มติป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา “จักรทิพย์” กับพวก 46 ราย คดีซื้อรถตรวจการณ์ 900 ล้าน

“นิวัติไชย เกษมมงคล” เผย มติ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ขณะดำรงตำแหน่งผบ.ตร.กับพวกรวม 46 ราย คดีซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจริยะ 260 คัน วงเงิน 900 ล้านบาท

14 มี.ค.2566 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันถึงกระแสข่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติแจ้งข้อกล่าวหาแก่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับพวกรวม 46 ราย คดีจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจริยะ จำนวน 260 คัน วงเงิน 900 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2561-2562 แล้วจริง โดยการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

จักรทิพย์ ลงผู้ว่าฯ กทม. ลั่นมี "พรรคพวก" ปัดปมปัญหาในพลังประชารัฐ

 

 

 

นายนิวัติไชย กล่าวว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาตามกฎหมาย กำหนดระยะเวลาภายใน 15 วันภายหลังได้รับแจ้งข้อกล่าวหา และสามารถยื่นหนังสือเข้ามาขอเลื่อนชี้แจงได้ โดยเป็นดุลพินิจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าจะอนุญาตให้เลื่อนชี้แจงหรือไม่

ข่าวที่น่าสนใจ

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเดือน พ.ค.65 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาประจำสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 เสนอให้มีการแต่งตั้งองค์คณะไต่สวน (มีกรรมการ ป.ป.ช. 9 รายเป็นองค์คณะ) โดยมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน

 

 

 

สำหรับประเด็นการไต่สวนเรื่องนี้ มีทั้งกรณีการอนุมัติให้ใช้วิธีการจัดซื้อโดยวิธีคัดเลือก ชอบด้วย พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 หรือไม่ การจัดซื้อโดยวิธีคัดเลือกเป็นเหตุให้ไม่มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมหรือไม่ การกำหนดราคากลางชอบหรือไม่ แพงเกินจริงหรือไม่ และการไม่คิดค่าปรับและแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่บริษัทเอกชนคู่สัญญาหรือไม่

ส่วนโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ จำนวน 260 คัน วงเงินกว่า 900 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2561-2562 ดังกล่าว มีบริษัท จีเนียส ทราฟฟิค ซิสเต็ม จำกัด เป็นคู่สัญญา เคยปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนช่วงต้นปี 2563 ว่า เป็นโครงการที่ 2 ต่อจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics ระยะที่ 1 วงเงิน 2.1 พันล้านบาท ที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปรึกษาพิเศษ สำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ถูกคนร้ายลอบยิงรถยนต์เมื่อคืนวันที่ 7 ม.ค. 2562

 

โดยเชื่อว่าเกิดจากสมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และสั่งการให้มีการตรวจสอบโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics ระยะที่ 1 พร้อมกับมีหนังสือถึง ผบ.ตร.ยุคนั้นคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ให้ยกเลิกโครงการดังกล่าว เนื่องจากเกิดความล่าช้า และส่งงานไม่ทัน พร้อมกับยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุดารัตน์" ลุยสวนจตุจักร รับฟังปัญหาผู้ค้า พร้อมคุยผู้ว่ากทม.นำแก้ไขโดนยกเลิกสิทธิ์ จ่ายช้าเก็บค่าปรับสูง 1,800 % ต่อปี
“ณัฐวุฒิ” ชี้มนต์ขลัง “ทักษิณ” ช่วยเพื่อไทยชนะเลือกตั้งนายกอบจ. ยัน “บ้านใหญ่” ไม่ใช่ปัญหาขวางความเจริญ
เปิดใจ! ผกก.สืบนครบาล1 หลังสูญเสียนักสืบมือฉมัง 2 นาย ขณะล่าแก๊งยาเสพติด
"ชาวเสื้อแดงอีสาน" พอใจ "ทักษิณ" พาเพื่อไทยคว้าเก้าอี้ "นายก อบจ." มากถึง 18 จังหวัด
ไหนแตงโม! “เต้” งัดกล้องซังฮี้ 5 ตัวรวด ไม่มีคนนั่งท้ายเรือ-นับยังไงก็ไม่ถึง 6
เปิดใจ 'สุพิศ พิทักษ์ธรรม' คว้าชัยนายก อบจ.สงขลา ด้วยคะแนนท่วมท้น พร้อมพลิกฟื้นบ้านเกิดด้วย 5 นโยบาย ให้ยั่งยืน
เพจดังแฉหลักฐาน IO ส้มเวียดนามบุกเมนต์ไทยฉ่ำ ฉุนแพ้นายกอบจ.ภูเก็ต
ตำรวจปานามาปะทะเดือดกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรูบิโอ้
"นายกฯ" คุยรายการครั้งแรก "โอกาสไทย" ยันแจกหมื่นเฟส 3 ย้ำผลงานบัตรทองทำครบ 77 จว. เร่งบ้านเพื่อคนไทย
ชายแดนตึงเครียด! จนท.ตรึงเข้ม 371 Km คอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานบุกพญาตองซู

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น