สายเค็ม "ติดเค็ม" ติดเกลือ ระวังให้ดี เตือนภัย 5 อันตรายไม่แพ้โรคไต เสี่ยงดับไม่รู้ตัว พร้อมเปิด 5 เทคนิคลดเค็มยังไง ให้ไม่เสี่ยงโรค เช็ค
ข่าวที่น่าสนใจ
เช็คลิสต์ 6 โรคร้ายที่สายเค็ม “ติดเค็ม” ต้องระวัง
1. เกิดการคั่งของเกลือ และน้ำในอวัยวะต่างๆ
สายเค็มทั้งหลาย เคยสังเกตไหมว่า ทุกครั้งที่เรากินเค็ม “ติดเค็ม” มาก ๆ จะเริ่มรู้สึกกระหายน้ำประจำ รู้ไหมว่า อาการนี้เกิดจากคั่งของเกลือ
- ทำให้น้ำในหลอดเลือด (intravascular fluid, IVF) เพิ่มขึ้น ถ้าเพิ่มขึ้นมากจะทำให้เกิดการคั่งของเกลือและน้ำในอวัยวะต่าง ๆ
- เป็นอันตรายต่อหัวใจ ทำให้มีน้ำคั่งในปอดและเกิดการบวมน้ำได้
2. หัวใจวาย
หากร่างกายไม่สามารถกำจัดเกลือและน้ำส่วนเกินในร่างกายได้ เกิด
- ภาวะคั่งของเกลือและน้ำในอวัยวะต่าง ๆ เช่น แขนขา หัวใจ และปอด
- ทำให้แขนขาบวม เหนื่อยง่าย
- แน่นหน้าอก นอนราบไม่ได้
- ในผู้ป่วยโรคหัวใจ น้ำที่คั่งในร่างกายจะทำให้เกิดภาวะหัวใจวายมากขึ้น
3. ความดันโลหิตสูง
ปัจจัยที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุของความดันโลหิตสูงนั้น มีหลายปัจจัย ได้แก่
- กรรมพันธุ์
- ความอ้วน
- ระดับไขมันในเส้นเลือด
- ความเครียดทางจิตใจ
- รวมทั้งพฤติกรรมและวิถีชีวิตที่เคยชิน เช่น
- การรับประทานอาหารรสเค็ม โดยในภาวะปกติร่างกายมีกลไกการปรับความดันโลหิตให้มีค่าอยู่ในระดับปกติและคงที่อยู่เสมอ
- แต่หากร่างกายอยู่ในภาวะไม่ปกติเมื่อไร กระบวนการปรับความดันโลหิตอาจทำงานได้ไม่เต็มที่ และทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้
4. ส่งผลต่อไต
- การที่มีการคั่งของน้ำและระดับความดันโลหิตสูง ทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพื่อเพิ่มการกรองโซเดียมและน้ำส่วนเกินของร่างกาย
- เกิดความดันในหน่วยไตสูงขึ้น และการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะมากขึ้น
- นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารบางอย่าง ซึ่งทำให้ไตเสื่อมเร็วขึ้นอีกด้วย
5. ส่งผลต่ออวัยวะอื่น ๆ ทั่วร่างกาย
- การได้โซเดียมมากเกิน เป็นสาเหตุทำให้ระดับความดันโลหิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง คนอ้วน และผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ภาวะความดันโลหิตสูงทำให้เกิดผลเสียต่อหลอดเลือดในอวัยวะต่าง ๆ เช่น
- หัวใจและสมอง เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบตัน
- โรคอัมพฤกษ์ อัมพาตตามมา
- ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงอยู่แล้วหากรับประทานโซเดียมในปริมาณที่เหมาะสม ควบคู่กับยาลดความดันโลหิต สามารถลดความดันโลหิตได้ดีกว่าผู้ที่รับประทานยาลดความดันโลหิต แต่ได้รับโซเดียมเกินกำหนด
5 เทคนิค ลดกินเค็ม “ติดเต็ม” ลดเสี่ยงโรค
1. ลดปริมาณในการปรุงรสชาติอาหารด้วยเครื่องปรุงที่มีปริมาณโซเดียมสูง
- เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซอสมะเขือเทศ น้ำซุป ซอสปรุงรส น้ำจิ้มต่าง ๆ เป็นต้น
2. ใช้เครื่องเทศในการปรุงรสชาติของอาหารให้มากขึ้น
- เพื่อทดแทนการใช้เครื่องปรุงที่มีโซเดียมสูง
3. เลือกบริโภคเครื่องปรุงที่มีปริมาณโซเดียมต่ำกว่าปกติ
4. ลดการซดน้ำซุปต่าง ๆ น้ำจากผัดผัก น้ำแกงต่าง ๆ เป็นต้น
5. หลีกเลี่ยงหรือลดการบริโภคอาหารที่ปรุงด้วยรสเค็มจัด
- เช่น ไข่เค็ม ปลาเค็ม ปลาแดดเดียว ปลาส้มแหนม ไส้กรอก กุนเชียง หมูหยอง อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป เป็นต้น
6. เช็คปริมาณโซเดียมบนฉลากโภชนาการก่อนทุกครั้ง
- โดยเราไม่ควรบริโภคเกลือไม่เกิน 5 กรัมต่อวัน (โซเดียม 2,400 มิลลิกรัม)
ข้อมูล : กรมโรคไม่ติดต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง