ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ออกแถลงการณ์ต่อกรณีที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (หรือ ICC) ออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามว่า นี่คือการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความรับผิดชอบครั้งประวัติศาสตร์ ประมุขแห่งรัฐผู้ก่อการร้าย และเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่ง กลายเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างเป็นทางการในคดีอาชญากรสงคราม การแยกเด็กออกจากครอบครัว, การไม่ให้พวกเขาติดต่อกับญาติ, การซ่อนเด็กไว้ในดินแดนของรัสเซีย, การนำเด็กๆไปทั่วภูมิภาคที่ห่างไกล เป็นนโยบายของรัสเซีย เป็นการตัดสินใจที่มีความชั่วร้ายอย่างชัดเจน ซึ่งเริ่มต้นด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศเหล่านี้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐได้กล่าวว่า ตนคิดว่ามันสมเหตุสมผลแล้ว แม้สหรัฐจะไม่ได้เป็นสมาชิก ICC แต่การออกหมายจับนี้ เป็นความชอบธรรมและเป็นจุดแข็งอย่างยิ่ง ต่อมา ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐได้ออกคำแถลงผ่านอีเมล์ว่า สหรัฐได้สรุปว่า กองกำลังรัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน และขอสนับสนุนความรับผิดชอบ ต่อผู้ก่ออาชญากรรมสงคราม นี่เป็นคำตัดสินที่อัยการ ICC ตัดสินโดยอิสระตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่
ขณะที่นายโจเซป บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าวว่า นี่เป็นการตัดสินใจที่สำคัญ ของความยุติธรรมระหว่างประเทศ และสำหรับประชาชนของยูเครน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการรุกรานอย่างผิดกฎหมายต่อยูเครน จะต้องถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในกระบวนการแสดงความรับผิดชอบ รัสเซียและผู้นำต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่พวกเขาก่อขึ้นในยูเครน
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครน ไม่ว่าจะเป็น ที่ปรึกษาประธานาธิบดี, หัวหน้าอัยการสูงสุด, รัฐมนตรีต่างประเทศ ต่างออกมาแสดงความเห็นว่า นี่เป็นการตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์สำหรับยูเครน และระบบกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด แต่ก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหนทางอันยาวไกล ในการกอบกู้ความยุติธรรมกลับคืนมา วงล้อแห่งความยุติธรรมกำลังทำงาน โลกได้เปลี่ยนไป นี่คือการตัดสินใจเชิงสัญลักษณ์ของการเมืองในยุโรป ส่วนการเมืองของรัสเซียก็ได้รับสัญญาณบางอย่างว่า ประเทศจะไม่มีทางกลับไปสู่สภาวะก่อนสงครามได้อีกต่อไป ปูตินไม่ใช่สถานะที่แตะต้องไม่ได้ และไม่มีความกลัวในปูตินอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ทางด้านของรัสเซีย นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกแห่งทำเนียบเครมลินของรัสเซีย ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อกล่าวหาของ ICC ถือว่าอุกอาจและไม่สามารถยอมรับได้ แต่รัสเซียก็เป็นเหมือนประเทศอื่นๆจำนวนมาก ที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ICC ดังนั้น การตัดสินใจใดๆ ในลักษณะนี้ จึงถือเป็นโมฆะสำหรับสหพันธรัฐรัสเซีย ในแง่ของกฎหมาย ด้านประธานรัฐสภารัสเซีย ก็ระบุว่า รัสเซียถือว่า การโจมตีประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เป็นการรุกรานประเทศแล้ว
ทั้งนี้ มาเรีย ซาคาโรว่า โฆษกกระทรวงต่างประทศรัสเซียได้ให้ข้อมูลว่า คำตัดสินของศาลอาญาระหว่างประเทศไม่มีความหมายสำหรับรัสเซีย ซึ่งนี่ก็รวมถึงในมุมของกฎหมายด้วย เพราะรัสเซียไม่ได้เป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรม ของศาลอาญาระหว่างประเทศ และไม่มีภาระผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น