กรมประมง ประกาศ “ปิดอ่าว 2566” อันดามัน 3 เดือน ให้ปลาวางไข่

ปิดอ่าว 2566, อันดามัน, อ่าวอันดามัน, ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ภูเก็ต, ทรัพยากรสัตว์น้ำ, สัตว์น้ำ, ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อ, ทะเลอันดามัน, ทรัพยากรสัตว์น้ำ,​ กรมประมง, เรือประมง

กรมประมง ประกาศ "ปิดอ่าว 2566" อันดามัน 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. เพื่อให้ปลาทะเลได้วางไข่

กรมประมง ประกาศ “ปิดอ่าว 2566” อันดามัน 3 เดือน ในเขตพื้นที่จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน ติดตามต่อได้ที่นี่ TOP News

ข่าวที่น่าสนใจ

“ปิดอ่าว 2566” จากผลสำรวจในปี 2565 พบสัตว์น้ำวัยอ่อนที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิดในช่วงมาตรการฯ มีความชุกชุมมากกว่าช่วงก่อนมาตรการฯ ถึง 2 เท่าตัว สะท้อนความเหมาะสมทั้งช่วงเวลาและพื้นที่ที่มีการบังคับใช้มาตรการฯ จึงคงพื้นที่ ห้วงเวลา และเครื่องมือตามมาตรการเดิมไว้

นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า จากนโยบาย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องถิ่นและใช้ประโยชน์ทรัพยากรสัตว์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด นำไปสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่พี่น้องชาวประมง

 

ปิดอ่าว 2566, อันดามัน, อ่าวอันดามัน, ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ภูเก็ต, ทรัพยากรสัตว์น้ำ, สัตว์น้ำ, ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อ, ทะเลอันดามัน, ทรัพยากรสัตว์น้ำ,​ กรมประมง, เรือประมง

 

ตามแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความยั่งยืน กรมประมงจึงได้มีการประกาศ “ปิดอ่าว 2566” ใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2528 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนของทุกปี ในบางส่วนของพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่

  • จ.ภูเก็ต
  • พังงา
  • กระบี่
  • ตรัง

ควบคู่ไปกับการรวบรวมและวิเคราะห์ผลการศึกษาทางวิชาการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุงมาตรการให้สอดคล้องกับสภาวะของทรัพยากรสัตว์น้ำ สิ่งแวดล้อม และสังคมในปัจจุบัน

ผลการศึกษาทางวิชาการในช่วงการประกาศใช้มาตรการฯ ปี 2565 พบว่าสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจหลายชนิด มีความสมบูรณ์เพศสูง (ร้อยละ 90 – 100) โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายน พบสัตว์น้ำวัยอ่อนมีความหนาแน่นสูงสุดถึง 1,197 ตัว/1,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าช่วงก่อนประกาศใช้มาตรการฯ ที่มีความหนาแน่นเพียง 470 ตัว/1,000 ลบ.ม.

 

ปิดอ่าว 2566, อันดามัน, อ่าวอันดามัน, ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ภูเก็ต, ทรัพยากรสัตว์น้ำ, สัตว์น้ำ, ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อ, ทะเลอันดามัน, ทรัพยากรสัตว์น้ำ,​ กรมประมง, เรือประมง

 

อีกทั้ง ข้อมูลขนาดสัตว์น้ำที่จับได้จากเครื่องมือประมงที่อนุญาตให้ใช้ในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ เช่น อวนกุ้งและอวนปู พบว่ามีขนาดเหมาะสม โดยมีขนาดความยาวมากกว่าความยาวแรกสืบพันธุ์ จึงเป็นการยืนยันได้ว่ามาตรการที่ใช้มีความสอดคล้องกับผลการศึกษาทางวิชาการทั้งในด้านพื้นที่และช่วงเวลาในมาตรการฯ ว่ามีความถูกต้อง และเหมาะสมกับฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และยังเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำ เพื่อคงความสมดุลทางธรรมชาติอีกด้วย

ดังนั้น กรมประมงจึงประกาศ “ปิดอ่าว 2566” ใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อน ฝั่งทะเลอันดามันประจำปี 2566 ในเขตพื้นที่บางส่วนของ

  • จ.ภูเก็ต
  • พังงา
  • กระบี่
  • ตรัง

ตั้งแต่ปลายแหลมพันวา จ.ภูเก็ต – ปลายแหลมหยงสตาร์ จ.ตรัง ครอบคลุมพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2566 ตามประกาศฯ และกำหนดชนิดของเครื่องมือประมง วิธีการทำการประมง และเงื่อนไขที่สามารถทำการประมงได้ในช่วงประกาศใช้มาตรการฯ ดังนี้

 

ปิดอ่าว 2566, อันดามัน, อ่าวอันดามัน, ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ภูเก็ต, ทรัพยากรสัตว์น้ำ, สัตว์น้ำ, ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อ, ทะเลอันดามัน, ทรัพยากรสัตว์น้ำ,​ กรมประมง, เรือประมง

 

  • เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่ ที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 14 เมตร และต้องทำการประมงในเวลากลางคืนนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  • เครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตัก ทำการประมงเฉพาะในเวลากลางวัน และต้องทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  • เครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีขนาดช่องตาอวน ตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป มีความยาวอวน ไม่เกิน 2,500 เมตรต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และเครื่องมืออวนติดตาปลาที่มีช่องตาอวนตั้งแต่ 4.7 เซนติเมตรขึ้นไป มีความยาวอวนเกิน 2,500 เมตร ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  • เครื่องมืออวนปู อวนลอยกุ้ง อวนหมึก
  • เครื่องมืออวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกหมึก ที่ใช้ประกอบกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  • ลอบปูที่มีขนาดตาอวนโดยรอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ใช้ทำการประมงไม่เกิน 300 ลูก ต่อเรือประมง 1 ลำ ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง และลอบปูที่มีขนาดช่องตาท้องลอบตั้งแต่ 2.5 นิ้วขึ้นไป ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง
  • ลอบหมึกทุกชนิด

 

 

  • ซั้งทุกชนิดที่ใช้ประกอบทำการประมงพื้นบ้านในเขตทะเลชายฝั่ง
  • คราดหอยที่ใช้ประกอบเรือกลที่มีขนาดความยาวไม่เกิน 18 เมตร มีความกว้างของปากคราดไม่เกิน 3.5 เมตร ช่องซี่คราดไม่น้อยกว่า 1.2 เซนติเมตร และจำนวนของเครื่องมือคราดหอยต้องไม่เกิน 3 อัน (หน่วย) ต่อเรือกล 1 ลำ ที่ทำการประมงนอกเขตทะเลชายฝั่ง โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง รูปแบบ และพื้นที่ทำการประมงของเครื่องมือคราดหอยที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำ พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
  • อวนรุนเคย โดยต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ออกตามความในมาตรา 68 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558
  • จั่น ยอ แร้ว สวิง แห เบ็ด สับปะนก ขอ ลอบ ฉมวก แผงยกปูจักจั่น
  • เครื่องมืออื่นใดที่ไม่ใช้ประกอบเรือกลขณะทำการประมง
  • การใช้เรือประมงที่มีขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส ที่ใช้เครื่องยนต์มีกำลังแรงม้าไม่ถึง 280 แรงม้า ประกอบเครื่องมือทำการประมงอื่นใดที่ไม่เป็นเครื่องมือประมงพาณิชย์ ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดให้การใช้เรือประมงทุกขนาดประกอบเครื่องมือทำการประมงบางประเภทเป็นประมงพาณิชย์ พ.ศ.  2560 ลงวันที่ 15 ธันวาคม 2560 และต้องไม่เป็นเครื่องอวนครอบ อวนช้อน หรืออวนยกปลากะตัก ที่ใช้ประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เครื่องปั่นไฟ) และต้องไม่เป็นเครื่องมือที่ถูกห้ามตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมงและพื้นที่ทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมงในที่จับสัตว์น้ำเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ. 2560 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2560

 

ปิดอ่าว 2566, อันดามัน, อ่าวอันดามัน, ภูเก็ต, พังงา, กระบี่, ภูเก็ต, ทรัพยากรสัตว์น้ำ, สัตว์น้ำ, ฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อ, ทะเลอันดามัน, ทรัพยากรสัตว์น้ำ,​ กรมประมง, เรือประมง

 

ทั้งนี้ “ปิดอ่าว 2566” การทำการประมงโดยใช้เครื่องมือในข้อ 3 , 4 , 5 , 6 และ 7 จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงเกษตรฯ ลงวันที่  9 พฤศจิกายน 2560 และจะต้องไม่เป็นเครื่องมือที่ห้ามใช้ทำการประมง ตามมาตรา 67  69 หรือ 71 (1) แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

จึงขอเน้นย้ำให้พี่น้องชาวประมงให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังการทำประมง โดยให้ทำประมงเฉพาะเครื่องมือที่ประกาศให้ใช้ได้เท่านั้น เครื่องมืออื่น ๆ ห้ามทำโดยเด็ดขาด

หากผู้ใดฝ่าฝืนจะเป็นความผิดตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษ ปรับตั้งแต่ 5,000 บาท-30,000,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของเรือประมง หรือปรับจำนวน 5 เท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า และต้องได้รับโทษทางปกครอง

ข้อมูล : กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้าน 2 ตำบลเฮ ขอบคุณป่าไม้ที่อนุญาติให้ อบต.สร้างถนนลัดไปอำเภอ หลัง สว.สุรินทร์ หารือในการประชุมวุฒิสภาช่วยแก้ปัญหาชาวบ้าน เป็นของขวัญปีใหม่
"แม่สามารถ" ยื่นจดหมายลับใส่มือนักข่าว อ้างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ปรเมศวร์” เตือน “อธิบดีกรมที่ดิน” เสี่ยงโดนม.157 ปมเขากระโดง
ผู้จัดการตลท. พร้อมให้ข้อมูล คดี “หมอบุญ” เตือนนักลงทุน ใช้สติก่อนตัดสินใจ
“บิ๊กน้อย” การันตี แจงแทน “บิ๊กป้อม” ไม่โทรให้ใครช่วย “สามารถ”
“ไอซ์ รักชนก” เตรียมระทึกอีก ศาลนัดฟังคำสั่งถอนประกัน 11 ธ.ค.นี้ ลุ้นชี้ชะตาจะรอดคุกหรือไม่
ชาวบ้านบุกรุกพื้นที่อุทยานขุดพรุน 14 ไร่ หาแร่ทองคำล้ำค่า เจ้าหน้าที่บุกจับแจ้ง 6 ข้อหาอ่วม
“ณัฐวุฒิ” ไม่เชื่อมีม็อบใหญ่ไล่รัฐบาล หยันหากมีก็แค่ ‘กองเชียร์ส้ม’ ในคราบอนุรักษ์นิยม
“ทนายสายหยุด” หน้าชา! “ทนายเดชา” ซัดคบไม่ได้-ขายลูกความ ไม่เชื่อ “ทนายตั้ม” ค้านประกันเมีย
รองพ่อเมืองกรุงเก่า ร่วมงานวิ่ง 'CPF & KASETPHAND RUN FOR CHARITY 2024' มอบรายได้แก่ 4 โรงพยาบาล ใน จ.พระนครศรีอยุธยา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น