น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวถึงกรณี กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยที่จ.พระนครศรีอยุธยาตอนหนึ่งโจมตีว่าผู้นำไร้สมรรถภาพ ทำให้การท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตกต่ำ รายได้หดหายว่า ประชาชนทั่วไปฟังแล้วอาจต้องยกตำแหน่งยอดนักยกเมฆให้นายเศรษฐา เพราะเป็นการพูดโดยไม่มีหลักฐาน สวนทางกับข้อเท็จจริงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เร่งขับเคลื่อนและมุ่งพัฒนาทุกจังหวัดอย่างเท่าเทียม และทั่วถึงกระจายรายได้ท่องเที่ยวสู่ชุมชน โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ถูกคัดเลือกจากรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ปลายปี 2564 ได้มีการจัดงานสำคัญอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทั้งงานใหญ่ “ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก” การจัดงาน “เคานต์ดาวน์” ปีใหม่ จัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปี 2565 รวมถึง เริ่มมีการจองโรงแรมเพื่อจัดประชุมสัมมนา และอีกส่วนมีการเดินทางเข้ามาไหว้พระเสริมสิริมงคล เป็นต้น ส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวจ.พระนครศรีอยุุธยาเพียงช่วงเดือน 3 เดือนแรกของปี 2565 คือตั้งแต่เดือน มกราคม -มีนาคม มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2,354 ล้านบาทแล้ว เติบโตเป็น 2 เท่า
"ทิพานัน" ยกตัวเลขรายได้ท่องเที่ยวไทย สวนกลับ "เศรษฐา" อย่าเป็นยอดนักยกเมฆ
ข่าวที่น่าสนใจ
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่สำคัญรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจำเดือนกรกฎาคม 2565 ระบุว่า พบดัชนีผลผลิตภาคบริการ ขยายตัว ร้อยละ 2,530.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี2564 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัวร้อยละ 903.3 เนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการเดินทางระหว่างประเทศยกเลิกระบบ Thailand Pass สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดประกอบกับภาครัฐและภาคเอกชนจัดประชุมสัมมนาส่งผลให้ภาคบริการขยายตัวสะท้อนจากจำนวนนักท่องเที่ยวและภาษีมูลค่าเพิ่มหมวดโรงแรมภัตตาคารเพิ่มขึ้นร้อยละ 3,038.5 และ 76.5
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์ ยังได้พัฒนาโครงข่ายคมนาคม เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน ในการเดินทาง การขนส่งสินค้าและบริการ การท่องเที่ยวเพื่อกระจายความเจริญ กระตุ้นเศรษฐกิจสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และพัฒนาประเทศ โดยมีโครงการที่แล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว 5 โครงการ รวมระยะทาง 35.241 กิโลเมตร ได้แก่ 1) โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 329 (เดิม) สายภาชี – บางปะหัน 2) โครงการก่อสร้างปรับปรุงทางแยกต่างระดับบางปะอิน 3) โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 33 อ.บางปะหัน – อ.นครหลวง – อ.ภาชี – หินกอง (329 เดิม) ตอน บ.ภาชี – บ.หินกอง ตอน 1 4) โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 33 อ.บางปะหัน – อ.นครหลวง – อ.ภาชี – หินกอง (329 เดิม) ตอน บ.ภาชี – บ.หินกอง ตอน 2 และ 5) โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3056 สาย ต.บ้านหว้า – อ.ภาชี ตอน 2 และยังมีอีก 9โครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการและยังมีแผนงาน 12 โครงการ ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยาและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
“พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเห็นผลงานและสมรรถภาพของพล.อ.ประยุทธ์ ภายใต้ข้อจำกัด และวิกฤติต่างๆ ที่สามารถพลิกฟื้นวิกฤติเป็นโอกาสให้กับประชาชน และประเทศชาติได้อย่างรวดเร็ว ทั้งผลงานทำแล้ว ทำอยู่และทำต่อเพื่อชาวจ.พระนครศรีอยุญาและคนไทยทั้งประเทศ”รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง