พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง ผบก.ปอท. ในฐานะโฆษกบช.ก. เผยถึงความคืบหน้าคดีสารวัตรซัว ว่า ภายหลังจากมีปฎิบัติการในวันที่ 3 มีนาคม 2566 ลงพื้นที่ตรวจค้น 63 จุด สามารถยึดทรัพย์สินได้มากกว่า 1,400 ล้านบาท จับผู้ต้องหาได้ 4 ราย ซึ่งทางกองบัชญาการตำรวจสอบสวนกลางได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) ได้มีการปฏิบัติการเข้าตรวจค้นพื้นที่ 9 จุด ในกทม.และ จันทบุรี สามารถอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ บัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และเชิญบุคคลเข้ามาสอบปากคำเพื่อขยายผลเพิ่มเติม ซึ่งภายหลังจากเข้าตรวจค้น 60 บริษัท ที่เกี่ยวข้องกับคดีสารวัตรซัว
บช.ก.เล็งสอบ "ชูวิทย์" หลังรับเงิน "สารวัตรซัว" บริจาครพ.
ข่าวที่น่าสนใจ
มีบุคคลที่จะต้องตรวจสอบถึง 150 คน ขณะนี้สามารถกำจัดวงมาได้เหลือ 20-30 คน ซึ่งบางคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหุ้นในบริษัท และมีทรัพย์สินเกินกว่ารายได้ ทำให้ทราบว่ามีความเชื่อมโยงในคดี ซึ่งตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนกรณีของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่ออกมายอมรับกลางงานแถลงว่า รับเงินจากสารวัตรซัว เพื่อให้เลิกหยุดแฉนั้น ทางกองบัญชาการสอบสวนกลางจะต้องพิจารณาก่อนว่าทางพนักงานสอบสวนมีอำนาจให้การตรวจสอบหรือไม่ และเงินที่ นายชูวิทย์ ได้มาเป็นเงินจากอะไร หากเป็นเงินจากการกระทำความผิด จะได้ต้องถูกดำเนินคดีในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน
ส่วนกรณีของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาแฉว่า มีตำรวจ 2 นายพล เข้าไปติดต่อ นายชูวิทย์ เลิกแฉคดีสารวัตรซัวนั้น จะต้องรอให้ทาง ทนายตั้ม นำหลักฐานเข้ามามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบว่ามีนายตำรวจกระทำตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องที่มีการโอนสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 50 ล้าน ให้กับบุตรของ นายชูวิทย์ ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบเช่นกันว่ามาจากบุคคลใดและเป็นเงินที่มาจากการกระทำผิดกฏหมายหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง