พิษโควิด แม่ทนแบกหนี้ไม่ไหว ตัดสินใจปลิดชีพลูกดับ ก่อนเดินลุยน้ำจบชีวิตตาม

แม่วัย 45 ปี อาศัยอยู่กับลูกสาวเพียงลำพัง หลังสามีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นทิ้งไปกว่า 3 ปี ปล่อยให้ดำเนินธุรกิจขายวัสดุก่อสร้างเพียงลำพังและหนี้สินกว่า 5 ล้านบาท เจอพิษโควิดสินค้าขายไม่ได้ ธนาคารและเจ้าหนี้มาทวงหนี้บ่อยๆ จนเกิดความเครียด หาทางออกไม่ได้ ตัดสินใจอาศัยจังหวะที่ลูกสาวนอนหลับใช้มีดเชือดคอดับ จากนั้นออกไปเดินลุยน้ำจบชีวิตในหนองน้ำสาธารณะตาม

เหตุสลดใจรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 10 ส.ค. 2564 พ.ต.ท.อดิศร อินธิจักร สารวัตร(สอบสวน)สภ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีเหตุแม่เชือดคอลูกเสียชีวิตแล้วไปกระโดดน้ำตายที่บ้านสิงห์โคก หมู่ 10 ต.สิงห์โคก อ.เกษตรวิสัย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมกับประสานแพทย์เวร รพ.เกษตรวิสัย และหน่วยกู้ภัยทางหลวงร้อยเอ็ด จากนั้นจึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา รอง ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.วินทุ ฝังใจ ผกก.สภ.เกษตรวิสัย  พ.ต.ท.ศักดิ์ดา เผ่าภูธร รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.ธนาธิป เฉลิมแสง สวป. พ.ต.ท.ไมตรี เศษโถ สารวัตร(สืบสวน) เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 161 หมู่ 10 บ้านสิงห์โคก พบว่าเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังใหญ่ ภายในพื้นกระเบื้องด้านล่างของบ้านบริเวณใกล้ประตูทางเข้า พบศพ นางสาวนันทนา คำนิล อายุ 20 ปี นักศึกษาปีที่ 1 เอกบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นอนหงายเสียชีวิตเลือดนองพื้น สภาพศพสวมชุดนอนกางเกงผ้ายืดขาสั้นและเสื้อยืดแขนสั้นสีลายดำ มีบาดแผลถูกเชือดที่บริเวณลำคอ 1 แผลจนหลอดลมขาด และมีรอยแผลถูกของมีคมบาดเล็กน้อยที่แก้มซ้ายและแขนซ้าย โดยมีมีดทำครัวปลายแหลมเปื้อนเลือด ขนาดยาวพร้อมด้ามประมาณ 25 ซม.ตกอยู่บนพื้นๆใกล้ๆศพ และศพพึ่งเสียชีวิตยังไม่นาน

นอกจากนั้นยังพบว่านางไพวรรณ คำนิล อายุ 45 ปี แม่ของผู้ตายได้ขับรถ จยย.แบบหญิง ยี่ห้อออนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีขาว ไปกระโดดน้ำตายที่หนองกระทุ่ม ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะประจำหมู่บ้าน อยู่ด้านทิศเหนือห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. โดยชาวบ้านและหน่วยกู้ภัย ได้นำศพขึ้นมาจากน้ำแล้ว โดยสภาพศพของนางไพรวัลย์ สวมกางเกงขาสั้นสีแดงเสื้อยืดสีเหลือง มีน้ำไหลออกทางปากและจมูก ซึ่งชาวบ้านนำขึ้นจากน้ำลึกประมาณ 2 เมตร ห่างจากฝั่งประมาณ 50 เมตร

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนจะเกิดเหตุสลดใจในครั้งนี้ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้นางไพวรรณได้สมรสกับอดีต รองนายก อบต.สิงห์โคก และมีบุตรสาวด้วยกันเพียง 1 คนคือ น.ส.นันทนา ต่อมาได้ช่วยกันประกอบอาชีพจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในหมู่บ้าน โดยได้ไปกู้ยืมเงินจากธนาคารและนายทุนมาลงทุน เริ่มแรกกิจการก็ไปได้ดี  แต่ต่อมาสามีได้เตรียมตัวที่จะลงนายก อบต.จึงใช้จ่ายเงินหาเสียงไปล่วงหน้าแต่ก็ยังไม่มีการเลือกตั้ง จนเกิดปัญหาเงินใช้จ่ายในครอบครัวแล้วทะเลาะกัน จนกระทั่งสามีได้แยกทางกับนางไพรวัลย์ไปมีภรรยาอยู่ที่ต่างจังหวัด ปล่อยให้นางไพวรรณ บริหารธุรกิจเพียงคนเดียวและต้องหาเงินใช้หนี้กว่า 5 ล้านบาท ต่อมาเมื่อเกิดวิกฤติโควิด 19 ทำให้ค้าขายไม่ค่อยได้ จึงขาดเงินส่งธนาคารและเจ้าหนี้ภายนอกก็ทวงถามมาเรื่อยๆ ทำให้นางไพรวัลย์เกิดความเครียดอย่างหนัก จนเกิดอาการซึมเศร้า และมักจะพูดเปรยๆกับคนข้างเคียงว่าถ้าตนเป็นอะไรไปคงไม่ไปคนเดียวจะเอาลูกไปอยู่ด้วย ซึ่งญาติๆก็ได้แต่ปลอบใจ จนกระทั้งคาดว่านางไพรวัลย์ได้ก่อเหตุเชือดคอลูกสาวขณะนอนเล่นแล้วเผลอหลับไปจากนั้นจึงไปเดินลุยน้ำตายตาม

นางร่วม ชาสนาม อายุ 67 ปี ชาว อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นแม่ของนางไพรรณบอกว่าตนมาอยู่เป็นเพื่อนกับลูกสาวและหลานสาวโดยไปๆมาๆอยู่เรื่อยๆ และพึ่งกลับบ้านไปเมื่อวันวาน ซึ่งเมื่อก่อนกลับบ้านตนก็สังเกตุเห็นลูกสาวมีอาการซึมเศร้าไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่ลูกสาวก็ไม่เคยพูดอะไรให้ฟัง ก่อนจะก่อเหตุดังกล่าว

ทางด้านนายไพบูลย์ นารีไผ่ กำนัน ต.หนองแวง อ.เกษตรวิสัย ซึ่งเป็นญาติของสามีผู้ตาย บอกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้น่าจะมาจากสาเหตุของการแบกรับหนี้สินที่สามีสร้างเอาไว้จนถูกทวงถาม ประกอบกับช่วงโควิดขายของไม่ค่อยได้ จึงเกิดความเครียดไม่มีทางออก และสามีก็ไปมีภรรยาใหม่ สุดท้ายผู้ตายคงไม่มีทางออกจึงตัดสินใจก่อเหตุสลดในครั้งนี้เพื่อหนีปัญหาต่างๆที่รุมเร้า

 

ซึ่งพนักงานสอบสวนพูดสั้นๆบอกว่า สาเหตุที่น่าเชื่อว่าแม่เป็นคนก่อเหตุในครั้งนี้และฆ่าตัวตายตามนั้น เพราะมีจดหมายลาตายที่นางไพวรรณ เขียนด้วยปากกาลายมือตนเองเอาเป็นภาษากลางและภาษาถิ่นสรุปได้ว่าไว้#….ถ้าไม่มีเงินจัดงานให้ฝังหนูไว้กับลูกให้อยู่ด้วยกันทุกชาติ ลูกขอโทษทุกคนลูกหมดแรง หมดกำลังหมดหนทาง ใช้หนี้ไม่ไหวมันเข้ามาหาลูกทุกประตู มีแต่คนถามหนี้ รักพ่อแม่น้องลูกหลานทุกคนพี่น้องเพื่อน ลูกตัดสินใจจบชีวิตใช้หนี้ หากชาติหน้ามีจริงลูกขอเกิดเป็นลูกพ่อกับแม่อีก ทำอย่างไรก็ไปไม่ได้หนี้ธนาคาร 5,000,000 บาท จบชีวิตลูกตัวเองไม่อยากให้ลูกมีปัญหาตามมา ลูกไม่มีทางออกจริงๆ รักครอบครัวที่สุด เกลียดที่สุดอดีตสามี บอกทิดเขตด้วยให้โทรหาเบอร์น้องบี น้องบีรักเขต น้องบีไม่มีใคร ถ้าชาติหน้ามีจริงขอให้ได้ครองคู่กัน บ้านเขวาใหญ่ ขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่คอยให้กำลังใจ แต่ไม่ไหวจริงๆ ถ้าเกิดมามีเงิน ถ้าลูกหลานมีปัญหาคงจะคิดนำใหญ่ ให้ทุกคนยกโทษให้ย่านำเด้อ…# ซึ่งจะสังเกตุเห็นได้ว่าในจดหมายจะมีรอยเปื้อนน้ำตาด้วย

และก่อนเกิดเหตุเพื่อนบ้านก็ได้ยินเสียงคนร้อง ก่อนจะเห็นนางไพวรรณขับรถ จยย.ออกจากบ้านไป ต่อมาเพื่อนบ้านจึงเดินเข้าไปในบ้านจึงพบ น.ส.นันทนาเสียชีวิตแล้ว และในเย็นวันนี้เวลา 16.30 น. ญาติพี้น้องและเพื่อนบ้านก็ได้นำศพไปฝังคู่กันตามคำสั่งเสียในจดหมาย ที่ป่าช้าดิบวัดสิงห์ทอง บ้านสิงห์โคก โดยไร้วี่แววของอดีตสามี มาร่วมงานศพของภรรยาและลูกสาวแต่อย่างใด มีแต่ญาติๆมาแทนบอกว่าติดต่อไม่ได้

 

โดยนายนำพงษ์ คำนิล อายุ 49 ปี พี่ชาย บอกว่า น้องชายหลงใหลในการเล่นการเมืองมากๆเป็นคนใจกว้าง จนที่ดินต่างๆของญาติพี่น้องก็มาขอยืมไปจำนองจำนำสุดท้ายใช้หนี้ไม่ได้ก็เลยหนีไปได้ 3 ปีเศษแล้วไม่เคยติดต่อกลับมาหาพี่น้องเลย ญาติคนใดอยากได้ที่ดินคืน จำเป็นต้องหาเงินมาไถ่ถอนเอาจากนายทุนและญาติหลายคนก็ต้องทำใจยอมให้เจ้าหนี้ยึดเอาที่นาที่ดินไป เพราะไม่มีเงินชดใช้หนี้ให้กับน้องชาย.

ภาพ/ข่าว สุพจน์ หินกอง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.ร้อยเอ็ด  

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น