วันที่ 25 มีนาคม พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ ฉายา ”เอี้ยก้วยเขาบิน” หรือ นายณัฐพงษ์ หรือ หนุ่ม นวลละออง อายุ 46 ปี ที่อยู่ 68/2 ถนนศรีสำราญ 3 ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ฉายาเอี้ยก้วยเขาบิน
พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 200,000 เม็ด ไอซ์ น้ำหนัก 233 กิโลกรัม เฮโรอีนจำนวน 2 แท่ง น้ำหนัก 746 กรัม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องอรถยนต์ 4 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน
โดยกล่าวหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป จับกุมได้บริเวณริมถนนปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว ใกล้สี่แยกนพวงศ์ขาเข้า ต.หน้าไม้ อ.บางบัวทอง จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องบ้านเช่าเลขที่ 31/17 ถ.โพธิ์อ้น-หวายสอ ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
พฤติการณ์สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่กก.2 บก.สส.บช.น.ได้จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และสืบสวนขยายผลเรื่อยมา กระทั่งทราบว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในย่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งใช้รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4กว 9705 กรุงเทพมหานคร โดยพักอาศัย อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีพฤติกรรมไปรับยาเสพติดย่านถนน สุพรรณบุรี-บางบัวทอง เพื่อนำมาพักไว้ในที่พักก่อนทยอยส่งให้กับลูกค้าในหลายพื้นที่
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า รถยนต์ของกลุ่มคนร้ายเดินทางออกจากบ้านพักอาศัยแถว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไปส่งยาเสพติดให้ลูกค้า จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ทราบ เพื่อวางแผน สะกดรอยติดตามและเข้าจับกุมได้พร้อมของกลาง จากนั้นได้นำตัวทำการขยายผลตรวจค้นบ้านเช่า เลขที่ 31/17 ถ.โพธิ์อ้น-หวายสอ ต.สองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ที่นายณัฐพงษ์รับว่า ได้เช่าบ้านไว้เก็บยาเสพติดเพื่อรอออกจำหน่ายให้กับลูกค้า ผลการตรวจค้นพบ ไอซ์น้ำหนัก 232 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ภายใน
สอบสวนให้การรับสารภาพว่า ตนมีฉายา”เอี้ยก้วยเขาบิน”จากหนังมังกรหยก เนื่องจากแขนซ้ายขาด โดยรับยาเสพติดมาจากย่านถนน สุพรรณบุรี-บางบัวทอง เพื่อที่จะไปส่งให้ลูกค้าในย่านกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจริง โดยมีประวัติเคยถูกดำเนินคดี ข้อหาพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 ข้อหา “ครอบครองเพื่อจำหน่ายยาเสพติด”สภ.เมืองสุพรรณบุรี ปี 2550 ศาลตัดสินจำคุก 25 ปี ลดโทษเหลือจำคุก 10 ปี ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ปี 2550 พ้นโทษมาปี 2561
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า กก.2 บก.สส.บช.น. ได้เร่งรัดทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รายสำคัญ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ยาเสพติดแพร่กระจายสู่ชุมชน ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ซึ่งเป็นภัยร้ายต่อสังคม เด็กและเยาวชนของเรา ควรที่จะเติบโตภายใต้สังคมที่ปลอดภัยและไร้ยาเสพติด
ภาพ/ข่าว สมชาย จรรยา ผู้สื่อข่าว
