ทำความรู้จัก "มะเร็ง" หลังโพรงจมูก ภัยเงียบซ่อนเร้นที่ต้องระวัง เปิด 5 สัญญาณเตือนภัยที่หลายคนไม่เคยรู้ โดยเฉพาะเพศชายเสี่ยงหนัก 2.5 เท่า
ข่าวที่น่าสนใจ
“มะเร็ง” หลังโพรงจมูก คืออะไร
- มีอาการคล้ายคลึงกับโรคที่พบได้ทั่วไป เช่น หวัด ภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบ
- หากตรวจพบเจอในระยะเริ่มแรก ช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาหาย อย่าชะล่าใจปล่อยไว้จนลุกลาม
มะ เร็งหลังโพรงจมูก เป็นหนึ่งในมะ เร็งบริเวณศีรษะและคอที่พบบ่อยในประเทศไทย
- พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ประมาณ 2.5 เท่า
- ผู้ป่วยรายใหม่ เฉลี่ยวันละ 4 คน
- เสียชีวิต เฉลี่ยวันละ 2 คน (สถิติ Cancer in Thailand Vol.X,2016-2018 สถาบันมะ เร็งแห่งชาติ และและสถิติสาธารณสุข ปี 2564)
สาเหตุในการเกิดโรค มะ เร็งหลังโพรงจมูก มีหลายปัจจัย
- การรับประทานอาหารประเภทหมักดอง
- อาหารที่มีสารไนโตรซามีนเป็นประจำ
- การสูบบุหรี่
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- การติดเชื้อเรื้อรังของไวรัส Epstein-Barr Virus (EBV)
- ความเสี่ยงทางพันธุกรรม เช่น เชื้อชาติจีน และประชากรในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น
มะ เร็งโพรงจมูกมีอาการอย่างไร เช่น
- คัดจมูก น้ำมูกไหลเรื้อรัง (รักษาแบบโรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบแล้วไม่ดีขึ้น) มีน้ำมูกหรือเสมหะปนเลือด
- ปวดศีรษะ ตามองเห็นภาพซ้อน
- มีเลือดกำเดาไหล หูอื้อ
- ชาบริเวณใบหน้า
- ก้อนคอ
การวินิจฉัยโรคมะ เร็งหลังโพรงจมูก
- แพทย์จะใช้วิธีการส่องกล้องภายในจมูก เพื่อดูหลังโพรงจมูกว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่
- หากพบเนื้องอกที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น เนื้อนูน ผิวขรุขระมีเลือดซึม แพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อส่วนนั้นออกมาตรวจ และต้องตรวจเพิ่มเติมว่าโรคมีการกระจายไปยังส่วนอื่น ๆ หรือไม่
วิธีรักษาโรค มี 3 วิธี ได้แก่
1. การฉายรังสีรักษา
2. การให้ยาเคมีบำบัดเป็นการรักษาหลัก
3. การผ่าตัด
- อาจมีบทบาทในรายที่เป็นซ้ำ แต่เนื่องจากอาการแสดงของโรคคล้ายกับโรคที่พบได้ทั่วไป เช่น ไข้หวัด ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ
- ทำให้ผู้ป่วยคิดว่า ตนเป็นโรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ กว่าจะทราบว่าเป็นม ะเร็งหลังโพรงจมูกก็เมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลามแล้ว
มะ เร็งหลังโพรงจมูกเป็นมะ เร็งที่ตอบสนองต่อการรักษาได้ดีและมีโอกาสหายได้เมื่อตรวจพบและได้รับการรักษาในระยะเริ่มแรก
วิธีป้องกันการเกิดมะ เร็งหลังโพรงจมูกเบื้องต้น
- ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- รับประทานผักและผลไม้สดเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยง ได้แก่
- การงดสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงรับควันบุหรี่
- หมั่นสังเกตอาการตนเองอยู่เสมอ
- เมื่อพบความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์
โรคมะ เร็ง รู้เร็ว รักษาทัน ป้องกันได้
ข้อมูล : กรมการแพทย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง