ดับฝันแรง “จตุพร” ฝากคำเตือนถึง “เศรษฐา” ทายชะตากรรม ไปไม่ถึงนายกฯ

จนเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน “ไฟลามทุ่ง” มีเนื้อหาในตอนหนึ่งว่าตนเชื่อว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แม้มีความมุ่งมั่นต้องการเป็นนายกฯ อย่างเดียว แต่คงไม่ได้เป็น โดยมีบทเรียนคือนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นอุทาหรณ์

นายจตุพร กล่าวว่า นายเศรษฐา มุ่งมั่นทางการเมืองในตำแหน่งนายกฯ เท่านั้น ซึ่งนายมิ่งขวัญ เมื่อสมัยอยู่พรรคเพื่อไทย เคยแสดงความมั่นใจจะเป็นนายกฯ เช่นกัน ซึ่งหลังจากพรรคพลังประชาชนถูกยุบแล้ว พรรคเพื่อไทยจึงเกิดขึ้น จากนั้นมีการหาแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ของพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมกับการเลือกตั้งใหม่ในปี 2554 โดยในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน นายมิ่งขวัญ ทำหน้าที่ดูแล ส.ส. มากกว่าเท่าตัวของจำนวนที่พรรคดูแลอยู่ นอกจากนี้ยังคาดกันว่า นายมิ่งขวัญจะเป็นตัวยืนอันดับหนึ่งของ ส.ส.บัญชชีรายชื่อพรรค ซึ่งหมายถึงจะได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ และยิ่งกว่านั้น เมื่อมิ่งขวัญไปที่ไหนก็เป็นที่รู้กันว่า พรรคจะส่งเป็นนายกฯ คนต่อไป อย่างไรก็ตาม พอถึงช่วงลงเลือกตั้งปี 2554 ก็ถูกหักไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค

“แม้นายมิ่งขวัญ ไม่ได้เป็นนายกฯ แต่ยังไม่มีตำแหน่ง รมต.สักกระทรวงให้ด้วย ได้เป็นเพียง ส.ส. อย่างเดียว ได้แต่มาคุยแลกเปลี่ยนกัน บางวันพูดไปน้ำตาไหลไป บอกว่าเห็นใจผม และผมก็บอกว่าเห็นใจคุณมิ่งขวัญเหมือนกัน”

นายจตุพร กล่าวว่า ความจริงนายมิ่งขวัญ มีศักยภาพ แต่ในสถานการณ์ที่ถูกทำลายจนแทบไม่เหลือซาก แม้ไปทำพรรคเล็ก พยายามรักษาจุดยืน แต่คนอื่นไม่รักษา เมื่อพยายามทำพรรคอีกก็ไม่รอด แล้วหมดหนทางต้องไปกับผู้ชายอบอุ่นอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในปัจจุบัน

“ที่ผมยกตัวอย่างให้ฟัง เพราะคุณมิ่งขวัญ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง อีกทั้งลงทุนยืนหยัดยาวนานมากกว่านายเศรษฐา ซึ่งเข้าพรรคมาไม่กี่วันเอง แต่คุณมิ่งขวัญ มีความสามารถทั้งเรื่องการพูด การอธิบาย แล้วลงทุนด้วย ท้ายที่สุดถูกหักชนิดไม่เหลือเยื่อใยเลย”