ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา พล.ท. อัศวิน รัชฎานนท์ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้มารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทนที่ น.ส.ภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566 เรื่อง ให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง ต่อมา ภายหลังจากที่ พล.ท.อัศวิน ได้รายงานตัวตามขั้นตอนของทางสำนักฯ เลขาธิการ ส.ส. แล้ว ซึ่งก่อนมาเป็น ส.ส. พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ ฐานะ ที่ปรึกษาประธาน กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฏร ได้ร่วมเสนอร่างแก้ไข พรบ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ…. เพื่อแก้ไขมาตรา 11 ที่บัญญัติว่า ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือทหารนอกประจำการที่จะได้รับ การสงเคราะห์หรือถูกงดการสงเคราะห์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อบังคับสภาทหารผ่านศึก เพราะถือเป็นบทบัญญัติที่ไม่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมทั้ง กลายเป็นเครื่องมือที่บีบบังคับให้ทหารต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งเพื่อให้อดีตเจ้านายขึ้นสู่อำนาจด้วย
โดย พล.ท. อัศวิน ระบุว่า การที่ตนได้รับแต่งตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งๆ ที่ปิดสมัยประชุมฯ ไปแล้วนั้น เนื่องจากเป็นไปตามกฎหมายบัญญัติรัฐธรรมนูญแล้ว ที่สำคัญก็คือ ตนต้องการให้เสียงของทหารผ่านศึกที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อให้นายพลได้รับความสุขสบายนั้น ได้รับการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร เพราะที่ผ่านมา ถึงแม้ตนจะมียศเป็นพลโท แต่ก็รู้ดีว่า ต้องแลกกับหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของทหารผ่านศึกทุกๆ ท่าน ตนถือว่า เป็นหน้าที่สำคัญที่จะต้องตอบแทนบรรดาทหารผ่านศึก ซึ่งควรจะได้รับสิทธิบางประการ เพื่อทำให้ทหารผ่านศึกดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องไปดิ้นรนหาเงินส่วนใดๆมาเพื่อดำรงชีพ โดยทางพรรคไทยศรีวิไลย์ได้เสนอ ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. โดยมีสาระสำคัญ คือ ขณะนี้ ทหารผ่านศึกนอกประจำการดังกล่าวซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 267,000 คน ได้พ้นหน้าที่จากการรับใช้ประเทศชาติแล้วมีความเป็นอยู่ที่ยากจนข้นแค้นและยากลำบาก บางนายเสียชีวิตข้างถนนไม่มีเงินทำศพ แม้จะได้รับการสงเคราะห์ในด้านอื่น ๆ จากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกษาก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับค่าครองชีพในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้น จึงสมควรกำหนดให้มีสิทธิได้รับการสงเคราะห์เงินเลี้ยงชีพรายเดือน เงินช่วยเหลือเป็นค่าครองชีพพิเศษ เงินช่วยค่าครองชีพเพื่อผดุงเกียรติเป็นรายเดือน รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นใด ในอัตราที่คำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสมสอดคล้องกับค่าครองชีพตามสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมและผดุงเกียรติแก่ทหารผ่านศึกนอกประจำการผู้ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่การสงครามหรือในการรบหรือป้องกันหรือปราบปรามการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักรไม่ว่าในหรือภายนอกราชอาณาจักร โดยขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.นี้ เข้าข่ายเป็น พรบ.ที่เกี่ยวกับการเงิน ตามมาตรา 133 – 134 ของรัฐธรรมนูญฯ และมีการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฯ โดยมีทหารทั้ง 3 เหล่าทัพจำนวน 73,014 นาย ซึ่งมาจากทุกระดับชั้นยศ ได้แสดงความเห็น โดยส่วนใหญ่เห็นว่า ควรสนับสนุนให้ทหารผ่านศึกทุกนายได้รับเงินผดุงเกียรติเป็นรายเดือน รวมทั้ง เป็นการแบ่งเบาภาระอีกหลายปัญหาของทหารผ่านศึก เช่น ค่ารักษาพยาบาล หนี้ที่กู้มาเพื่อชื่อที่อยู่อาศัย หรือ การจ่ายค่าเล่าเรียนให้บุตรหลาน และปัญหาจิปาถะอื่นๆ ซึ่งยังมีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้น ตนจึงหวังว่า พรรคการเมืองอื่นๆ จะมึความเห็นที่สอดคล้องกัน ในการดูแลทหารผ่านศึกซึ่งถือว่า เป็นบุคคลที่เสียสละให้กับประเทศชาติและสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนมาตลอดด้วย