เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง บรรดาพรรคการเมืองต่างขุดทุกสารพัดนโยบายมาขายฝัน รวมทั้งทำทุกกลยุทธ์เพื่อให้ได้คะแนนเสียงจากประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้พบว่ากลุ่มประชาชนที่เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เป็นกลุ่มเนื้อหอม แต่ละพรรคต่างหวังต้องการคะแนนเสียงก็คือ กลุ่มแนวร่วม นปช. หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เราจึงได้เห็นหลายพรรคดึงอดีตแกนนำคนเสื้อแดงมาร่วมพรรค มาเป็นแม่ทัพปราศรัย บางพรรคก็ปลุกนโยบายสลายสีเสื้อ เพื่อหวังให้มวลชนคนเสื้อแดงก้าวข้ามความขัดแย้ง และมาร่วมพัฒนาประเทศไปด้วยกัน ดังนั้นในวันนี้เรามาดูกลยุทธ์ของพรรคต่าง ๆ เพื่อช่วงชิงคะแนนจากกลุ่มคนเสื้อแดง
เริ่มที่พรรคเพื่อไทยของนายใหญ่ดูไบ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดคนเสื้อแดงอย่างแท้จริง เพื่อมาเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ในปี 52-53 แต่จากนั้นบทบาทคนเสื้อแดงได้ลดลงจากการเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลคสช. อย่างไรก็ตามในการเลือกตั้งปี 2562 ทักษิณที่เล่นแผนแตกแบงค์พัน ตั้งพรรคการเมืองหลายพรรค เพื่อกวาดทุกคะแนนเสียง เพราะทุกคะแนนไม่ตกน้ำ นายทักษิณจึงได้จับแยกแกนนำ นปช. โดยให้ส่วนหนึ่งไปอยู่พรรคไทยรักษาชาติ นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ,นายก่อแก้ว พิกุลทอง, นายแพทย์เหวง โตจิราการ, ส่วนนายจตุพรถูกจับแยกไปอยู่พรรคเพื่อชาติ แต่เมื่อพรรคไทยรักษาชาติล่มสลาย จากการดึงฟ้าต่ำของนายทักษิณ แกนนำนปช.ก็แตกไปคนละทิศคนละทาง นายณัฐวุฒิไปตั้งพรรคเส้นทางใหม่ กับนายจาตุรนต์ ฉายแสง
เมื่อปี่กลองเลือกตั้งเริ่มดังขึ้น กติกาที่เปลี่ยนไป พรรคขนาดเล็กขนาดกลางโอกาสลืมตาอ้าปากลำบาก พรรคเหล่านี้จึงดิ้นหนีตาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยใช้โอกาสนี้เรียกอดีตแกนนำนปช. หลายคนกลับมาทำงานให้พรรค นำโดยนายณัฐวุฒิ นายก่อแก้ว นายอรรถชัย อนันตเมฆ หรือโด่ง อรรถชัย อดีตดารา เพื่อปลุกฐานเสียงกลุ่มคนเสื้อแดงในหลายพื้นที่ หลังหลายคนปันใจไปสนับสนุนพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยจึงแก้เกมด้วยการดึงนายณัฐวุฒิกลับมา พร้อมกับแต่งตั้งให้นายณัฐวุฒิเป็นผอ.ครอบครัวเพื่อไทยด้วย โดยมอบหมายให้ทำหน้าที่ที่ถนัดนั่นก็คือ การพูด ไปช่วยพรรคปราศรัยหาเสียงตามเวทีต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งลีลาการปราศรัยของนายณัฐวุฒินั้นเป็นที่ชื่นชอบของคนเสื้อแดงอยู่แล้ว เพราะไม่ได้เน้นเนื้อหาข้อมูลข้อเท็จจริง แต่เน้นเสียดสี ตลกโปกฮามากกว่า