ยุบสภาฯรอราชกิจจาฯ “บิ๊กตู่” ย้ำอีกรอบ วันเกิด 2566 ขอคนไทยมีสุข ไม่แตกแยก

ส่วนกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคใจไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการภูมิใจไทย เข้าร่วมรับประทานอาหารกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้าหรือไม่นั้น

พลเอกประยุทธ์ ย้อนถามสื่อว่า “เขาไปทานข้าวด้วยกันไม่ใช่หรือ สื่อก็ไปคิดเอาเองทั้งหมด คุณไม่ได้ไปนั่งอยู่กับเขาคุณไม่รู้หรอกว่าเค้าพูดอะไรกัน และผมก็ไม่ทราบ ทำไมต้องถามพลเอกประวิตรทั้งหมดเลยเหรอ ที่ไปทานข้าวกับใคร ไปไหนกับใคร ผมไม่ใช่คนจุกจิกแบบนั้น ผมไม่ใช่ และก็ไม่เห็นรูปการจับมือกันเลย คุณได้เห็นเหรอ ถ้าเขาคุยกันก็ต้องไปถามคนพูดคนคุยเพราะผมไม่ได้คุยด้วย อย่าถามในเรื่องที่ผมไม่ได้อยู่ไม่ได้เกี่ยวข้อง”

ส่วนนายกฯจะพร้อมร่วมด้วยกับพลเอกประวิตร นายอนุทินหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ทราบและไม่รู้เพราะยังไม่เลือกตั้ง สื่อยังถามย้ำว่าพลเอกประยุทธ์ เชื่อว่าจะได้กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งได้หรือไม่ พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ก็ไม่คิดอะไรทั้งนั้น ตนก็ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน

ทั้งนี้ภายหลังผลสำรวจของนิด้าโพลที่ออกมานั้น พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่าก็เห็น ก็คือเห็น โพลก็คือโพล ก็แล้วแต่ว่าอยู่ที่ประชาชนนั่นแหละว่าต้องการอะไรอย่างไร ที่มันควรจะถูกต้อง ที่ควรจะทำให้ประเทศชาติไม่เสียหาย นั่นคือสิ่งสำคัญที่รัฐบาลต่อไป ตนก็อยากทำให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ภาพการจับมือของแต่ละพรรคการเมืองในส่วนของพลเอกประยุทธ์เอง ถ้าได้กลับเข้ามามีการวางไว้หรือยังว่าจะจับมือกับใคร ได้วางไว้หรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า
“ก็ไม่รู้เพราะยังไม่ทราบว่าใครจะได้และเขาจะจับกับผมหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เหมือนกันไม่ใช่ว่าผมจะอยากจับกับเขาข้างเดียวได้เสียเมื่อไหร่ล่ะ ก็แล้วแต่เอาประเทศชาติมาก่อนก็แล้วกันจะทำอะไรก็ตามขอให้นึกถึงประเทศชาติประชาชนเป็นหลัก”

ส่วนในฐานะที่พลเอกประยุทธ์ เป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีจุดขายอะไรให้กับประชาชนบ้างนั้น พลเอกประยุทธ์ ระบุว่า ที่บอกไปแล้วว่าทุกอย่างให้ดูผลงานการปฎิบัติการทำงานในช่วงที่ผ่านมาทั้งในส่วนของพรรคซึ่งก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลและวันนี้ก็ลงเลือกตั้งกันทั้งหมดอยู่แล้วและมีพรรคใหม่ขึ้นมาคือรวมไทยสร้างชาติ ที่เขาให้นายกฯเป็นประธานยุทธศาสตร์ จึงเอาแนวทางการขับเคลื่อนอยู่ เอาไปขับเคลื่อนต่อเพื่อไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน นั่นคือวิสัยทัศน์ของเรา เพราะฉะนั้นทำอะไรก็ตามต้องคำนึงถึงวิสัยทัศน์ ว่าเราต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้า ไปทางไหนในอนาคตและประเทศเราจะเป็นประเทศที่มีรายได้ที่สูงขึ้นหรือไม่เป็นรายได้เพิ่มขึ้นจากรายได้ปานกลางเป็นระดับสูงได้หรือไม่นั่นคือความมุ่งหมายและวิสัยทัศน์ของเราควรจะเป็นอย่างนั้น ประเทศชาติมั่นคงประชาชนมั่งคั่งและอยู่กันอย่างพอเพียงและยั่งยืนในอนาคต