เมื่อวันที่ 19 มีนาคม สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ประเมินความเสี่ยง ความล้มเหลวการเมือง” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,061 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15-18 มีนาคม พ.ศ.2566 โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนจากขนาดตัวอย่างบวกลบร้อยละ 5 ในช่วงความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบว่า เกินกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 37.7 ยังคงสนับสนุนรัฐบาลทำงานต่อ ในขณะที่ร้อยละ 34.2 ขออยู่ตรงกลาง พลังเงียบ และร้อยละ 28.1 ไม่สนับสนุนรัฐบาล
ที่น่าสนใจคือ เมื่อสอบถามถึงความตั้งใจจะกาบัตรให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใด (ถ้าเลือกได้) พบ 5 อันดับแรก ได้แก่ ร้อยละ 39.0 ระบุ บัตร อุ๊งอิ๊ง (เพื่อไทย) ร้อยละ 21.9 ระบุบัตรอนุทิน (ภูมิใจไทย) ร้อยละ 13.9 ระบุ บัตรจุรินทร์ (ประชาธิปัตย์) ร้อยละ 13.2 ระบุ บัตรลุงตู่ (รวมไทยสร้างชาติ) และร้อยละ 2.6 ระบุบัตรลุงป้อม (พลังประชารัฐ) ตามลำดับ
นอกจากนี้ เมื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงการเมือง กับ กระแส ส.ส.ย้ายออกจากพรรค (โอกาสพลิกผัน) พบว่า ร้อยละ 57.4 เสี่ยงน้อยถึงไม่กระทบเลย ในขณะที่ ร้อยละ 24.5 กระทบปานกลาง และร้อยละ 18.1 เสี่ยงมาก ถึง มากที่สุด
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงการเมืองกับกระแส ส.ส.ย้ายออกจากพรรค (โอกาสพลิกผัน) กับ ความตั้งใจจะกาบัตรเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถ้าเลือกได้ พบว่า บัตรลุงตู่ (รวมไทยสร้างชาติ) มีความเสี่ยงมากที่สุดคือร้อยละ 27.1 บัตรอุ๊งอิ๊ง (เพื่อไทย) มีความเสี่ยงสูงรองลงมาคือร้อยละ 22.2 บัตรอนุทิน (ภูมิใจไทย) มีความเสี่ยงร้อยละ 18.2 บัตรจุรินทร์ (ประชาธิปัตย์) มีความเสี่ยงร้อยละ 12.9 และบัตรลุงป้อม (พลังประชารัฐ) มีความเสี่ยงร้อยละ 3.6 ตามลำดับ
สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ระบุว่า ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงความล้มเหลวการเมืองในผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า โอกาสพลิกผันทางการเมืองยังคงมีอยู่ที่จะทำให้อันดับผลการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงได้โดยเฉพาะต่อ พรรครวมไทยสร้างชาติที่ชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในปัจจุบันนี้และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่มีความเสี่ยงสูงอาจเกิดโอกาสพลิกผันเปลี่ยนใจของประชาชนผู้ตั้งใจจะเลือกได้ นี่คือความรู้สึก (Sentiment) ของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอันน่าจะมีปัจจัยสำคัญมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลอื่น ๆ ประกอบและพบสาเหตุที่เป็นไปได้บางประการได้แก่
ประการแรก ความเป็นสถาบันการเมืองการไม่เป็นพรรคการเมืองที่จัดตั้งใหม่จนกล่าวกันว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ ไม่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อหวังเป้าหมายทางการเมืองอะไรบางอย่าง ความมีหลักการอุดมการณ์ทางการเมืองที่ยาวนาน และผลงานการประกันรายได้เกษตรกรพืชเศรษฐกิจน่าจะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ความตั้งใจจะเลือกบัตรจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากพรรคประชาธิปัตย์มีความเสี่ยงต่ำต่อการตัดสินใจของแฟนคลับพรรคประชาธิปัตย์ในการตั้งใจจะกาบัตรจุรินทร์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี