TOP NEWS ชำแหละทุนใหญ่ ผลิตไฟขายกำไรหมื่นล้าน สวนทางประชาชนเดือดร้อน

TOP NEWS ชำแหละทุนใหญ่ ผลิตไฟขายกำไรหมื่นล้าน สวนทางประชาชนเดือดร้อน

จากข้อมูลที่มีการเปิดเผยความแตกต่างระหว่างปริมาณการผลิตและรับซื้่อไฟฟ้าของกฟผ.กับปริมาณการใช้ไฟจริงในประเทศ จนเกิดข้อคำถามถึงเหตุผลและความเหมาะสมของอัตราการสำรองไฟฟ้า เนื่องจากส่งผลทำให้ราคาไฟฟ้าสู่ภาคอุตสากรรมและครัวเรือนมีระดับสูง เมื่อเทียบเคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่กำลังเป็นคู่แข่งด้านการผลิต การค้า ในเวทีโลก

ล่าสุด รายการ Top Biz Insight รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้เคาะค่าไฟในรอบ พ.ค.- ส.ค. 2566 เพิ่มขึ้น เป็นอัตราเดียวกันเป็น 4.77 บาทต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยและผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ เช่น ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเดิมถูกแยกไว้อีกราคาหนึ่ง

หลังจากปัจจุบันบ้านอยู่อาศัยต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตรา 4.72 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 7%) และภาคธุรกิจ จ่ายค่าไฟฟ้าในอัตรา 5.33 บาทต่อหน่วย เทียบเคียงกับประเทศเวียดนามที่มีอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับภาคธุรกิจ และ ภาคอุตสาหกรรม ถูกกว่าภาคครัวเรือน เนื่องจากเวียดนามต้องการดึงทุนต่างประเทศเข้าไปตั้งฐานการผลิตในประเทศ

 

“เวียดนามเข้าไปช่วยภาคอุตสาหกรรม เข้าไปทำให้ค่าไฟถูก เพื่อทำให้ต้นทุนสินค้าของเวียดนามถูกและสามารถแข่งกับต่างประเทศได้ โดยเมื่อสินค้าขายดี การส่งออกก็จะเพิ่มขึ้น การผลิตในประเทศก็จะเพิ่มขึ้น การจ้างงานก็จะมากขึ้น คนเวียดนามก็จะมีเงินในกระเป๋ามากขึ้น ซึ่งเมื่อต่างชาติเห็นแล้วก็จะมาลงทุนกันในเวียดนาม ก็สามารถดึงทุนจากต่างประเทศ เข้าไปตั้งในเวียดนามได้อีก”

ขณะที่เมื่อพิจารณาโครงสร้างค่าไฟของประเทศไทย ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากโครงสร้างทางการเมืองไทยแตกต่างจากเวียดนาม นักการเมืองของเวียดนามเห็นภาคธุรกิจเป็นหลัก ดังนั้นประเทศไทยจึงควรทำให้ประชาชนต้องได้รับค่าไฟถูก ส่วนภาคอุตสาหกรรมควรเป็นฝ่ายรับภาระเอง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ก่อนหน้านี้มีประเด็นว่าประธานสภาอุตสาหกรรมประเทศไทย ระบุถ้าไม่ลดค่าไฟลงต่ำกว่า 5.69 บาท จะปรับราคาสินค้า 5-12% ผู้รับผิดชอบจึงต้องปรับลดค่าไฟลงมาเหลือเพียง 5.33 บาทต่อหน่วย แต่ภาคธุรกิจบอกว่ายังสูงเกิน ต้นทุนเหล่านี้ไม่สามารถไปแข่งขันกับใคร จนสุดท้ายวันนี้ปรับลดลงมาเท่ากันระหว่างภาคครัวเรือน กับภาคอุตสาหกรรม นี่จึงเป็นข้อคำถามจากประชาชน ว่าเป็นไปได้อย่างไร เมื่อประชาชนใช้ไฟเพื่อชีวิตประจำวัน เพื่อความเป็นอยู่ ต้องเสียค่าไฟเท่าภาคอุตสาหกรรม”

รวมถึงคำถามว่าความจำเป็นที่ กฟผ. ต้องไปรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจาณ์อย่างหนักว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนต้องเสียค่าไฟแพงขึ้น หรือแม้แต่คำถามว่า ทำไมภาครัฐ โดยกฟผ.ไม่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้า ในปริมาณเพิ่มขึ้นให้เพียงพอต่อการใช้ในประเทศ และอัตราการสำรองไฟฟ้าตามหลักที่ควรจะเป็น ไม่ใช่ในระดับมากจนเกินความจำเป็น

และ 1 ในภาคเอกชนผูผลิตและขายไฟฟ้าให้กฟผ. ก็คือ “กัลฟ์” โดยถือว่าเป็นรายใหญ่เบอร์ต้นๆ ที่ขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ. ซึ่งนอกจาก”กัลฟ์”จะผลิตไฟฟ้าขายแล้ว “กัลฟ์” ยังดำเนินธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานลม, โรงไฟฟ้าพลังน้ำ , โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ,โครงการโซลาร์รูฟท็อป รวมไปถึงธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล อาทิ ธุรกิจ Data Center , Virtual banking ,ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ,ต่อยอดธุรกิจดาวเทียม

 

 

ขณะที่เมื่อตรวจสอบข้อมูลรายได้ ผลการดำเนินงาน ปี 2565 รายได้รวมอยู่ที่ 101,397 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% กำไรจากการดำเนินงาน 12,098 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37%

 

 

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2565 กำไรจากการดำเนินงาน 12,098 กำไรสุทธิ 5,406 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78%

 

 

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา “กัลฟ์” แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าซื้อขายโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่ สปป.ลาว ชื่อว่า paklay (ปากเล) โดยอยู่ห่างจากชายแดนไทยประมาณ 100 กิโลเมตร ท่ามกลางข้อสงสัย ว่า 100 กิโลเมตร ระบบการส่งไฟฟ้าจะเป็นอย่างไร แต่ที่น่าสนใจกว่า คือ ปกติแล้วภารกิจในการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ เพื่อมาจำหน่ายให้คนไทยในประเทศ ควรเป็นบทบาทหน้าที่โดยตรงของ กฟผ. หรือไม่ เพราะถ้ากฟผ.ซื้อก็มีสิทธิ์จะนำมาขายให้ประชาชน ในราคาไม่แพงมาก

 

 

แต่กรณีนี้ปรากฎว่า “กัลฟ์” ไปซื้อแล้วขายต่อให้ กฟผ. แล้ว กฟผ.มาขายต่อให้ประชาชนอีกทอดหนึ่ง ถามว่ากัลฟ์มาขายให้กฟผ.ต้องกำไรหรือไม่ คำตอบคือต้องมีการบวกกำไรอยู่แล้ว ท้ายสุดกฟผ.ก็บวกกำไรเพิ่มกับประชาชนอีกรอบ สุดท้ายแล้วประชาชนกลายเป็นผู้รับภาระค่าไฟแพงเต็มๆ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย
แม่ค้าขนมครกโอดยอมกัดฟันสู้ หลังราคาน้ำกะทิขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทแต่ยันขายขนมครกราคาเดิมกลัวลูกค้าหด
"นายกฯ" เผย ครม.อนุมัติ 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกร หลังน้ำลด
หนุ่มขับรถกระบะไปส่งหมู หลับในขับรถพุ่งชนฟุตบาท พลิกคว่ำตีลังกาชนเสาไฟ ดับคารถพร้อมเพื่อนต่างด้าวที่นั่งมาด้วยกันเสียชีวิต 2 ศพ
ครม.ตั้ง “บิ๊กรอย” นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม “คารม-ศศิกานต์” เป็นรองโฆษกรบ.
พบแล้ว "สุสานหรู" ถูก "ซินแส" ใช้ลวงเหยื่อ ซื้อที่ดินต่อดวงชะตาชีวิต ก่อนสูญเงินกว่า 30 ล้านบาท
"นายกฯ" ลั่นไม่แทรกแซง หลังป.ป.ช.ขอเวชระเบียน "ทักษิณ"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น