ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าได้อ่านจดหมายฉบับที่ 5 ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแล้วว่า ใครจะเขียนก็เขียนได้ทั้งนั้น คิดเอาเองแล้วกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ข้อความของพลเอกประวิตร หลายฉบับมีการกล่าวย้อนถึงเหตุการณ์รัฐประหาร นายกรัฐมนตรีมีท่าทีที่หงุดหงิด ก่อนที่จะกล่าวว่า “เลิก เขาทำรัฐประหารปีไหนมาแล้ว ผมมายืนอยู่ตรงนี้ มายืนด้วยอะไร รัฐธรรมนูญ ระบบรัฐสภาฯไม่ใช่หรือ ช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ลองดูสิว่า ถ้าไม่มีอะไรที่ทำให้ความขัดแย้งลดลง มันจะเกิดอะไรขึ้นถึงวันนี้ เราจะยืนอยู่แบบนี้ได้หรือเปล่า ยังไม่รู้เลย”
เมื่อสื่อถามต่อว่า บรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้จะไม่มีอะไรแบบนั้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เพียงแต่ว่าประชาชนทุกคนต้องคิด ว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้วนะ ทุกอย่างจะพัฒนาได้ ประเทศนี้ต้องมีความสงบเรียบร้อย มีความสุข ไม่มีเรื่องความรุนแรงเกิดขึ้น อย่ากลับไปที่เดิมอีกเลย
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจดหมายของพลเอกประวิตร มักเขียนย้อนถึงการกระทำรัฐประหาร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่าน ทั้งนี้ถ้าหากพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี โอกาสการรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่ หากอีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า “ใครจะทำรัฐประหาร แล้วใครจะทำ ใครจะทำผมถาม”
สื่อฯจึงถามย้ำอีกว่า จะเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมเคยพูดไปตั้งนานแล้วว่า ครั้งสุดท้ายแล้ว มันไม่ควรจะมีอะไรได้อีกแล้ว มันอยู่ที่พวกเรานั่นแหละ จะช่วยกันได้อย่างไร ถ้าขัดแย้งรุนแรงกัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยอะไร”
ส่วนหลังจากนี้ไปจะเป็นประชาธิปไตยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้อนถามสื่อกลับทันทีว่า แล้ววันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยหรือ” ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าหมายถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายกรัฐมนตรี จึงระบุว่า ก็ประชาธิปไตยไง ให้ทุกคนพยายามรักษากฎกติกา กฎหมายมีอยู่ทุกตัว
ส่วนที่มีการนำเหตุการณ์รัฐประหาร มาพูดจะเป็นการดิสเครดิตนายกรัฐมนตรีในช่วงการเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มาในรูปแบบนี้ รวมถึงการเลือกตั้งในสมัยหน้านายกรัฐมนตรีก็ลงสนามการเมือง พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า สื่อฯก็ถามแบบนี้อยู่แล้ว แน่นอนเขาต้องดิสเครดิตเราอยู่แล้ว ก็อธิบายชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ในสภาฯตนก็พูด ก็ไปคิดเอาเองแล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า นายกฯมองว่าวันนี้พลเอกประวิตรเปลี่ยนไปหรือไม่ในทางการเมือง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เขาก็เป็นพี่ผมเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าเปลี่ยนไปในการสื่อสารทางการเมือง พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า มีคนช่วยท่านเยอะอยู่แล้ว ส่วนจะมาจากคนรอบข้างหรือไม่ ตนไม่รู้ไม่ทราบ
สื่อจึงถามย้ำว่า จากข้อความในจดหมายเป็นตัวตนของพลเอกประวิตร หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวย้ำคำเดิมว่า ไม่ทราบ ไม่รู้
ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงสนามการเมือง ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ระบุว่าผมไม่ได้ไปแข่งอะไรกับท่าน สิ่งที่ผมพูดถึงคือการให้มองภาพใหญ่ของรัฐบาลในขณะนี้ ทุกคนเก่งหมด หลายคนอาจมองว่าผมไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ ผมอยู่มาหลายปีแล้ว ก็ศึกษา มีคนเก่ง ๆ ช่วยงานเป็นร้อย
ส่วนฐานะที่เป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ มองว่าพรรคการเมืองใดเป็นคู่แข่งตัวจริง พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกพรรคละมั้ง ทุกพรรคแข่งกันหมด