จากกรณีที่ตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทลายอาณาจักร พันตำรวจโท วสวัตติ์ มุครสกุล หรือ “สารวัตรซัว” อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ที่มีส่วนพัวพันกับเว็บพนันออนไลน์เข้าค้นพื้นที่เป้าหมาย 63 จุดทั่วประเทศ ก่อนจะจับกุมนายจิ๋ว ธีรพงศ์ ทองสุวรรณ อายุ 34 ปี ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” เป็น 1 ใน 3 คีย์แมนคนสำคัญของเครือบริษัท “เป็นต่อ กรุ๊ป” ของกลุ่มสารวัตรซัว และผู้ต้องหาบัญชีม้าได้อีก 5 ราย ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ / ร่วมกันฟอกเงิน” พร้อมอายัด ทรัพย์สิน รถยนต์ยี่ห้อ Lexus / Benz / และ Audi รวม 3 คัน / โฉนดที่ดินจำนวนกว่า 446 ไร่ มูลค่ารวม 700 ล้านบาท / สมุดบัญชีธนาคาร 184 บัญชี พบเงินหมุนเวียนจำนวน 700 ล้านบาท / และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวน 100 รายการ รวมมูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท
เครือข่ายธุรกิจ ‘จิ๋ว-ธีรพงศ์ ทองสุวรรณ’ คนสนิท พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล‘เป็นต่อ กรุ๊ป’ มีชื่อเป็นกรรมการถือหุ้น 8 บริษัท ก่อนถูกตำรวจสอบสวนกลางบุกจับ หิ้วฝากขังพร้อมพวก 5 ราย เกี่ยวโยงคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ และฟอกเงิน
ข่าวที่น่าสนใจ
สำหรับนายจิ๋ว ธีรพงศ์ นั้น เคยตรวจสอบพบว่า เป็นกรรมการ และร่วมถือหุ้น บริษัท เป็นต่อกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ที่มีพันตำรวจโท วสวัตติ์ ถือหุ้นใหญ่ และยังถือหุ้นเป็นกรรมการอย่างน้อย 19 บริษัท อีกด้วย
จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดพบว่า เฉพาะนายจิ๋ว มีชื่อเป็นกรรมการ และหรือถือหุ้นในเครือข่ายเป็นต่อกรุ๊ปอย่างน้อย 8 บริษัท ได้แก่
1.บริษัท เป็นต่อกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 11 พ.ค.2564 ทุน 100 ล้านบาท นายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ ถือ 100,000 หุ้น
2.บริษัท เป็นต่อ ทรานสปอร์ต บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนวันที่ 30 ตุลาคม 2556 ทุน 6 ล้านบาท นายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ ถือ 60,000 หุ้น (จดทะเบียนเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2562)
3.บริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อ กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนวันที่ 11 มิถุนายน 2557 ทุน 16 ล้านบาท ประกอบการ กิจกรรมการสร้างแม่ข่าย นายธีรพงศ์ ถือ 40,000 หุ้น (จดทะเบียนเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564)
4.บริษัท พีทีจี ซอฟต์แวร์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 10 มีนาคม 2564 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการกิจกรรมการสร้างแม่ข่าย นายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ ถือ 4,000 หุ้น
5. บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 5 เมษายน 2559 ทุน 10 ล้านบาท ประกอบการ แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีผู้ถือหุ้น 5 คน นายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ ถือ 10,000 หุ้น (จดทะเบียนเลิกบริษัท เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565)
6. บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ 2 จำกัด จดทะเบียนวันที่ 15 สิงหาคม 2559 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการ แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีผู้ถือหุ้น 5 คน นายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ ถือ 2,000 หุ้น
7. บริษัท เป็นต่อ เอสเตท จำกัด จดทะเบียนวันที่ 25 มกราคม 2561 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการ โรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด มีผู้ถือหุ้น 5 คน นายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ ถือ 2,000หุ้น
8. บริษัท กะเพรา เอ็กซ์เพรส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 17 มกราคม 2565 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบการบริการด้านอาหารในภัตตาคาร/ร้านอาหาร มีผู้ถือหุ้น 5 คน พ.ต.ท.(นาย) วสวัตติ์ มุครสกุล ถือหุ้นใหญ่ 4,000 หุ้น นายธีรพงษ์ ทองสุวรรณ นายอดิศร กฤษวงศ์ นายอุกฤษฎ์ สิทธิสังข์ นายวศิน ลาดบัวขาว คนละ 1,500 หุ้น (บริษัทที่ 20 ที่สารวัตรซัวถือหุ้น)
บริษัทลำดับที่ 1-7 นายจิ๋ว เป็นกรรมการ และถือหุ้น ส่วนสุดท้าย นายจิ๋ว ไม่ได้มีชื่อเป็นกรรมการ แต่เป็นผู้ถือหุ้น ซึ่งทั้ง 8 บริษัท ที่มีชื่อนายจิ๋ว เป็นกรรมการ หรือถือหุ้นนั้น มีเพียง 2 บริษัท ที่สารวัตรซัว ร่วมเป็นกรรมการ และถือหุ้น คือ บริษัท เป็นต่อกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท กะเพรา เอ็กซ์เพรส จำกัด
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า บุคคลที่ร่วมเป็นกรรมการกับนายจิ๋ว มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป และบริษัทอื่นนับ 10 บริษัท ได้แก่ นายอุกฤษฏ์ สิทธิสังข์ มีชื่อเป็นกรรมการ 10 บริษัท / และนายอดิศร กฤษวงศ์ มีชื่อเป็นกรรมการ 9 บริษัท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม นายจิ๋ว กับพวกที่ถูกจับกุม 5 คน ในข้อหาข้างต้น ขณะนี้ยังไม่มีคำพิพากษาจากศาลว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา แต่จากข้อมูลที่นายจิ๋ว เข้ามาเป้นกรรมการผู้ถือหุ้นดังกล่าว จึงทำให้ศาลไม่ยอมให้ประกันตัวในชั้นฝากขัง เนื่องจากเชื่อว่าอาจจะมายุ่งเหยิงกับคดี ส่วน สารวัตรซัว นั้นยังไม่ถูกจับกุม ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างประสานงานเตรียมออกหมายแดง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง