หมอแฉ ผู้ป่วยหลอกยังไม่ได้ยา “ฟาวิพิราเวียร์” ก่อนขอซ้ำ ปล่อยขายตลาดมืด

นพ.สุรเวช น้ำหอม แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี เผยพบผู้ป่วยหลอกเอายาฟาวิพิราเวียร์ซ้ำ เพื่อปล่อยขายตลาดมืด

วันที่10 สิงหาคม 2564 นพ.สุรเวช น้ำหอม แพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ผ่านเฟซบุ๊ก “Dr.Surawej Numhom นายแพทย์สุรเวช น้ำหอม” เกี่ยวกับประเด็นการให้ยาฟาวิพิราเวียร์กับผู้ป่วยโควิดที่กักตัวที่บ้าน มีเนื้อหาดังนี้…

 

#เพราะการรักษาโควิดการได้ยาFavipiravirเร็วนั้นสำคัญมาก

 

ในตอนนี้การรับมือกับการระบาดของโควิดในกรุงเทพ เราไม่มีเตียงจะให้คนไข้ทุกคนรักษาในโรงพยาบาลแล้ว การรักษาแบบ Home isolation จึงสำคัญมาก ในเวลาที่คนไข้ติดเชื้อมากมายในแต่ละวัน ทีมแพทย์และเภสัชพยายามจะรีบส่งยา Favipiravir ให้เร็วที่สุดเพื่อให้คนไข้ได้ยาทานก่อนที่อาการจะเป็นมาก ซึ่งแน่นอนว่าการพยายามส่งให้เร็วและจำนวนมาก การตรวจสอบก็จะไม่ได้มีขั้นตอนที่ละเอียดหรือซับซ้อนมากเพื่อความรวดเร็ว และในเวลานี้เรายังส่งยาได้ไม่เร็วพอเลยด้วยซ้ำ

 

#ตอนนี้มีคนไข้ที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่าไม่ได้

 

แต่ในความพยายามที่จะทำให้เร็ว ก็มีคนไข้บางคนที่ได้ยาไปแล้วกลับบอกว่ายังไม่ได้ เพื่อจะให้ทีมแพทย์ส่งยา Favipiravir ไปให้อีกครั้ง จุดประสงค์เพื่อนำยาไปขายต่อ เพราะตอนนี้ราคายา Favipiravir ในตลาดมืดมีราคาสูงมาก เพราะคนกลัวว่าหากการระบาดยังมากขนาดนี้ ยาอาจจะมีไม่พอ จึงมีความต้องการยา Favipiravir มากและแน่นอนว่าการนำไปขายแบบนี้จะมีคนซื้อทันที

 

#หากเราต้องสร้างระบบตรวจสอบหลายขั้นทุกอย่างจะยิ่งช้า

 

ดังนั้นหากมีเหตุการณ์ที่คนไข้ได้ยาแล้วแต่บอกว่ายังไม่ได้ เช่นตอนนี้ก็สามารถจับได้หลายเคสแล้วที่ทำแบบนี้ และหากมีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดความระแวงว่ายาจะรั่วไหล จะทำให้ต้องมีระบบการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งก็จะเพิ่มทั้งเวลาในการตรวจสอบและต้อง double check ทุกครั้งที่คนไข้บอกว่าไม่ได้ยา ซึ่งจะทำให้คนไข้ที่ไม่ได้ยาจริงยิ่งได้รับช้าขึ้นไปอีก

 

#เราได้ยาแล้วแต่ยังมีคนอื่นที่ยังไม่ได้ยาอีกมาก

 

จึงต้องขอว่าในเวลาที่วิกฤติแบบนี้ ทุกคนเดือดร้อนและลำบากกันหมด แค่ส่งยา Favipiravir ให้ถึงมือคนไข้ทุกคนให้ทันเวลาก็ยากแล้ว หากคนไข้ท่านใดที่แจ้งว่าไม่ได้ยาแล้วเราต้องมาตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานการได้ยาไปแล้วหรือยัง ก็ต้องใช้เวลา ต้องสร้างระบบตรวจสอบ ต้องเพิ่มขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งสุดท้ายทุกอย่างก็จะล้าช้าไปหมด

 

ระบบราชการช้าและซ้ำซ้อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว อย่าทำให้ช้าเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตัวเองเลย เวลานี้คนไข้และทีมแพทย์และทีมรักษาต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้เรารักษาคนให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพราะเราจะต้องรอดไปด้วยกันจากวิกฤติครั้งนี้นะครับ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

กรมวิชาการเกษตร ชู "ชุดตรวจสอบธาตุอาหารพืชในดิน" วิเคราะห์แม่นยำ ใช้งานง่าย รู้ผลไว หนุนขยายผลสู่เกษตรกร
MQ-9 สิ้นฤทธิ์! "ฮูตี" สอยโดรนสอดแนมสหรัฐฯ 18 ลำ-ถล่มเรือรบทะเลแดง
ปลัดเกษตรฯ ให้โอวาทเยาวชนเกษตรทั้ง 12 คน ก่อนเดินทางไปฝึกงานด้านเกษตรที่ญี่ปุ่น ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาพัฒนาภาคเกษตรไทยในอนาคต
“รมว.นฤมล - รมช.อิทธิ” ลุย จ.ชัยภูมิ มุ่งเพิ่มศักยภาพผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ลั่น! ดูแลผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรไทย ย้ำต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเจรจาภาษีสหรัฐฯ
"นฤมล-ธรรมนัส" ร่วมเปิดสนง.สาขา "พรรคกล้าธรรม" มั่นใจนำ "ชัยภูมิ" เปลี่ยนแปลงดีขึ้น
“บขส.” เผยยอดปชช. เดินทางกลับบ้านสงกรานต์ 68 คาดวันนี้ผู้โดยสารแน่น 1.3 แสนคน
กู้ภัยเจอแสงไฟมือถือ ใต้ซากตึกสตง. โซน B สแกนพบร่างคน ลุ้นความหวังรอดชีวิต
"อนุทิน" เผยปภ.ชงเพิ่มเงินชดเชยผู้เสียชีวิต "ตึกสตง." ถล่มเป็น 1 แสน ยังไม่สรุปสาเหตุรอผลสอบให้ชัด
เปลือกโลกขยับ “เชียงใหม่” แผ่นดินไหวถี่ยิบ “กูรู” เผยสภาพ “เขื่อนแม่งัดฯ”
"สรรเพชญ" จี้เร่งสอบเหตุตึกสตง.ถล่ม ลั่นคือบทเรียนใช้งบฯแผ่นดิน ต้องคุ้มค่า-ปลอดภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น