วันนี้ (2 มี.ค.66) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) แถลงข่าวบริษัทใหม่รวมศักยภาพจุดแข็งดีแทคและทรู มุ่งสู่ผู้นำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีของไทย พร้อมชูแนวคิด “ชีวิตดีกว่า เมื่อมีกันและกัน (Better Together)” ผสานพลังรวมกัน 1+1 เท่ากับ อินฟินิตี้
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากการรวมธุรกิจเข้าด้วยกัน บริษัทใหม่จะได้ประโยชน์จากการผนึกกำลังร่วมกัน (Synergy) ทั้งด้านการลงทุนและรายได้ ซึ่งจะขับเคลื่อนร่วมกัน อาทิ โครงข่ายโทรคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เครือข่ายไอที การจัดซื้อ การขาย การตลาด ช่องทางการค้าปลีก และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยจะนำสู่สมดุลความเสมอภาคและความเท่าเทียมในการแข่งขัน และจะนำมาสู่ประโยชน์สูงสุดของลูกค้า “การรวมกันของเราจะสร้างประโยชน์ให้กับผู้บริโภคชาวไทย และเป็นการทรานสฟอร์มประเทศไทยสู่วิถีดิจิทัลที่เร็วยิ่งขึ้น ยกระดับภาคธุรกิจให้พร้อมแข่งขันได้ในเวทีระดับโลก ตลอดจนเชื่อมโยงทุกระบบเร่งสร้างจุดเปลี่ยนเศรษฐกิจไทย”
ทั้งนี้ จะดูแลผู้ใช้งานมือถือทั้งสองแบรนด์ในวันนี้ คือ ทรูมูฟ เอช 33.8 ล้านเลขหมาย และดีแทค 21.2 ล้านเลขหมาย พร้อมผู้ใช้งานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตทรูออนไลน์ 5 ล้านราย และผู้ใช้งานโทรทัศน์ทรูวิชั่นส์ 3.2 ล้านราย
ทั้งนี้มูลค่าตลาดของทั้งสองบริษัทรวมกัน (Market Capitalization) ประมาณ 2.94 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยบริษัท จะเริ่มนำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 3 มี.ค. นี้
ขณะที่ในส่วนของค่าบริการที่หลายฝ่ายมีความกังวลว่าจะมีการปรับเพิ่มขึ้นเมื่อมีการรวมธุรกิจ นายมนัสส์ ยืนยันว่า จะยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด โดยยังคงเป็นราคาและโปรโมชั่นปกติ
นอกจากนี้ ทรูจะทยอยนำเสนอสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม ทั้งในแง่ของการขยายช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมมากขึ้น การบันเดิลแพกเกจเพื่อให้ลูกค้า ดีแทค สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ทรู ออนไลน์ หรือคอนเทนต์ต่าง ๆ
ทรู คอร์ปอเรชั่น จะร่วมกับพันธมิตรระดมทุนจำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.3 พันล้านบาท จัดตั้งกองทุน Venture Capital (VC) รวมทั้งจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมที่สนับสนุนผู้ประกอบการดิจิทัลเพื่อวางรากฐานสำหรับผลักดันสู่อนาคตของสตาร์ทอัพไทยในระดับยูนิคอร์น ซึ่งพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและความเชี่ยวชาญที่พัฒนาจากเทเลนอร์ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งเครือข่ายธุรกิจระดับนานาชาติอีกด้วย
นายมนัสส์ กล่าวว่า บริษัทใหม่จะมุ่งสู่ผู้นำด้านโครงข่ายอย่างแท้จริง โดยจะขยายโครงข่าย 5G ครอบคลุม 98% ของประชากร ในปี 2569 พร้อมพัฒนาและขยายเครือข่ายทั่วประเทศ และตามรายงานโดยการวิจัยของ GSMA คาดว่า 5G จะช่วยผลักดันการเติบโตของ GDP ในประเทศไทยที่มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.7 แสนล้านบาท) ในปี 2573
โดยทรู คอร์ปอเรชั่น จะให้บริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้แบรนด์ “ทรู” และ “ดีแทค” โดยลูกค้าสามารถใช้สัญญาณคุณภาพดีขึ้นทันทีจากสัญลักษณ์เครือข่าย dtac-True และ True-dtac บนหน้าจอมือถือ ซึ่งเป็นก้าวแรกในการพัฒนาคุณภาพสัญญาณโมบายล์อินเทอร์เน็ตด้วยการ “โรมมิ่ง” สัญญาณข้ามโครงข่าย เพื่อใช้งาน 5G และ 4G บนคลื่น 2600 MHz และ 700 MHz โดยลูกค้าดีแทคสามารถใช้งาน 5G บนคลื่น 2600 MHz และลูกค้าทรูสามารถใช้งาน 4G และ 5G คลื่น 700 MHz ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว ทั้งนี้ จะขยายครบทั้ง 77 จังหวัดประมาณกลางมีนาคมนี้