บช.น. แถลงสรุปเหตุการณ์ ม็อบ 10 สิงหา จับผู้ชุมนุม 6 ราย ด้าน ตร. บาดเจ็บ 6 นาย

กองบัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสรุปภาพรวมเหตุการณ์ชุมนุม 10 สิงหาคมที่ผ่านมา จับผู้ชุมนุม 6 ราย ยึด จยย. 100 คัน ด้าน ตร. บาดเจ็บ 6 นาย

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมแถลงกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมคาร์ม็อบในช่วงบ่ายต่อเนื่องเย็นวันที่ 10 สิงหาคม

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กลุ่มแนวธรรมศาสตร์และการชุมนุม มีการเชิญชวนรวมตัวกันจัดกิจกรรม ในลักษณะมั่วสุมที่มีการเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนัดตั้งแต่เวลา 13.00 น. ที่แยกราชประสงค์ จากนั้นเคลื่อนไปตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแยกอโศก หน้าบริษัทซิโนไทยถนนพระราม 9 ตลอดจนซอยรางน้ำ

สำหรับ ไทม์ไลน์ ของกลุ่มผู้ชุมนุมมีดังนี้

11.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มรวมตัวกันที่แยกราชประสงค์

13.00 น. ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าการรวมตัวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย

14.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวจากแยกราชประสงค์ ไปบริเวณแยกอโศก มุ่งหน้าไปตึกซิโน-ไท โดยระหว่างเดินทางนั้นได้มีการจุดพลุ ประทัดยักษ์พุไฟ ตลอดเวลา

14.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมถึงหน้าตึกชิโนไทย จากนั้นได้มีการทำลายทรัพย์สินของสาธารณะประโยชน์และเอกชน บริเวณหน้าตึกชิโน-ไทย

16.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางออกจากหน้าบริษัทซิโน- ไทย ไปทางถนนพระราม 9 ไปที่หน้าบ้านของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า

16.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางจากถนนพระราม 9 มุ่งหน้าไปแยกดินแดง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมมีเจตนาฝ่าฝืนแนวกั้นของตำรวจ เพื่อมุ่งหน้าไปตามถนนวิภาวดี แต่ตำรวจได้ทำการตรึงกำลังเพื่อกันกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง

16.50 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปลี่ยนเส้นทางจากบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงไปถนนราชปรารภ เข้าซอยรางน้ำ และหยุดที่หน้าบริษัทคิงเพาเวอร์

17.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมกลับมาที่แยกดินแดงอีกครั้ง ระหว่างนั้นได้มีการทุบทำลายตู้ยามตำรวจจราจร บริเวณแยกดินแดง และวางเพลิงเผาตู้ยามจราจร

17.05 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ประกาศยุติการชุมนุม 17.20 น. ผู้ชุมนุมที่ยังอยู่บริเวณแยกดินแดงได้ทำการขว้างปาสิ่งของ และรวมตัวกันเคลื่อนตัวจากแยกดินแดงไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

18.10 น. กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทำการทุบทำลาย ทรัพย์สินทางราชการ บริเวณรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

19.40 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้จุดไฟเผาตู้ยามจราจรตำรวจ สน.พญาไท ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

จากการกระทำดังกล่าว เห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการพยายามฝ่าฝืนแนวกั้นของตำรวจ โดยได้มีการใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขว้างปาด้วยก้อนหิน ก้อนอิฐ เหล็กแหลมตลอดจนใช้พลุไฟประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปองทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่เป็นระยะ การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมได้ก่อให้เกิดความเสียหาย จากพยานหลักฐานที่ปรากฏ จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีเจตนามั่วสุมกันกระทำผิดกฎหมายหลายบท

จากการปฏิบัติหน้าที่สลายการชุมนุมในวันนี้ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรักษาของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ โดย ส.ต.ท.วัชรนนท์ ชาวยอง ผบ.หมู่ (จร.) สน.ห้วยขวาง ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชน ถูกยิงด้วยกระสุนปืนบริเวณต้นขาด้านซ้าย ได้รับบาดเจ็บ มีอาการเดินลำบาก แต่ยังกระดกข้อเท้าได้ และตำรวจอีก 3 นาย บาดเจ็บจากการ ถูกสะเก็ดระเบิดแสวงเครื่อง ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ และรายอื่นๆ ถูกพลุเพลิงได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม ผู้กระทำความผิดทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำความผิดได้ 6 รายและยึดรถจักรยานยนต์ของผู้กระทำความผิดเกือบ 100 คัน และจะได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลถึงตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมดต่อ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โฆษกภูมิใจไทย แจง "เอกราช" สส.ขอนแก่น โดนศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน คดียักยอกเงินสหกรณ์ครู ไม่เกี่ยวข้องพรรคนานแล้ว
เปิดคลิปสุดเดือด "บีเอ็มป้ายแดง" ลูกนักการเมืองดัง ขับปาดชนกระบะ ลุง-ป้า เจ็บสาหัส
ทูตจีนแสดงทัศนะเรื่องภาษีตอบโต้ของสหรัฐ
"อ.ต่อตระกูล" ยกพิพากษาศาลฎีกา ชี้ต้องลงโทษหนัก วิศวกรตึกสตง.
ม่วนคักหลาย! มหาสงกรานต์ไทอำนาจเจริญ “สส.เจ๊รวย” ปลื้ม! ส่วนกลาง-ส่วนท้องถิ่น จับมือเนรมิต “ถนนผ้าขาวม้า” นักท่องเที่ยวนับแสนร่วมสาดน้ำ กระตุ้นเศรษฐกิจคึกคัก
"พาณิชย์" เผยผลไม้ไทยเป็นที่นิยมในตลาดยูเออี กลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่มมีกำลังซื้อสูงชอบ
“กมธ.ป.ป.ช.” เรียก ผู้ว่าการ สตง.ชี้แจงปมสร้างตึก 30 เม.ย.นี้
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ชาวจีนที่สิบสองปันนาปล่อยโคมลอยฉลองปีใหม่
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ต้าหลี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางระยะยาว
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) “ดวงอาทิตย์เทียม” ของจีนใกล้ผลิตพลังงานสะอาดไร้ขีดจำกัด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น