“ปูติน”พบ “สี จิ้นผิง” หารืออุปสรรคยุติสงครามยูเครน ให้คำมั่นรัสเซียจริงจัง แผนสันติภาพของจีน

"ปูติน"รับรองกับ"สีจิ้นผิง" รัสเซียกำลังศึกษาแผนสันติภาพ 12 ข้อของจีนอย่างละเอียดอยู่ แต่ก็ยอมรับว่ามีหลายอย่างเป็นอุปสรรค ด้านนักวิเคราะห์ฮ่องกงชี้ ความสัมพันธ์จีน-รัสเซีย สามารถสร้างความสะเทือนไปถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เปิดทำเนียบเครมลิน ต้อนรับการมาเยือนของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งจีน ในการพบกันครั้งนี้ เป็นการเจรจากันแบบไม่เป็นทางการ โดยทางปูตินได้กล่าวกับสีว่า รัสเซียได้ศึกษาข้อเสนอของจีน สำหรับการแก้ไขวิกฤตเฉียบพลันในยูเครนอย่างรอบคอบ แน่นอนว่า ทั้งจีนและรัสเซีย จะมีโอกาสหารือเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ โดยรัสเซียทราบดีว่า จีนปฏิบัติตามหลักความยุติธรรม และเคารพต่อบทบัญญัติพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ

 

อย่างไรก็ดี ปูตินได้ชี้ว่า มีปัจจัยอยู่หลายประการ ที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาอย่างสันติในยูเครน ปัจจัยเหล่านี้ มีทั้งเรื่องที่ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกยืนกรานว่า กองทัพรัสเซียจะต้องพ่ายแพ้ในการรบก่อน, การต่อต้านการหยุดยิงในทุกรูปแบบ, รวมถึงการที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ออกเป็นกฎหมายออกมาว่า ห้ามมีการเจรจา หากปูตินยังเป็นผู้นำรัสเซีย

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ในการเยือนรัสเซียเป็นเวลา 3 วันของสี จิ้นผิง นอกเหนือจากเรื่องหนทางสร้างสันติกับยูเครนแล้ว ทั้ง 2 ประเทศยังจะมีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และประเด็นอื่น ๆ โดยเฉพาะสถานะของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เมื่อต้องเผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก ที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายจับตากันอยู่

ด้านนายแองเจโล จูเลียโน นักวิเคราะห์การเมืองและการเงินในฮ่องกง ได้แสดงความเห็นกับสำนักข่าวสปุกนิกของรัสเซียว่า รัสเซียนั้น มีทรัพยากรธรรมชาติที่จีนขาดแคลน ส่วนจีนก็มีฐานอุตสาหกรรมและการผลิต ที่มีขนาดใหญ่มาก รวมถึงมีความแข็งแกร่งทางการเงินด้วย ที่สำคัญคือ จีนสามารถช่วยให้รัสเซียเลี่ยงการคว่ำบาตร ที่ประเทศตะวันตกกำหนดขึ้น หลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารในยูเครน และยิ่งไปกว่านั้นคือ ทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งต่างก็เป็นพันธมิตรกันโดยพฤตินัยอยู่แล้ว ก็กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการเผชิญหน้าที่อาจเป็นไปได้ จากกลุ่มประเทศตะวันตกในวงกว้าง เนื่องจากเหล่าผู้นำทางตะวันตกต่างมองว่า จีนคือความท้าทายเชิงระบบ

จูเลียโนได้ชี้ลงไปว่า วาระในการประชุมของทั้ง 2 น่าจะยังรวมไปถึงการสร้างกลไกการโอนเงินระหว่างประเทศแบบใหม่ที่จะเป็นอิสระจากระบบสวิฟท์ (SWIFT) ของตะวันตก ซึ่งในที่สุดแล้ว ก็อาจมีสกุลเงินใหม่ขึ้นมา และทำการควบคุมโดยธนาคารเพื่อการพัฒนาบริกซ์ (BRICS) โดยจะอิงจากสกุลเงินของประเทศสมาชิก และการสนับสนุนจากทองคำสำรอง ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ก็อาจจะเป็นการประกาศถึงจุดจบของความเป็นใหญ่ทางการค้าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมไปถึงความเป็นมหาอำนาจในลัทธิจักรวรรดินิยมของสหรัฐได้อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พิชัย" โชว์วิชั่นเวที WEF ดาวอส ประกาศศักยภาพไทย พร้อมเปลี่ยนสู่ยุคศก.ดิจิทัล โลก AI
งานเข้า! "ตำรวจไซเบอร์" ชี้ล่าเหรียญ "Jagat" ฟันผิดกฎหมาย พบ 3 บัญชีโอนเงินผู้เล่นจริง จ่อเรียกสอบ
ฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานยังคลุมทั่ว กทม. พื้นที่สีแดง 14 เขต
บึ้มสนั่นกลางดึก ชาร์จรถ 3 ล้อไฟฟ้า เกิดไฟฟ้าลัดวงจรลามไหม้ร้านของชำ หวิดวอดทั้งหลัง
กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อย เตือนภาคใต้มีฝนตกบางแห่ง
"กรมโยธาฯ" จับมือ "คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล" ลงนาม MOU ช่วยชีวิตผู้ป่วยด้วยการบริจาคโลหิต
“ไทด์” แฉลึก! ยศใหญ่โทรปิดเกม สั่งย้าย “แตงโม” เข้านิติเวช รพ.ตำรวจ
เมียไรเดอร์ เปิดใจเสียงสั่น กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังรู้ข่าว หนุ่มอินเดียซิ่งเก๋งได้ประกันตัว ลั่น ‘คนมีเงินมันยิ่งใหญ่’
นายกฯ เปิดงาน Thailand Reception เชิญชวนสัมผัสเสน่ห์อาหารไทย ชูศักยภาพเศรษฐกิจ
จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น