“ครอบครัวรัตนพันธ์”โต้เดือด SC ขู่ฟ้อง TOP NEWS ห้ามทำข่าวร้องทุกข์โดนรังแก

"ครอบครัวรัตนพันธ์"โต้เดือด SC ขู่ฟ้อง TOP NEWS ห้ามทำข่าวร้องทุกข์โดนรังแก

จากกรณี บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด มหาชน ได้ส่งหนังสือถึงช่อง Top News เพื่อให้ยุติการนำเสนอ โดยระบุว่า “ ตามที่สำนักข่าว Top News ของท่านได้เสนอข้อมูลการแถลงข่าวของกลุ่มครอบครัว “รัตนพันธ์” นำโดยนายศรายุทธ รัตนพันธ์, นางสาวลัดฟ้า รัตนพันธ์ และนางสาวฐานิดา รัตนพันธ์ กล่าวหาโดยข้อมูล อันเป็นเท็จว่า ถูกครอบครัวชินวัตร และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โกงในการซื้อที่ดิน ทำให้สูญเสียบ้านมูลค่า 200 ล้านบาท โดยสำนักข่าว Top News ได้เคยสัมภาษณ์ กลุ่มครอบครัว “รัตนพันธ์” ออกสื่อออนไลน์ ในรายการ Top News Talk เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 และบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย ตามหนังสือที่อ้างถึงแล้วว่า ข้อมูลทั้งหมดที่ถูกกล่าวหาเป็นความเท็จทั้งสิ้น แต่สำนักข่าว Top News ของท่านยังคงเพิกเฉย ไม่ยุติในการนำเสนอข่าวข้อมูลอันเป็นเท็จของบุคคลกลุ่มนี้ และเป็นการกระทำโดยเจตนาจงใจ ร่วมกันหมิ่นประมาทครอบครัวชินวัตร และบริษัท เอสซี แอสเสทให้ได้รับความเสียหาย รวมถึงเป็นการกระทำผิดโดยทุจริต นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ ครอบครัวชินวัตร และบริษัท เอสซี แอสเสท ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการ กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (แก้ไข โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2560)

โดยหนังสือฉบับนี้ ข้าพเจ้าบริษัท เอสซี แอสเสท ขอเรียนให้ท่านทราบว่า ข้อมูลทั้งหมดที่กลุ่มครอบครัว “รัตนพันธ์” แถลงเป็นข้อมูลความเท็จทั้งสิ้น และข้อเท็จจริงทั้งหมดอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล ซึ่งบริษัท เอสซี แอสเสท ได้เป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีกลุ่มบุคคลนี้ ในข้อหาหมิ่นประมาทในศาลอาญา ตามคดีหมายเลขดำที่ อ.2986/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อ.930/2564 และเป็นโจทก์ฟ้องดำเนินคดีแพ่ง ในศาลแพ่ง ตามคดีหมายเลขดำที่ มย.66/2563 ขณะนี้ อยู่ในกระบวน การพิจารณาของศาล จึงขอแจ้งให้สำนักข่าว Top News ยุติการนำเสนอข่าวข้อมูลอันเป็นเท็จนี้ และนำออกจาก สื่อออนไลน์ระบบคอมพิวเตอร์โดยทันทีด้วย มิฉะนั้น บริษัทฯ จำเป็นที่จะต้องดำเนินคดีกับท่านตามกฎหมายต่อไป”

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ (6 มี.ค.66) “ครอบครัวรัตนพันธ์” ได้ทำหนังสือ เรื่อง ขอยืนยันว่าสิ่งที่ได้แถลงข่าว และหรือการให้สัมภาษณ์เป็นความจริงทุกประการ โดยการนำส่งถึง กองบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News และแจ้งไปยังพี่น้องสื่อมวลชนทุกสำนักข่าว อ้างถึง หนังสือของบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เลขที่ SC-L 023/2566 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2566 ระบุรายละเอียดดังนี้

ตามที่ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ส่งหนังสือมายังกองบรรณาธิการ สำนักข่าว Top News โดยมีเนื้อหาให้ยุติการนำเสนอข่าวและนำออกจากสื่อออนไลน์โดยทันที โดยกล่าวอ้างเพียงว่าข้อมูลทั้งหมดที่ ครอบครัวรัตนพันธ์แถลงเป็นความเท็จทั้งสิ้นนั้น

ครอบครัวเราขอยืนยันว่า ทุกข้อมูลที่ได้นำเรียนไปในการแถลงข่าว ตลอดจนการได้รับเชิญให้มาร่วมรายการ การให้ข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์ ต่างๆนั้น เป็นความจริงโดยทั้งสิ้น และประการสำคัญที่ครอบครัวต้องตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวมาเปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ครอบครัวเราต้องต่อสู้ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม อย่างโดดเดี่ยวมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ใช้ความพยายาม ในการร้องเรียนและติดตามไปในหลายช่องทาง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด จนทำให้ทางครอบครัวรู้สึกท้อใจ เพราะสิ่งที่กำลังต่อสู้อยู่นั้น คือ กลุ่มคนที่มีอำนาจ แต่ครอบครัวเราตระหนักดีว่าหากไม่สู้หรือยอมแพ้ พฤติกรรมแบบนี้ของคนกลุ่มนี้ อาจส่งผลกระทบให้กับประชาชนอื่นๆ ตลอดจนครอบครัวอื่นๆได้อีกเช่นกัน ครอบครัวรัตนพันธ์จึงตัดสินใจนำเสนอความจริงสู่สาธารณะ เนื่องจากเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจทางการเมืองและบริษัท (มหาชน) ในตลาดหลักทรัพย์ที่ประชาชนทั่วไปเข้าลงทุนได้ การเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นจากการให้ครอบครัวรัตนพันได้รับประโยชน์จากส่วนต่างราคาที่ดินกว่า 200 ล้านบาทหรือการนำเงิน 20 ล้านบาทออกมาจากบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มาให้กับครอบครัวรัตนพันธ์ เพื่อปกปิดพฤติการณ์ของตนเองในขณะนั้น กระทำได้หรือไม่ ถูกต้องชอบธรรมกับผู้อื่นหรือไม่ เหตุใดคุณณัฐพงศ์ CEO ต้องให้เงิน 20 ล้านบาท และถ้าไม่ให้ในขณะนั้นได้หรือไม่ การเปิดเผยข้อมูลที่เกิดขึ้นของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้ครอบครัวรัตนพันธ์ได้รับความเป็นธรรม

 

ครอบครัวรัตนพันธ์เห็นด้วยว่า ในการที่สาธารณะได้รับทราบข้อเท็จจริงจากครอบครัวเราเพียงฝ่ายเดียวนั้น ย่อมไม่เป็นธรรมกับบริษัทเอสชีฯ และครอบครัวชินวัตร ดังนั้นครอบครัวรัตนพันธ์จึงประสงค์ให้บริษัทเอสซีฯ และครอบครัวชินวัตรได้นำเสนอข้อเท็จจริงออกมาเพื่อให้ประชาชนได้รับฟังความจริงจากท่านเพื่อความเป็นธรรมกับตัวท่านเอง หาใช่ว่าจะใช้วิธีการข่มขู่ คุกคามให้สื่อมวลชน ยุติการนำเสนอข่าว ซึ่งการจำกัดเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสาร เพื่อปิดกั้นการรับรู้ของประชาชนในสังคมเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในยุคประชาธิปไตย เพราะเสรีภาพสื่อคือเสรีภาพประชาชน การก้าวก่ายสื่อมวลชน ก็เท่ากับประชาชนขาดอิสรภาพในการรับรู้ข่าวสารไปด้วยไม่ต่างกัน นอกจากความจริงที่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะไปแล้วนั้น ครอบครัวรัตนพันธ์ยังมีข้อมูลความจริงอีกมาก ทั้งที่เป็นลายลักษณ์อักษรและคลิปเสียงหลักฐานในเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเอสซีฯและบุคคลในครอบครัวชินวัตรโดยตรง เช่น กรณีของคุณพานทองแท้ ชินวัตร( โอ๊ค ) ก่อนการตัดสินคดีความเมื่อปี 2562 ข้อมูลที่เราแถลงออกมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหลักฐานที่มีอยู่เท่านั้น

ครอบครัวรัตนพันธ์ขอยืนยันว่าครอบครัวรัตนพันธ์เสียหายเพราะการกระทำของพวกท่านมากว่า 6 ปี เราต่อสู้ด้วยตนเองมาโดยตลอด เราไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว หากไม่สู้ก็ทำได้แค่นอนรอความตายของคนในครอบครัวไปวันๆ บริษัทเอสซีและครอบครัวชินวัตรทราบดีแต่กลับไม่เคยให้ความเป็นธรรมที่แท้จริงกับครอบครัวรัตนพันธ์

ดังนั้นบริษัทเอสซีฯ และครอบครัวชินวัตรควรออกมาเปิดเผยว่าความจริงเป็นเช่นไร ออกมาเปิดเผยให้ความจริงปรากฏสู่สังคม โดยครอบครัวรัตนพันธ์ ขอเชิญ CEO บริษัทเอสซีฯ คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ และผู้ถือหุ้นใหญ่รวมเกิน 50%ของบริษัท ฯ ที่ทราบเรื่องมาโดยตลอด คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, คุณแพทองธาร ชินวัตร และคุณพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ นำความจริงออกมาแถลงด้วยกันทั้งสองฝ่ายต่อหน้าสื่อหน้ามวลชนทุกสำนัก ต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศเพื่อให้ประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดจากทั้งสองฝ่าย

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น