นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19ว่า ภาพรวมการระบาดทั้งประเทศระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวันที่ 6 สิงหาคม พบสายพันธุ์อินเดีย หรือเดลตา 91.9% สายพันธุ์อังกฤษ หรือ อัลฟ่า 7.9% สายพันธุ์แอฟริกาใต้ หรือเบต้า 0.2% ส่วนกรุงเทพมหานคร สายพันธุ์เดลตา ระบาด 95.4% สายพันธุ์อัลฟ่า 4.6% ขณะที่ภูมิภาค สายพันธุ์เดลตา ระบาด 83.2% สายพันธุ์อัลฟ่า 16.0% และสายพันธุ์เบต้า 0.8% ทั้งนี้เราพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้าครบทุกจังหวัด ส่วนสายพันธุ์เบต้า สัปดาห์ที่ผ่านมาเราพบผู้ติดเชื้อเพิ่มแค่ 4 ราย ที่ภูเก็ต 3 ราย พัทลุง 1 ราย ส่วนใหญ่ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เบต้ายังอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส ส่วนสายพันธุ์แรมด้าเรายังไม่พบ แต่ก็จะเฝ้าระวัง ทั้งที่มาจากต่างประเทศ หรือพื้นที่ชาย แดน รวมถึงคลัสเตอร์แปลกๆ
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยังกล่าวถึงกรณีมีอินฟลูเอนเซอร์ในโซเชียลมีเดีย พยายามตรวจภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีน แล้วก็มาบอกว่าภูมิคุ้มกันขึ้นน้อย บางคนก็ขึ้นมาก ซึ่งตนย้ำว่าการตรวจแบบนั้นมันไม่ได้บอกอะไร และไม่คุ้มที่จะไปตรวจ เพราะการตรวจเป็นการขึ้นของภูมิคุ้มกันรวมๆ มันไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่า ตกลงจัดการกับเดลตา อัลฟา หรือเบตา ได้มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญคือ แลปแต่ละแห่งมีค่าของตัวเลขแตกต่างกันไป ฉะนั้นเปรียบเทียบกันไม่ได้ อีกทั้งองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยังไม่ได้กำหนดค่าของภูมิคุ้มกันว่ามีขนาดไหนถึงจะป้องกันโรคได้ อย่างไรก็ตามหากท่านจะไปตรวจภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีน ควรถามแลปว่า ที่ตรวจใช่ Neutralizing Antibody หรือไม่ ถ้าเป็นภูมิทั่วๆ ไปไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นขอให้ทำความเข้าใจ เพราะมีการชักชวนกันไปตรวจมากมาย ซึ่งไม่มีความจำเป็น