พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลปฏิบัติการตามยุทธการ “Lion Air” สามารถจับกุมคนร้าย 4 ราย ซึ่งทำหน้าที่เป็นบัญชีม้า ประกอบด้วย น.ส.วิภา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ได้ที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์ ต.บางขันแตก อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม / นายธนวัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ได้ที่บริเวณริมถนนสาธารณะในหมู่บ้าน หมู่ 10 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี / นายวุฒิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ได้ที่ ต.กกโพธิ์ อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด และ นายซอวิน (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ได้ที่ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2566
“บิ๊กต่อ” โชว์ผลงานลุยจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกสูบเงินคนไทย เสียหายหลายล้านบาท
ข่าวที่น่าสนใจ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่ปรากฎข่าวว่ามีกลุ่มคนร้ายส่งข้อความไปหาเหยื่อ โดยอ้างว่า เป็นข้อความจากสายการบินไลออนแอร์แจ้งว่า ท่านได้รับสิทธิพิเศษได้ตั๋วเครื่องบินฟรี จำนวน 1 ที่นั่ง พร้อมกับแนบลิ้งค์ จากนั้น คนร้ายได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาเหยื่อบอกว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินไลออนแอร์มอบสิทธิพิเศษตั๋วเครื่องบินฟรี จำนวน 1 ที่นั่ง จากเชียงใหม่ไปดอนเมืองแล้วขอให้เหยื่อเพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชั่นไลน์ เมื่อเหยื่อเพิ่มเพื่อนแล้วพบว่า คนร้ายใช้ไลน์ชื่อ “LionAir Group” แล้วคนร้ายได้หลอกลวงให้เหยื่อกรอกข้อมูลลับส่วนตัวในลิ้งค์ของข้อความดังกล่าว จนเหยื่อหลงเชื่อจึงได้กรอกข้อมูลลับส่วนตัวไปในลิ้งค์นั้น จึงทำให้คนร้ายสามารถเข้าควบคุมเครื่องโทรศัพท์มือถือของเหยื่อแล้วโอนเงินในบัญชีธนาคารออกไปยังบัญชีของคนร้าย ซึ่งปรากฎว่า มีผู้เสียหายจำนวนมากและเสียหายเป็นจำนวนเงินหลายล้านบาท
ขณะเดียวกันพฤติการณ์ของคนร้ายยังออกอุบายให้เหยื่อกดลิงค์ ซึ่งอ้างว่า ทางสายการบินได้มอบบัตรโดยสารฟรีของสายการบิน Lion Air ซึ่งก็เป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่คนร้ายใช้ และปัจจุบันพบมีผู้ตกเป็นเหยื่อกว่า100 ราย ความเสียหายกว่า15 ล้าน ซึ่งเบื้องต้นได้พิสูจน์ทราบ แผนประทุษกรรม รวมถึงตัวผู้กระทำความผิดออกหมายจับได้ 6 ร้าย ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 4ราย ยังหลบหนีอีก 2ราย ซึ่งทั้งหมด จะถูกดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ร่วมกันฟอกเงิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง