กสม.ออกแถลงการณ์ ขอทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรง

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์เรื่อง การสังเกตการณ์การชุมนุม 7 สิงหาคม 2564 ย้ำขอให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแ

ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์การชุมนุมทางการเมืองของเครือข่ายกลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่ม REDEM บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 นั้น กสม.ขอยืนยันการปฏิบัติหน้าที่ในการสังเกตการณ์และเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นอิสระ ให้ความเป็นธรรม และรับฟังข้อเท็จจริงจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน

จากการสังเกตการณ์การชุมนุมในวันดังกล่าว กสม.มีข้อห่วงใยเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการใช้ความรุนแรงเข้าปะทะกันของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนและผู้ชุมนุมบางส่วน โดยมีข้อสังเกตเบื้องต้นว่า การจัดตั้งสิ่งกีดขวางเพื่อสกัดกั้นการชุมนุม การใช้อาวุธ อุปกรณ์ ตลอดจนขั้นตอนในการควบคุมฝูงชน ยังไม่ได้เป็นไปในลักษณะจากเบาไปหาหนัก ไม่ได้สัดส่วนและไม่สอดคล้องกับหลักสากล จนส่งผลให้ผู้ชุมนุมที่ไม่ได้ใช้ความรุนแรง สื่อมวลชน และประชาชนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ด้านกลุ่มผู้ชุมนุม ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผู้ชุมนุมบางส่วนได้ตระเตรียมและใช้อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธในการตอบโต้กับเจ้าหน้าที่ อันไม่เป็นไปตามหลักการการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ จนทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมการชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

เพื่อให้เกิดการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต กสม.จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายพิจารณาร่วมกันดังนี้

1. ขอให้ทุกฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงโดยผู้ชุมนุมต้องใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธอย่างแท้จริง ขณะที่รัฐบาลต้องมีแนวทางในการจัดการและควบคุมฝูงชนให้สอดคล้องกับหลักการสากลของสหประชาชาติ (UN Basic Principle on the Use of Forces and Firearms by Law Enforcement Officials)โดยให้เป็นไปตามขั้นตอน และได้สัดส่วนที่เหมาะสม รวมทั้งใช้ความอดทนอดกลั้นในการรับฟังเสียงของประชาชนที่เห็นต่าง

2. ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมโดยสงบกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงแบบแยกแยะ ในกรณีที่มีการใช้ความรุนแรงอันทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น หรือทรัพย์สินของทางราชการ เจ้าหน้าที่จะต้องเร่งนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อสร้างความกระจ่างให้แก่สังคมและลดความคลางแคลงใจต่อกันของทุกฝ่าย

3. ขอให้มีกลไกหรือช่องทางในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้จัดการชุมนุมและเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน เพื่อให้มีการเจรจาแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า อันจะช่วยให้ลดการเผชิญหน้าและความรุนแรงลง

4. การแก้ไขปัญหาในระยะยาว กสม.ขอสนับสนุนให้มีพื้นที่ปลอดภัยในการหารือเพื่อหาทางออกของปัญหาร่วมกันด้วยแนวทางสันติวิธี

ทั้งนี้ กสม.จะหยิบยกกรณีการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ขึ้นตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป อย่างไรก็ดี ภายใต้วิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความอยู่ดีมีสุขของประชาชนในชาติ กสม.ขอเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายใช้สิทธิและเสรีภาพภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างสร้างสรรค์ โดยยุติการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ รวมถึงการสื่อสารที่สร้างความเกลียดชัง พร้อมร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยการรับฟังเสียงของทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศชาติสามารถก้าวผ่านวิกฤตการณ์ที่สังคมไทยกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ไปได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น