โรค “ติดโทรศัพท์” ระวัง 7 โรคอันตราย เสี่ยงสุขภาพพังไม่รู้ตัว

โรคติดโทรศัพท์, ติดโทรศัพท์, อา การ ติด โทร ศัพท์, โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป, จอโทรทัศน์, จอสมาร์ทโฟน, จ้องหน้าจอ, แสงสีฟ้า, จอประสาทตา, โรคทางสายตา, โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคต้อกระจก, โรควุ้นสายตาเสื่อม, โรคสายตาสั้นเทียม, ออฟฟิศซินโดรม, ติดมือถือ, ติดสมาร์ทโฟน, โรคอ้วน, เสพติดโทรศัพท์, เล่นโทรศัพท์, โรคขาดสารอาหาร, โนโมโฟเปีย, โรคขาดมือถือไม่ได้, ติดโซเชียลมีเดีย, เนื้องอกในสมอง, มะเร็ง

โรค "ติดโทรศัพท์" มากเกินไป ระวังลิสต์ 7 โรคร้ายต่อคิว เสี่ยงสุขภาพพังไม่รู้ตัว รู้แล้วแก้ไขด่วน

ใครเข้าข่าย โรค “ติดโทรศัพท์” อา การ ติด โทร ศัพท์ โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป  รู้สึกขาดโทรศัพท์ไม่ได้ ระวังให้ดี แพทย์เตือนเสี่ยง 7 โรคร้ายถามหาไม่รู้ตัว แก้ไขด่วนก่อนสาย จะมีโรคอะไรบ้าง ติตตามต่อได้ที่นี่  TOP News

ข่าวที่น่าสนใจ

1. อาการที่เกี่ยวกับดวงตา

  • แสงที่ส่งผลกระทบมากที่สุด คือ แสงสีฟ้า โดยแสงสีฟ้าผสมอยู่ในช่วงสีน้ำเงินกับคราม และยังเป็นแสงที่มีพลังงานสูงใกล้เคียงรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) อีกด้วย ทำให้เป็นหนึ่งในแสงที่สามารถเข้าไปสู่จอประสาทตาได้อย่างง่าย
  • เวลาใช้หน้าจอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต เราจำเป็นต้องเพ่งสายตาจ้องหน้าจอที่มีแสงจ้าเหล่านั้น หากจ้องนานเกินไป ก็อาจเกิดผลเสียต่อดวงตาได้หลายทาง เช่น
    • อาการสายตาล้า ปวดตา
    • ตาแห้ง
    • ตามัว
    • สำหรับเด็กเล็กอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสายตาสั้นได้
    • อาจจะทำให้เซลล์ในดวงตาตายได้ ซึ่งหนักถึงขั้นสูญเสียการมองเห็นเลยทีเดียว

อันตรายจากการมองแสงสีฟ้า

  • สามารถทำลายจอประสาทตา (เรติน่า) อาจเริ่มส่งสัญญาณบางอย่างมาเตือน เช่น
    • อาการเจ็บตา
    • ระคายเคือง
    • ตาแห้ง
    • บางครั้งสายตาพร่ามัว
    • ปวดกระบอกตาอยู่บ่อย ๆ และอาจมีอาการไมเกรนพ่วงมาด้วย
    • อาจทำให้เกิดโรคทางสายตา เช่น Computer Vision Syndrome โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก โรควุ้นสายตาเสื่อม หรือโรคสายตาสั้นเทียม

 

โรคติดโทรศัพท์, ติดโทรศัพท์, อา การ ติด โทร ศัพท์, โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป, จอโทรทัศน์, จอสมาร์ทโฟน, จ้องหน้าจอ, แสงสีฟ้า, จอประสาทตา, โรคทางสายตา, โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคต้อกระจก, โรควุ้นสายตาเสื่อม, โรคสายตาสั้นเทียม, ออฟฟิศซินโดรม, ติดมือถือ, ติดสมาร์ทโฟน, โรคอ้วน, เสพติดโทรศัพท์, เล่นโทรศัพท์, โรคขาดสารอาหาร, โนโมโฟเปีย, โรคขาดมือถือไม่ได้, ติดโซเชียลมีเดีย, เนื้องอกในสมอง, มะเร็ง

 

2. อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อส่วนต่าง ๆ

  • เหมือนคนโดนออฟฟิศซินโดรมเล่นงาน
  • แต่การ “ติดโทรศัพท์” หรือเทคโนโลยีอื่นใดก็ตามที่สามารถหมกมุ่นอยู่ได้ทั้งวัน ก็สามารถเกิดอาการใกล้เคียงออฟฟิศซินโดรมได้เหมือนกัน อาการที่มักพบประจำ เช่น
    • นิ้วล็อก
    • ปวดคอ
    • ปวดหลัง
    • ปวดบ่า ปวดไหล่
    • อาจจะรวมถึงความเสื่อมกระดูก ข้อต่อกระดูก หรือหมอนรองกระดูกบริเวณคอ
  • อาการ Cellphone Elbow คือ อาการปวดชา หรือเหน็บชาบริเวณปลายแขนและมือ เนื่องจาก การถือสมาร์ทโฟนด้วยท่าทางที่งอแขนเป็นมุมแคบกว่า 90 องศานานเกินไป
  • หรืออาจเป็นโรค RSI (Repetitive Strain Injury) ทำให้มีอาการตึงหรือเจ็บข้อต่าง ๆ ได้แก่
    • เจ็บปวดบริเวณข้อมือ นิ้วมือ มือ แขน ข้อศอก
    • มีอาการมือชาหรืออ่อนแรง
    • มือไม่สามารถทำงานประสานกัน
    • ซึ่งอาการเหล่านี้เกิดจากการที่เราใช้งานข้อมือนาน ๆ ซ้ำ ๆ และเป็นประจำ

 

โรคติดโทรศัพท์, ติดโทรศัพท์, อา การ ติด โทร ศัพท์, โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป, จอโทรทัศน์, จอสมาร์ทโฟน, จ้องหน้าจอ, แสงสีฟ้า, จอประสาทตา, โรคทางสายตา, โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคต้อกระจก, โรควุ้นสายตาเสื่อม, โรคสายตาสั้นเทียม, ออฟฟิศซินโดรม, ติดมือถือ, ติดสมาร์ทโฟน, โรคอ้วน, เสพติดโทรศัพท์, เล่นโทรศัพท์, โรคขาดสารอาหาร, โนโมโฟเปีย, โรคขาดมือถือไม่ได้, ติดโซเชียลมีเดีย, เนื้องอกในสมอง, มะเร็ง

 

3. โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร/ระบบขับถ่าย

  • สถาบันวิจัย Which? จากประเทศอังกฤษ มีงานวิจัยว่า หน้าจอทัชสกรีนของแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน รวมถึงและคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์มีเชื้อแบคทีเรียมากกว่าโถชักโครกถึง 20 เท่า
  • แบคทีเรียชนิดนี้มีชื่อว่า สตาฟิโลค็อกคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) เป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสารพิษและทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนและท้องร่วง หากเราจับอุปกรณ์พวกนั้นแล้วไม่ล้างมือ เชื้อโรคก็ปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
  • นอกจากนี้ พฤติกรรมการ “ติดโทรศัพท์” หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ยังอาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับอวัยวะในระบบทางเดินอาหารและการขับถ่าย เช่น
    • การกินอาหารไม่ตรงเวลา
    • กินแต่อาหารที่ไม่มีประโยชน์
    • ขยับเขยื้อนร่างกายน้อย
    • การแช่เล่นโทรศัพท์ในห้องน้ำนาน ๆ อาจทำให้มีอาการท้องผูก ท้องร่วง หรือริดสีดวงทวาร

 

โรคติดโทรศัพท์, ติดโทรศัพท์, อา การ ติด โทร ศัพท์, โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป, จอโทรทัศน์, จอสมาร์ทโฟน, จ้องหน้าจอ, แสงสีฟ้า, จอประสาทตา, โรคทางสายตา, โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคต้อกระจก, โรควุ้นสายตาเสื่อม, โรคสายตาสั้นเทียม, ออฟฟิศซินโดรม, ติดมือถือ, ติดสมาร์ทโฟน, โรคอ้วน, เสพติดโทรศัพท์, เล่นโทรศัพท์, โรคขาดสารอาหาร, โนโมโฟเปีย, โรคขาดมือถือไม่ได้, ติดโซเชียลมีเดีย, เนื้องอกในสมอง, มะเร็ง

4. โรคอ้วน/โรคขาดสารอาหาร

  • แม้พฤติกรรมการติดมือถือจะไม่ได้ส่งผลโดยตรงให้เกิดโรคอ้วน แต่สำหรับคนที่จดจ่ออยู่กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอาแต่นั่งทั้งวันไม่ยอมลุกเดินหรือขยับเขยื้อนร่างกายไปทำอย่างอื่นเลย เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคอ้วนและโรคเรื่อรังอื่น ๆ
  • มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัยซิมอน โบลิวาร์ (SBU) ประเทศโคลอมเบีย ระบุว่า วัยหนุ่มสาวที่มีพฤติกรรมติดสมาร์ทโฟน มีความเสี่ยงต่อโรคอ้วน และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามมา เช่น
    • เบาหวาน
    • ความดัน
    • และโรคเกี่ยวกับหัวใจ

การศึกษานี้ได้ศึกษาพฤติกรรมของนักศึกษาจากคณะวิทยาศาสตร์สุขภาพในมหาวิทยาลัย SBU จำนวน 1,060 คน แบ่งเป็นหญิง 700 คน และชาย 360 คน ผู้เข้าร่วมการทดลองจะมีอายุ 19-20 ปี พบว่า

  • นักศึกษาที่ติดสมาร์ทโฟน โดยเล่นสมาร์ทโฟนมากกว่า 5 ชั่วโมง/วัน มีแนวโน้มที่จะดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล กินอาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมหวาน และของว่าง มากกว่าคนที่ไม่ได้ติดถึง 2 เท่า
  • และยังทำให้ออกกำลังกายน้อยลง นำไปสู่การเป็นโรคอ้วน และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น 43% เลยทีเดียว

หรือในอีกมุมหนึ่ง การเสพ “ติดโทรศัพท์” และมีพฤติกรรมนั่งเล่นหรือจดจ่ออยู่กับหน้าจอทั้งวัน อาจทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร ในกลุ่มคนที่กำลังเจริญเติบโต เพราะ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเล่นโทรศัพท์ทั้งวันโดยไม่สนใจวันเวลาและมื้ออาหาร หรือถ้าหิวขึ้นมาก็หันไปกินอาหารประเภทสำเร็จรูป อาหารฟาสต์ฟู้ด ซึ่งไม่ได้มีประโยชน์กับร่างกาย จึงทำให้เป็นโรคขาดสารอาหาร ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย

 

โรคติดโทรศัพท์, ติดโทรศัพท์, อา การ ติด โทร ศัพท์, โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป, จอโทรทัศน์, จอสมาร์ทโฟน, จ้องหน้าจอ, แสงสีฟ้า, จอประสาทตา, โรคทางสายตา, โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคต้อกระจก, โรควุ้นสายตาเสื่อม, โรคสายตาสั้นเทียม, ออฟฟิศซินโดรม, ติดมือถือ, ติดสมาร์ทโฟน, โรคอ้วน, เสพติดโทรศัพท์, เล่นโทรศัพท์, โรคขาดสารอาหาร, โนโมโฟเปีย, โรคขาดมือถือไม่ได้, ติดโซเชียลมีเดีย, เนื้องอกในสมอง, มะเร็ง

 

5. เกี่ยวกับสภาพจิตใจ

  • ความผิดปกติทางด้านอารมณ์และสภาพจิตใจ ที่เกิดขึ้นจากการติดโทร ศัพท์ ติดโซเชียลมีเดีย ติดเกม เทคโนโลยีมีประโยชน์มากก็จริง แต่ถ้าใช้อย่างไม่ระมัดระวัง ขาดการควบคุม ใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ก็มีโทษเช่นกัน
  • ที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ ด้านอารมณ์ของคนที่ติดมือถือจนขาดไม่ได้ จะทำให้เกิดอาการกระวนกระวาย โกรธ โดดเดี่ยว ไม่มั่นคง ไม่ปลอดภัย หงุดหงิด ก้าวร้าว ฯลฯ บางคนมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์และควบคุมตนเอง รวมถึงความเครียดจากการเสพข่าวสารด้านลบอยู่ตลอดเวลา

บางคนอาจอาการหนักจนเรียกได้ว่าเป็นอาการป่วย เช่น

  • โรคอดทนรอไม่ได้ : คนที่จะหงุดหงิด กระวนกระวาย ใจร้อนเวลาที่อินเทอร์เน็ตช้า จนติดมาเป็นพฤติกรรมไม่พึงประสงค์กับชีวิตจริง
  • การเชื่อทฤษฎีสมคบคิด : หลงเชื่อข่าวปลอมได้ง่าย และติดอยู่ในห้องเสียงสะท้อน ไม่ยอมเปิดใจรับฟังในสิ่งที่ตนเองไม่ชอบ
  • อาการซึมเศร้า : วิตกกังวล มาจากการรอคอยหรือคาดหวังเสียงโทรศัพท์ หรือการตอบกลับข้อความต่าง ๆ คลั่งการกดไลก์ คอมเมนต์ หรือแชร์ข้อความต่าง ๆ
  • โรคกลัวตกกระแสหรือ FOMO และโรคขาดมือถือไม่ได้ หรือโนโมโฟเปีย หมกมุ่นกับการใช้โทรศัพท์มากเกินไป

 

โรคติดโทรศัพท์, ติดโทรศัพท์, อา การ ติด โทร ศัพท์, โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป, จอโทรทัศน์, จอสมาร์ทโฟน, จ้องหน้าจอ, แสงสีฟ้า, จอประสาทตา, โรคทางสายตา, โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคต้อกระจก, โรควุ้นสายตาเสื่อม, โรคสายตาสั้นเทียม, ออฟฟิศซินโดรม, ติดมือถือ, ติดสมาร์ทโฟน, โรคอ้วน, เสพติดโทรศัพท์, เล่นโทรศัพท์, โรคขาดสารอาหาร, โนโมโฟเปีย, โรคขาดมือถือไม่ได้, ติดโซเชียลมีเดีย, เนื้องอกในสมอง, มะเร็ง

 

6. ปัญหาการเข้าสังคม

  • เพราะ อาการติดหน้าจอ ทำให้ปฏิสัมพันธ์ของเรากับคนรอบข้างน้อยลง ต่างฝ่ายก็มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์ของตนเอง แทนที่จะพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนตรงหน้า
  • จึงมีแนวโน้มว่าผู้ที่ติดโทรศัพท์ ติดโซเชียลมีเดีย จะแยกตัวออกจากสังคม แล้วมีโลกส่วนตัวบนออนไลน์มากกว่า พวกเขาคิดว่าไม่จำเป็นต้องสื่อสารกับใครอื่น ตราบใดที่พวกเขามีโทรศัพท์อยู่กับมือ
  • Pew Research Center สถาบันวิจัยจากวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ทำการศึกษาข้อมูลของผู้ใช้สมาร์ทโฟน พบว่า คนกว่า 82% มีปัญหาการสนทนาในชีวิตจริง เนื่องจากเลือกพิมพ์ข้อความสนทนากันมากขึ้น
  • รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ที่ควรจะมีจากการสื่อสารพูดคุย ที่มีการแสดงความรู้สึกผ่านสีหน้าท่าทางและแววตาจะหายไป สมาธิสั้น รวมถึงอ่านหนังสือน้อยลง ทำให้ประสิทธิภาพในการพูดคุยกันกับคนอื่น ๆ ลดลงตามไปด้วย
  • การเรียนรู้การใช้ภาษาในรูปแบบอื่น เพราะ การสื่อสารในโลกออนไลน์มักจะใช้แค่คำสั้น ๆ จึงมีปัญหาเวลาที่ต้องพูดคุยกับคนอื่นจริง ๆ

 

โรคติดโทรศัพท์, ติดโทรศัพท์, อา การ ติด โทร ศัพท์, โรค ติด โทร ศัพท์ มาก เกินไป, จอโทรทัศน์, จอสมาร์ทโฟน, จ้องหน้าจอ, แสงสีฟ้า, จอประสาทตา, โรคทางสายตา, โรคจอประสาทตาเสื่อม, โรคต้อกระจก, โรควุ้นสายตาเสื่อม, โรคสายตาสั้นเทียม, ออฟฟิศซินโดรม, ติดมือถือ, ติดสมาร์ทโฟน, โรคอ้วน, เสพติดโทรศัพท์, เล่นโทรศัพท์, โรคขาดสารอาหาร, โนโมโฟเปีย, โรคขาดมือถือไม่ได้, ติดโซเชียลมีเดีย, เนื้องอกในสมอง, มะเร็ง

