พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. นำตัว นายอนิวัติ ประทุมกลิ่น อายุ 23 ปี หรือ นารา เครปกะเทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีฉ้อโกงขายกล่องสุ่ม มายื่นขออำนาจศาลฝากขังต่อศาลอาญารัชดา ครั้งแรก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือ โดยหลอกลวง,นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ ซึ่งผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายกับพวก ได้เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายอนิวัต หรือ “นารา เครปกะเทย” กรณีผู้ต้องหาได้โฆษณาผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ชักชวนให้ผู้เสียหายและประชาชนทั่วไปร่วมลงทุนซื้อซื้อกล่องสุ่มทองนารา โดยเริ่มต้นที่ราคากล่องละ 1 หมื่นบาท , 5 หมื่นบาท, 1 แสนบาท และ 2.5 แสนบาท
อ้างว่าจะให้ผลตอบแทนแก่ผู้ที่ลงทุน หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้ยุติการขายกล่องสุ่ม ต่อมาได้ชักชวนผู้เสียหายให้ลงทุน โดยใช้คำว่าบิดเบือนแทน เช่นเปิดบิล 5 หมื่นบาทจะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 7.5 หมื่นบาท ภายใน 1 เดือน , เปิดบิล จำนวน 4 พันบาท จะได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสด จำนวน 8 พันบาท ภายใน 34 วัน แต่ปรากฏว่า เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้เสียหาย ไม่ได้รับทองคำและเงินตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวน 5 ราย มูลค่าทั้งสิ้น 885,000 แสนบาท
จากการสอนสวน ร.ต.ทรงพล เบี้ยวทุ่งน้อย ตำแหน่งนิติกร ประจำส่วนป้องปรามการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ในประเด็นเกี่ยวกับการลงทุนดังกล่าวมีใจความว่าการลงทุนดังกล่าวมีการเสนอจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน ซึ่งถือว่าเป็นการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ตาม พ.ร.บ.ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงิน พ.ศ.2523 ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ในช่วงเวลาเกิดเหตุ อัตราร้อยละ 3.80 ต่อปี
การกระทำของผู้ต้องหาจึงเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐาน กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และปรากฏจาการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นารา เครปกะเทย หรือ นายอนิวัต ประทุมถิ่น ผู้ต้องหาได้ชักชวนผู้เสียหายในคดีนี้ รวมทั้งบุคคลทั่วไปผ่านสื่อโซเชียล เช่น เฟซบุ๊ก และ tiktok.ของผู้ต้องหา ให้ร่วมลงทุนซื้อกล่องสุ่มทองนาราเมื่อผู้เสียหายและประชาชนทั่วไปหลงเชื่อ ได้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องหา หลังจากนั้นได้ประกาศยุติการขายกล่องสุ่ม เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย.ซึ่งความจริงแล้วผู้ต้องหาไม่มีเจตนาจะลงทุนขายกล่องสุ่ม หรือวางบิล เพื่อค้าขายให้ได้กำไรมาแบ่งให้ผู้เสียหายมาตั้งแต่ต้น แต่เป็นการหลอกลวง ชักจูงให้คนมาลงทุน เพื่อนำเงินของคนใหม่มาจ่ายคนเก่า