“บิ๊กตู่” เคลียร์ปมคนมอง จ้องรัฐประหาร ชี้ปี 57 เป็นครั้งสุดท้าย ไม่ยอมให้ใครลากออกนอกกติกา

นายกฯ เผย ได้อ่านจดหมาย พลเอกประวิตรแล้ว ยืนยันสัมพันธ์พี่น้องเหมือนเดิม หลังคนมองจ้องรัฐประหาร บอกปี 57 เป็นครั้งสุดท้าย ถามกลับ ใครจะทำ มองบ้านเมืองไม่ได้ขัดแย้งแค่เห็นต่าง ลั่นไม่ยอมให้ใครลากออกนอกกติกา ระบุแม้มือเจ็บยังให้ยาฆ่าเชื้อ แต่พร้อมลงพื้นที่ เพราะใช้ใจไป

9 มี.ค.66 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยได้ทักทายสื่อมวลชนว่า ทำไมสื่อเหลือน้อยกันจังเลย ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ตอบกลับว่า มีบางส่วนไปตามพรรคการเมืองหาเสียง นายกรัฐมนตรีจึงถามกลับว่า ทำไมถึงไม่ไปกับเขา ซึ่งสื่อมวลชนได้ตอบว่า รอไปลงพื้นที่กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณสื่อมวลชน

 

 

 

ส่วนในนามนายกรัฐมนตรีมองบรรยากาศการหาเสียงขณะนี้ว่า ทุกคนหาเสียงในสิ่งที่ตัวเองจะทำในวันข้างหน้า ตนไม่อยากไปเกี่ยวข้อง เพราะต่างคนต่างหาเสียง ซึ่งในนามพรรรครวมไทยสร้างชาติตนเคยบอกไปแล้วว่าต้องระมัดระวัง จะทำให้เกิดภาระปัญหาในวันข้างหน้า เราแก้มานานแล้วหลายเรื่องดีขึ้น หากกลับไปที่เก่าทั้งหมดก็มีปัญหา

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าได้อ่านจดหมายฉบับที่ 5 ของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแล้วว่า ใครจะเขียนก็เขียนได้ทั้งนั้น คิดเอาเองแล้วกัน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ข้อความของพลเอกประวิตร หลายฉบับมีการกล่าวย้อนถึงเหตุการณ์รัฐประหาร นายกรัฐมนตรีมีท่าทีที่หงุดหงิด ก่อนที่จะกล่าวว่า “เลิก เขาทำรัฐประหารปีไหนมาแล้ว ผมมายืนอยู่ตรงนี้ มายืนด้วยอะไร รัฐธรรมนูญ ระบบรัฐสภาฯไม่ใช่หรือ ช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย ลองดูสิว่า ถ้าไม่มีอะไรที่ทำให้ความขัดแย้งลดลง มันจะเกิดอะไรขึ้นถึงวันนี้ เราจะยืนอยู่แบบนี้ได้หรือเปล่า ยังไม่รู้เลย”

เมื่อสื่อถามต่อว่า บรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้จะไม่มีอะไรแบบนั้นใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เพียงแต่ว่าประชาชนทุกคนต้องคิด ว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้วนะ ทุกอย่างจะพัฒนาได้ ประเทศนี้ต้องมีความสงบเรียบร้อย มีความสุข ไม่มีเรื่องความรุนแรงเกิดขึ้น อย่ากลับไปที่เดิมอีกเลย

 

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าจดหมายของพลเอกประวิตร มักเขียนย้อนถึงการกระทำรัฐประหาร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็แล้วแต่ท่าน ทั้งนี้ถ้าหากพลเอกประยุทธ์ ไม่ได้กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี โอกาสการรัฐประหารจะเกิดขึ้นอีกครั้งหรือไม่ หากอีกฝ่ายได้เป็นรัฐบาล นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่า “ใครจะทำรัฐประหาร แล้วใครจะทำ ใครจะทำผมถาม”

 

สื่อฯจึงถามย้ำอีกว่า จะเกิดรัฐประหารอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผมเคยพูดไปตั้งนานแล้วว่า ครั้งสุดท้ายแล้ว มันไม่ควรจะมีอะไรได้อีกแล้ว มันอยู่ที่พวกเรานั่นแหละ จะช่วยกันได้อย่างไร ถ้าขัดแย้งรุนแรงกัน ผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยอะไร”

ส่วนหลังจากนี้ไปจะเป็นประชาธิปไตยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้อนถามสื่อกลับทันทีว่า แล้ววันนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยหรือ” ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่าหมายถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป นายกรัฐมนตรี จึงระบุว่า ก็ประชาธิปไตยไง ให้ทุกคนพยายามรักษากฎกติกา กฎหมายมีอยู่ทุกตัว

ส่วนที่มีการนำเหตุการณ์รัฐประหาร มาพูดจะเป็นการดิสเครดิตนายกรัฐมนตรีในช่วงการเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มาในรูปแบบนี้ รวมถึงการเลือกตั้งในสมัยหน้านายกรัฐมนตรีก็ลงสนามการเมือง พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า สื่อฯก็ถามแบบนี้อยู่แล้ว แน่นอนเขาต้องดิสเครดิตเราอยู่แล้ว ก็อธิบายชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว ในสภาฯตนก็พูด ก็ไปคิดเอาเองแล้วกัน

ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า นายกฯมองว่าวันนี้พลเอกประวิตรเปลี่ยนไปหรือไม่ในทางการเมือง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เขาก็เป็นพี่ผมเหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าเปลี่ยนไปในการสื่อสารทางการเมือง พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า มีคนช่วยท่านเยอะอยู่แล้ว ส่วนจะมาจากคนรอบข้างหรือไม่ ตนไม่รู้ไม่ทราบ

สื่อจึงถามย้ำว่า จากข้อความในจดหมายเป็นตัวตนของพลเอกประวิตร หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวย้ำคำเดิมว่า ไม่ทราบ ไม่รู้

ส่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ลงสนามการเมือง ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ ระบุว่าผมไม่ได้ไปแข่งอะไรกับท่าน สิ่งที่ผมพูดถึงคือการให้มองภาพใหญ่ของรัฐบาลในขณะนี้ ทุกคนเก่งหมด หลายคนอาจมองว่าผมไม่มีความรู้ด้านเศรษฐกิจ ผมอยู่มาหลายปีแล้ว ก็ศึกษา มีคนเก่ง ๆ ช่วยงานเป็นร้อย

ส่วนฐานะที่เป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ มองว่าพรรคการเมืองใดเป็นคู่แข่งตัวจริง พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้เหมือนกัน ทุกพรรคละมั้ง ทุกพรรคแข่งกันหมด

 

 

 

ส่วนพลเอกประวิตร ชูจุดขายก้าวข้ามความขัดแย้งนั้น นายกรัฐมนตรีย้อนถามกลับทันทีว่า แล้วมันขัดแย้งกันตรงไหนตอนนี้

 

ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่า มีการแบ่งขั้วทางการเมือง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แบ่งขั้วอะไร ผมไม่เห็นมีขั้วอะไรสักขั้ว ก่อนที่จะถอนหายใจและพยายามข่มอารมณ์ว่า ก็คิดกันไปเองหมดเน๊าะ ขอสื่อมวลชนอย่าไปสร้างความสับสนอลหม่านมาก ไม่ใช่ใครพูดอะไรมา แล้วนำมาขยายหมด ก็มีแต่เรื่องนั่นแหละ ผมจะไม่พูดอะไรเรื่องพวกนี้ จบไปแล้ว ก็ให้มันจบไป ของเก่าคือของเก่า วันนี้ไปเดินหน้าประเทศกันเถอะ ท่ามกลางความสงบสุขเรียบร้อยของประเทศชาติ ไม่ดีกว่าหรือ ผมก็คิดแค่นี้แหละ ที่ผ่านมาผมก็คิดแบบนี้มาตลอด ก่อนที่จะระบุว่าความขัดแย้งมันไม่มี มันขัดแย้งตรงไหน ไม่เห็นมีอะไรขัดแย้งกันทั้งสิ้น ถ้าความเห็นต่างโอเคผมรับได้ แต่ความขัดแย้งมันต้องต่อยตีกัน หรือทำอะไรกันสักอย่าง ทุกคนทราบดีอยู่แล้ว หลายปีที่ผ่านมา อย่าให้มันเกิดขึ้นอีกเลย

 

สื่อถามต่อว่า เหมือนนายกรัฐมนตรีอยู่ในกติกาแต่มีคนพยายามลากออกมานอกกติกา พลเอกประยุทธ์ ตอบทันที ว่า เรื่องอะไรจะให้เขาลากออกไปล่ะ ผมก็อยู่ในกติกาของผม ของประชาธิปไตย วันนี้ต่างประเทศประเมินจัดลำดับเรื่องประชาธิปไตยของไทยดีขึ้น ขอให้ไปดูตรงนั้น โลกเขาลงคะแนนมาแล้ว ให้คะแนนสูงขึ้น แล้วบอกเราไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน

 

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินออกจากจุดสัมภาษณ์ไปยังต้นดอกพุดพิชญา และก้มไปดมที่ดอกพุด พร้อมกับกล่าวถึงอาการเจ็บมือมาก ขณะนี้ยังให้ยาปฏิชีวนะทุกวัน

 

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่าแล้วจะไปหาเสียงยังไง นายกรัฐมนตรีจึงใช้มือขวาชี้ที่หน้าอกข้างซ้ายเบา ๆ พร้อมกับกล่าวว่า ก็ไปด้วยใจ และเดินเข้ายังตึกไทยคู่ฟ้าในทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว
ผบ.ตร.สั่งสอบคลิปแก๊งต่างด้าว แสดงพฤติกรรมเย้ยกม. กำชับคุมเข้ม ใช้ยาแรง
รมว.วัฒนธรรม เปิดงานรวมญาติชาติพันธุ์ชาวเลครั้งที่ 14 ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว กระบี่ เร่งส่งเสริมวิถีชีวิต วัฒนธรรมชาวเล
ป้าย สุดเจ๋ง "รับซื้อบ้านผีสิง" เจ้าของป้ายรับซื้อจริง มารีโนเวทขาย
"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น