ในบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ที่เตรียมพร้อมรับการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดูเหมือนจะคึกคักและมีความพร้อมในการสู้ศึกเลือกตั้งไม่น้อยไปกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ล่าสุดวานนี้ ( 22 มี.ค.2566) มีการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งชุดที่มี สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคเป็นประธาน โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปตัวผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 เขต และ ลงตัวเรื่องการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คนเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนลุงป้อมแล้ว และเตรียมพร้อมเดินทางไปรับสมัครส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ในวันที่ 4-7 เม.ย.เดืนหน้าแล้ว
โดยเบื้องต้นบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 ของพรรคเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค เบอร์ 2 สันติ ในฐานะเลขาธิการพรรค เบอร์ 3 มือกฎหมายประจำพรรคอย่าง ไพบูลย์ นิติตะวัน อันดับ 4 “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรค อันดับ 5 เป็นของ “เสี่ยแบงค์ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และอดีต ส.ส.นครราชสีมา ที่มาตรงนี้ได้เพราะใช้โควตาพ่อของวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคก้าวกระโดดแซงคนอื่น ขณะที่คนมาใหม่อย่าง “เจ๊มิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อยู่ในลำดับที่ 6 ส่วนขวัญใจลุงป้อมคนสนิทพี่ใหญ่ 3 ป.บูรพาพยัคฆ์อย่าง “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค อดีตรมช.แรงงาน อยู่ในลำดับที่ 7 สำหรับอันดับที่ 8 และ 9 ยังว่างไว้ ด้านสองกุมารอดีตแกนนำพลังประชารัฐยุคก่อตั้งพรรคอย่าง “เสี่ยอุต” อุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลังและรมว.อุตสาหกรรม อยู่ในลำดับที่ 10 โดยมี “เสี่ยจั้ม” สกลธี ภัททิยกุล อดีตผู้สมัครผู้ว่ากทม ที่เป็นแม่ทัพเมืองหลวงในการเลือกตั้งคราวนี้อยู่ในลำดับที่ 11 ด้าน “เฮียสน” สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตเลขาธิการพลังประชารัฐ อดีตรมว.พาณิชย์และรมว.พลังงาน อยู่ในลำดับที่ 12 โดยมี อภิชัย เตชะอุบล เข้ามาในลำดับที่ 13 สันติ แม่บ้านพรรคมั่นใจมาก แม้พลังประชารัฐเที่ยวนี้จะเสียบิ๊กตู่ไปให้รวมไทยสร้างชาติ แต่ก็มั่นใจว่าพรรคยังได้รับความนิยมอยู่ และเชื่อว่าส.ส.เขตจะได้ตามเป้า 150 คน ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ 20 คนขึ้นไป ” ประมาณลำดับที่ 20 เพราะครั้งที่แล้ว พปชร.ได้คะแนนรวม 8 ล้านเสียง แต่ครั้งนี้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนเก่าไปอยู่พรรคอื่นแล้ว เราจึงประมาณว่าครั้งนี้จะได้สัก 6 ล้านเสียงโดยประมาณ ….มั่นใจจากเสียงสะท้อนที่ลงพื้นที่ รวมถึงการทำโพลที่เชื่อถือได้ ไม่ได้รับจ้าง ซึ่งระบุว่าจะได้ตัวเลข 6 ล้านเสียง แต่ยอมรับว่าบางครั้งโพลก็มีปัญหา อย่างไรก็ตาม หากเรียงคะแนนแต่ละพรรค การคำนวณว่า พปชร.จะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 20 คนยังน้อยไป” สันติยืนกราน
พลังประชารัฐนอกเหนือจากเรื่องจัดลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อแล้ว ยังมีกรณีการไปดึง “บิ๊กแอ๊ด” พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา อดีตรมว.กลาโหมยุคทักษิณมาช่วยงานด้วยโดยจะมาช่วยดูแลอีสานใต้ บิ๊กแอ๊ดอดีตนักเรียนจปร. รุ่น 10 เคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยข่าวกรองทางทหาร (ผบ.ขกท.) ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกเพชรบุรี หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรองผบ.ทสส. แต่ที่ทำให้โด่งดังคือการเป็น “สนามไชย 1” ยุคทักษิณ แล้วเกิดกรณีจ้างพรรคเล็กลงเลือก สมัยเป็นรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยร่วมกับ “เฮียเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ให้เงินสนับสนุนแก่พรรคเล็ก อย่าง พรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต ลงแข่งขันกับผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคไทยรักไทยเพื่อหลีกเลี่ยงการที่จะต้องมีคะแนนเสียงถึงร้อยละ 20 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตนั้น เที่ยวนี้ก็ต้องดูว่าเสื้อเฒ่าอย่างบิ๊กแอ๊ดที่เป็น “เจ้านาย” เป็นคนแต่งตั้งลุงป้อมเป็นผบ.ทบ.จะช่วยลูกน้องได้ขนาดไหน
พลังประชารัฐยังมีเรื่องใหญ่ให้พูดถึงอีกกรณี คือดีลตั้งรัฐบาลที่วานนี้หลังพบนายกฯ “เสี่ยหนู” อนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจัดแจงพาศักดิ์สยาม ชาดา ไปรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (อีกแล้ว) ทั้งๆที่เพิ่งไปมาเมื่อ 15 มี.ค. 2566 ที่ผ่าานมา รอบนี้ฝ่ายลุงป้อมมีแกนนำพลังประชารัฐมาร่วมโต๊ะด้วย อาทิ สันติ ชัยวุฒิ วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค รงค์ บุญสวยขวัญ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ไชยา สะสมทรัพย์ ฯลฯ โดยใช้เวลารับประทานอาหารและพูดคุยกันประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีรายงานข่าวว่า ในวงกินข้าววานนี้มีการหารือการจัดตั้งรัฐบาล โดยตั้งสูตร “203” คน มีการวิเคราะห์ว่าพลังประชารัฐจะได้ส.ส. คน ภูมิใจไทย 70 คน รวมกันเป็น 140 คน บวกกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะได้เกิน 203 คนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และจะมีเสียงของ ส.ว.ส่วนหนึ่งจาก 250 คนมาสับสนุนด้วย นอกจากนี้ในวงสนทนายังมีการประเมินเสียงของพรรคเพื่อไทย จะได้ในครั้งนี้ไม่เกิน 170 คนเท่านั้น ไม่มีแลนด์สไลด์แต่กลายเเป็นแลนด์ถล่มหน้าจมดิน
เห็นข้อมูลแบบนี้ออกมาก็รู้เลย ขั้วที่ปล่อยข่าวนี้ก็คงมีแต่ทีมงานลุงป้อมเพราะเกลียดรวมไทยสร้างชาติเขม่นบิ๊กตู่สุดๆ ตั้งสูตรฟอร์มรัฐบาล 203 คน + ส.ว. มีแค่ 4 พรรค คือ “พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา ประชาธิปัตย์” แถมล็อคตัวเลข 2 พรรคแกนนำภูมิใจไทยกับพลังประชารัฐไว้ที่พรรคละ 70 คน รวมกัน 2 พรรค 140 คน ที่เหลืออีก 63 คน เป็นของพรรคสีฟ้ากับพรรคว๊าวของเสี่ยท็อป ฝันไปหรือปล่าวหรือเมากัญชา ตั้งต้นฟอร์มรัฐบาลผีพุ่งใต้แบบนี้ใครอ่านก็ตลกดี เพราะมันไม่มีทางที่พรรคลุงป้อมจะถึง 70 คน ที่สันติบอกว่าปาร์ตี้ลิสต์จะถึง 20 คน ก็คงดมกาวมาสัมภาษณ์ พรรคสีฟ้ากับพรรคลูกท็อปได้รวมกัน 63 ก็ตลก บอกแบบนี้แสดงพรรคอู๊ดด้าไม่ถึง 50 พรรคลูกบรรหารแค่เลขตัวเดียว ดูถูกกันมากด้อยค่ากันเกินไป ตั้งรัฐบาลเมากัญชาซดน้ำใบกระท่อมแบบนี้ใครได้ยินก็ขำกลิ้งไม่มีใคเขาเชื่อข้อมูลเปรตๆ แบบนี้หรอก สูตร 203 คน 4 พรรค คนให้ข่าวไม่บ้าก็เมา เอาพรรคบิ๊กตู่หยิบรวมไทยสร้างชาติไปไว้ไหน ดูถูกคนไทยฉิบหายสบประมาทบิ๊กตู่เหลือเกิน ไปดูผลโพลล์ทั้งหมดสิพรรคลุงป้อมรูดมหาราช ไม่มีคะแนนเลย ที่พอสูสีกับเพื่อไทยกับก้าวไกลก็มีแต่พรรคบิ๊กตู่ พวกไอ้ห้อยไอ้โหนข้างกายป้อมระวังจะพัง เลียนายจนลืมดูความจริง ระวังเลือกตั้งจบศพไม่สวย ของจริงต้องไปฟังที่โทนี่พูดนู้น ลุงป้อมนายกฯขึ้นๆลงๆ ต้องแบกต้องหามขึ้นเวที เดินก็จะไม่รอด สังขารไม่ให้หมดเวลาเกาะนายกินแล้ว อีก 2 เดือนก็รู้หมู่หรือจ่า สูตร 203 คน ตั้งรัฐบาลหามลุงป้อมเข็นพล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ แค่น้ำลายหรือของจริง
///////////////