น.1 เผยปฏิบัติการกดดัน “สารวัตรคลั่ง” หาช่องยุติสถานการณ์ ประเมินอาการป่วย ร้องเพลงกล่อมไม่เป็นผล

ผบช.น.เผย ใช้โดรนหาพิกัด จับความเคลื่อนไหว สารวัตรคลั่ง พร้อมจำกัดพื้นที่ และประเมินสภาพจิต เพื่อใช้มาตรการจัดการที่เหมาะสม ลั่นหากจำเป็นต้องปฏิบัติการขั้นเด้ดขาดก็พร้อม

วันนี้ ( 15 มี.ค.) พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยความคืบหน้าในการพยายามระงับเหตุ สารวัตรคลั่ง ว่า ตลอดระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่ พยายามกดดัน เพื่อเข้าควบคุมตัว หรือแม้กระทั่งเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุ มอบตัวนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประเมินสถาณการณ์ตลอดเวลา เบื้องต้น สถานการณ์มีความสุ่มเสียงที่จะก่อให้เกิดอันตราย ต่อตัวผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพราะผู้ก่อเหตุยังมีเครื่องกระสุนที่พร้อมตอบโต้เจ้าหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนความคืบหน้าในการปฏิบัติ เจ้าหน้าที่สามารถเปิดพื้นที่ ในการควบคุมได้มากขึ้น และเปิดช่องว่าง ที่ทำให้เห็นความเคลื่อนไหวผู้ก่อเหตุ โดยสามารถกดดัน ให้ผู้ก่อเหตุ อยู่บริเวณชั้นสองของห้องพัก ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้โดรน บินเข้าไปตรวจการด้านใน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

แต่ขณะนี้ยังมีความเสี่ยง ที่จะก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่ายจึงไม่จำเป็นต้องเร่งรีบในการใช้ยุทธวิธีจู่โจม ต้องประเมินว่า อาการป่วยของผู้ก่อเหตุ จะต้องใช้วิธีใด หาก จำเป็นต้องใช้กระสุนจริง เจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะปฏิบัติงานทันที โดยการเจรจาสื่อสารนั้นไม่สามารถ จะสื่อสารแบบคนปกติทั่วไปได้

ส่วนยุทธวิธีที่ให้เพื่อนร่วมงานมาร้องเพลงให้ฟัง ควบคู่ไปกับการจู่โจม ถือเป็นเป็นวิธีดึงดูดความสนใจ แต่ผู้ก่อเหตุ ยังมีการตอบโต้ จึงจำเป็นต้องถอนกำลังมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัย ส่วนอาวุธ ที่ผู้ก่อเหตุใช้นั้น เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่า เป็นปืนชนิดลูกโม่ที่ใช้ตอบโต้ นอกจากนี้ ยังมีเสียงปืนออโตเมติก สังเกตุได้จากเสียงปืนที่ดังต่อเนื่องแต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นปืนชนิดใด

 

มีรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จากเจ้าหน้าที่ว่า การเข้าจู่โจม ชุดปฏิบัติการพิเศษ ถูกกระสุนของผู้ก่อเหตุยิงสวนมาถูกหมวก แต่กระสุนแฉลบออกไปทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และมีการเปิดเผยภาพจากโดรนของเจ้าหน้าที่ ที่สามารถบันทึกภาพผู้ก่อเหตุที่อยู่ภายในบ้านพักได้ชัดเจน โดยพบว่า ซุกตัวหลบอยุ่มุมห้อง ในสภาพค่อนข้างอิดโรย คล้ายอดนอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ประยุทธ์” ไม่กังวลกมธ.มั่นคง นัดสางปมร้อน ชั้น 14 ลั่นใครมีหน้าที่อะไร ก็ต้องดำเนินไป
ศธ.ปูนบำเหน็จ 7 ขั้น 3 คุณครู เสียชีวิตเหตุบัสไฟไหม้ พร้อมขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ยกย่องคุณความดี
ภารกิจสำเร็จ รพ.ขอนแก่น ขอบคุณทุกฝ่าย ร่วมช่วยเหลือเด็ก อายุ 14 วัน ส่งตัวรักษาภาวะหลอดเลือดใหญ่หัวใจสลับขั้ว
ตม.กาญจนบุรี ป้องกันเข้มระดมกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ตามนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร
"กมธ.อุตสาหกรรม" ลุยตรวจโรงงานเคมีเถื่อน เตรียมหามาตรการป้องกันลักลอบนำเข้า
‘วิจารณ์– จันทร์แจ่ม’ เปิดใจปม ‘อิมาน เคลิฟ’ หลังพบหลักฐานใหม่เป็นเพศชาย จนเกิดดรามาคว้าเหรียญทองมวยโอลิมปิก 2024
"ทนายอั๋น" ชี้เป้าให้ตรวจสอบญาติทนายดัง ดูแลเงิน-เอี่ยวเว็บพนัน
"คมสัน" ชี้ปมเกาะกูด อย่าเอาผลประโยชน์ชาติ เเลกประโยชน์ส่วนตัว
ไม่มีชิ้นดี! ลูกน้องแฉ “ตี่ลี่ฮวงจุ้ย” ติดพนันหนัก-เคยเปิดบ่อน พ่อขับแท็กซี่ แม่ขายข้าวแกง
สำนักงานศาลยุติธรรม ผนึกกำลังกรมคุมประพฤติ เล็งนำกำไลEM ใช้กับผู้ต้องคดีทางเพศ-ยาเสพติด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น