลังงานให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการภาคผลิตและบริการ รวมถึงผู้ลงทุน 66.7%

อันดับที่ 4 :เร่งเปิดให้เอกชนสามารถใช้ระบบส่ง/จำหน่ายไฟฟ้า (Third Party Access) เพื่อนำไปสู่ Net Metering 54.5%

 

3. นโยบายใดช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม (Multiple choices)

อันดับที่ 1 : ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาและนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการผลิต 71.4%

อันดับที่ 2 : การส่งเสริมการลงทุนทั้งในอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-Curve ในประเทศ เช่น การปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี, การอำนวยความสะดวก, การสนับสนุนด้านการเงิน เป็นต้น 60.0%

อันดับที่ 3 : ยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงาน Upskill & Reskill และพัฒนาระบบการศึกษาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนภาคธุรกิจ 56.9%

อันดับที่ 4 : ส่งเสริมแนวคิด BCG Model เพื่อสร้างมูลค่าให้กับภาคการเกษตร ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม55.3%

4. นโยบายใดช่วยแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น (Multiple choices)

อันดับที่ 1 : เพิ่มบทลงโทษคนกระทำผิด และปรับปรุงกระบวนการยุติธรรม ให้มุ่งอำนวยความยุติธรรมโดยให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วเป็นสำคัญ 72.5%

อันดับที่ 2 : ปรับรูปแบบจากระบบการขออนุมัติอนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ มาเป็นการรายงานผลการปฏิบัติตามกฎหมาย (Self- Declaration) และตรวจติดตามผล 62.4%

อันดับที่ 3 : ขยายผลการจัดทำข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ในการจัดซื้อจัดจ้างทุกระดับ เพื่อเปิดให้เอกชนมีส่วนร่วมเข้าไปสังเกตการณ์และตรวจสอบ 53.3%

อันดับที่ 4 : มีรางวัลนำจับให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสการทุจริตคอรัปชั่น เพื่อสร้างแนวร่วมในการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น 50.2%

5. นโยบายใดช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในภาคธุรกิจ และการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME (Multiple choices)

อันดับที่ 1 : สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับ SME และมาตรการช่วยเหลือต่างๆ 66.7%

อันดับที่ 2 : ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ 65.9%

อันดับที่ 3 : เพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนให้แก่ SME ทั้งมาตรการทางภาษี และมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี รวมทั้ง การบริการครบวงจร 62.4%

อันดับที่ 4 : สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านธุรกิจ Startup และสนับสนุนให้เกิด Technology transfer แก่ผู้ประกอบการ SME 52.5%

 

6. นโยบายใดช่วยรับมือกับปัญหาโลกร้อน Climate change มาตรการกีดกันทางการค้าและการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม (Multiple choices)

อันดับที่ 1 : ส่งเสริมอุตสาหกรรมตามนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อนำของเสียกลับมาสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ 73.3%

อันดับที่ 2 : สนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนพลังงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โซลาร์ฟาร์ม โซลาร์รูฟท็อป 66.3%

อันดับที่ 3 : เพิ่มสิทธิประโยชน์ในการส่งเสริมโรงงานให้มีการปรับปรุงการผลิต และเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 65.1%

อันดับที่ 4 : ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งผู้ใช้และผู้ผลิต (Eco product, Green label) 59.2%

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”
KIA-PDF ตีวงล้อมพม่า! ทอ.โผล่ช่วย แต่ยิงพลาดเป้า-สอยร่วงพวกเดียวกัน
จังหวัดฉะเชิงเทราปล่อยปลากะพงขาวเสริมทัพ คุมปลาหมอคางดำต่อเนื่อง ชูกินได้-อร่อยด้วย
ห้าดาว คว้า 3 รางวัลใหญ่ 'แฟรนไชส์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2024' พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการสู่ธุรกิจมั่นคง
ปลาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำญี่ปุ่นล้มป่วยเพราะเหงา
“ดร.เฉลิมชัย” ลงพื้นที่ตรวจราชการโครงการน้ำบาดาลระยะไกล แก้ปัญหาพื้นที่ขาดแคลนน้ำให้แก่ประชาชน ต.นาข่า จ.อุดรธานี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น