 

7. เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งสมองและโรคเกี่ยวกับสมอง

  • ย้ำว่าเป็นการเพิ่มความเสี่ยง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าการใช้สมาร์ทโฟนจะทำให้เป็นโรคมะเร็งเสมอไป ซึ่งสาเหตุมาจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ส่งเข้ามาที่อุปกรณ์สื่อสารโดยตรงระหว่างที่เราใช้งาน การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลานานกว่า 10 ปี สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคมะเร็งสมองได้ถึง 2 เท่า โดยมะเร็งจะเกิดกับสมองด้านที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นประจำ

ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาที่เกิดขึ้นแน่ ๆ คือ ส่งผลต่อการทำงานของสมอง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส ของสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบแล้วว่า ไม่ว่าจะปิดหรือเปิดโทรศัพท์ วางคว่ำหน้าหรือหงายไว้บนโต๊ะ (แล้ววางไว้ใกล้ ๆ ตัว) ล้วนบั่นทอนประสิทธิภาพของสมองลงได้

  • การวางสมาร์ทโฟนไว้ใกล้ตัว ทำให้สมองส่วนหนึ่งพะวงหรือคิดถึงมือถือตลอดเวลา จุดนี้บั่นทอนพลังสมอง มีผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองลดลง อาจส่งผลต่อเรื่องความจำ

นอกจากนี้ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ยังมีผลการศึกษาการใช้โทรศัพท์มือถือ ว่ามันสามารถส่งผลให้เซลล์ของมนุษย์เปลี่ยนแปลง และอาจก่อให้เกิดมะเร็งหรือเนื้องอกในสมองได้ด้วย พวกเขามีคำแนะนำที่ควรปฏิบัติตามคือ ให้กดรับโทรศัพท์ให้ห่างตัวก่อนพูดคุยตามปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

MEA ชูพลังงานสะอาด เปิดสถานีชาร์จ EV ณ MRT ศูนย์วัฒนธรรมฯ ขับเคลื่อนอนาคตการเดินทางไร้มลพิษ
สถาบันฯ สร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดัน “จังหวัดจันทบุรี” เป็น “Soft Power” ระดับประเทศ
นพ.สสจ.เมืองคอนเตือน ระมัดระวังโรคฉี่หนู เมืองคอนสังเวยชีวิตแล้ว 8 ราย ชี้อำเภอฉวางสุ่มเสี่ยงมากที่สุด เสียชีวิตถึง 7 ราย -เตือนประชาชนประชาชนรักษาสุขภาพและเฝ้าระวังโรคที่จะมากับหน้าฝนนอกจากฉี่หนูแล้วให้ระมัดระวังให้โรคไข้เลือดออก
"เงินดิจิทัล เฟส 2 ได้วันไหน" ชัดเจนแล้ว พร้อมเช็ก เงื่อนไขเงิน 10,000 ล่าสุด
CPF สานต่อความมุ่งมั่นสร้างงานมีคุณค่าสำหรับคนพิการ หนุนวัฒนธรรมเคารพความแตกต่างและหลากหลาย
หมอวรงค์ นำกลุ่มคนรักชาติ ยื่นกว่าแสนรายชื่อ ร้องรบ.ยกเลิก MOU 44
กุ้ง อาหารทะเลยอดฮิต โปรตีนคุณภาพดี อร่อยด้วย ช่วยชาติได้
หมอถึงขั้นเข้าไปถามคนไข้ หลังพยาบาล เจาะเลือดไม่เข้า อึ้งห้อยพระเต็มคอ แต่ละองค์ราคาไม่ธรรมดา
“บิ๊กโจ๊ก” ด่าแรง “ทนายตั้ม” แอบอ้างชื่อ ลวง “เจ๊อ้อย” ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
“เจ๊อ้อย”โคตรแค้น “ทนายตั้ม” พาลูกเมียทัวร์ยุโรปถลุงเป็นล้าน แว้งกัด-คิดเอาชีวิต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น