วันนี้ 15 มี.ค.66 ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมืองพรรค เปิดตัว นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ดร.มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน เสริมทีมนโยบายด้านเศรษฐกิจพลังงานของพรรค โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีความยินดีที่ได้ทีมเศรษฐกิจทั้ง 2 ท่านมา ได้แก่ 1. นายธีระชัย และ 2. ดร.มล.กรกสิวัฒน์ ซึ่งทั้ง 2 ท่านเป็นทีมเศรษฐกิจที่มีความสามารถทั้งด้านเศรษฐกิจ และพลังงาน ที่พร้อมทำงานเพื่อพรรค และนำประโยชน์มาสู่ประชาชนเป็นสำคัญ ต้องขอบคุณที่มาร่วมทำงาน พรรคพลังประชารัฐยินดีต้อนรับทั้ง 2 ท่านเป็นอย่างยิ่ง
ข่าวที่น่าสนใจ
“ตอนนี้สื่อมวลชนคงทราบแล้วว่าเรามีทีมเศรษฐกิจเพียงพอแล้ว เราพร้อมแก้ปัญหาให้บ้านเมือง ให้ประชาชนให้สามารถอยู่ดีกินได้ และยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ ฝากสื่อมวลชนช่วยบอกเพื่อนฝูงว่าพรรคเรามีทีมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง พร้อมทำงานเพื่อบ้านเมือง ประเทศชาติ และประชาชน” พล.อ.ประวิตร กล่าว
นายสันติ กล่าวว่า ทั้ง 2 ท่าน เป็นบุคคลากรที่มีความรู้ความสามารถอย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว โดยนายธีรชัย เป็นอดีตรมว. คลัง และดร.มล.กรกสิวัฒน์ มีความเชี่ยวชาญด้านพลังงาน และหลาย ๆ เรื่อง ซึ่งทั้ง 2 ท่านมีอุดมการณ์ที่จะเข้ามาช่วยพรรคผลิตนโยบาย และแนวคิดเศรษฐกิจเพื่อประชาชน เพื่อให้พรรคเป็นที่หวังของประชาชนในการพัฒนาด้านต่าง ๆ ให้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม เมื่อหัวหน้าพรรคได้เป็นนายกฯ ทุกนโยบายเราจะทำทันที และเห็นผลทันที
ด้านนายธีระชัย เปิดใจถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ ว่า ตนตัดสินใจเพราะเห็นว่าบ้านเมืองกำลังจะเผชิญปัญหาใหญ่ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า ส่วนหนึ่งจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ของโลกซึ่งจะเป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ซัดมาชายฝั่งประเทศไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจและในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อีกส่วนหนึ่งจากปัญหาที่สะสมกันมาหลายปี เช่น 1.ปัญหาเศรษฐกิจการเงินโลก 2.ปัญหาการบริหารประเทศต้องเพิ่มนโยบายที่เน้นทำให้ประชาชนมีความเข้มแข็งในตัวเอง 3.ปัญหาการบริหารประเทศไม่ได้ทำให้เกิดความสมดุล ระหว่างผลประโยชน์ของผู้บริโภค กับนายทุนเอกชน และ 4.ต้องเพิ่มนโยบายที่ขจัดความขัดแย้ง และการเปิดรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ตนมองว่าการจะแก้ไขปัญหาหลักเหล่านี้ได้ พรรคการเมืองจะต้องเปิดกว้างให้นักวิชาการมืออาชีพเข้ามาร่วมงาน พรรคการเมืองจะต้องเบนเข็มทิศทางการบริหารเพื่อให้เกิดสมดุลแก่ประโยชน์ของประชาชนมากขึ้น พรรคการเมืองจะต้องสามารถบริหารความขัดแย้งในสังคมไทยให้ลงตัว ซึ่งตนได้พิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคที่จะแก้ปัญหาได้ ก็คือพรรคพลังประชารัฐ เพราะจะมีโอกาสทำงานเพื่อประชาชน สร้างสมดุลระหว่างนายทุนกับประชาชน และเป็นนโยบายที่ทำได้จริง
ขณะที่ ดร.มล.กรกสิวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากตนได้มีโอกาสพบกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ทำให้ตนได้ทราบว่า พรรคมีความตั้งใจมิใช่แค่ลดราคาพลังงานแบบฉาบฉวย แต่จะเป็นการปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบอย่างจริงจังซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ดังที่ท่านผู้บริหารของพรรค ได้แก่ คุณสนธิรัตน์ และคุณมิ่งขวัญ ได้นำเสนอในข่วงที่ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สำคัญ คือ การมองปัญหาพลังงานแบบองค์รวม เพราะการมองแยกส่วนโดยลดราคาพลังงานชนิดหนึ่งอาจส่งผลให้ราคาพลังงานชนิดอื่นปรับขึ้นได้ จึงต้องไขปัญหาไปพร้อมๆ กัน ทั้งราคาน้ำมัน ราคาก๊าซ และค่าไฟฟ้า ที่สำคัญ ตนเห็นว่า พลเอกประวิตร มีความใจกว้างที่จะรับฟังความเห็นที่ตนนำเสนอ และพร้อมที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้ตนเชื่อมั่นว่า นโยบายด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านพลังงานจะถูกคัดกรองมาแล้วว่า จะเป็นนโยบายที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนโดยยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง และหากพลเอกประวิตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ก็เชื่อมั่นได้ว่า นโยบายที่พรรคได้นำเสนอไปนั้น ถือเป็นสัญญาประชาคมที่จะต้องถูกผลักดันให้สำเร็จให้จงได้ ตามเจตจำนงของพรรคภายใต้นโยบาย “พลังงานของประชาชน เพื่อประชาชน”
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีนโยบายเศรษฐกิจอะไรออกมาหลังจากนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รอให้ออกมาก่อน เดี๋ยวค่อยถาม เมื่อถามว่า ตอนนี้มีทีมเศรษฐกิจพร้อมแล้ว นโยบายจากนี้จะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เศรษฐกิจก็คือเศรษฐกิจ ไม่ต้องถาม เดี๋ยวออกมาเอง พรรคมีทีมงาน ตนไม่ได้ออกนโยบายคนเดียว อย่างไรก็ตาม นโยบายพรรคจะออกมาเรื่อย ๆ
เมื่อถามว่าวางบทบาทการทำงานกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ อย่างไร พลอ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอะไร ทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหา ทั้ง 2 ท่านมีความรู้ จะคุยกันว่าจะทำอย่างไร รับรองว่าดีแน่นอน เมื่อถามว่า จากนี้จะมีทีมเศรษฐกิจเพิ่มอีกหรือไหม พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แค่นี้ก็พอแล้ว สามารถดูแลประเทศชาติ เมื่อถามว่า ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ สามารถสู้กับทีมเศรษฐกิจพรรคอื่นได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สู้กับใคร เราไม่สู้กับใคร เราสู้เพื่อประเทศชาติให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เท่าเทียมกันทุกคน เมื่อถามว่ามีภาพทานข้าวกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวกลับสื่อมวลชนว่า “กินไม่ได้หรือไง กินข้าวอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว” เมื่อถามต่อว่าหลังจากนี้จะมีขั้วการเมืองใหม่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง