เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2566 สหภาพแรงงานซันโยแห่งประเทศไทย (ซยท.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้เปิดโอกาสให้นายมนัส โกศล หัวหน้าพรรคแรงงานสร้างชาติ (รสช.) ปราศัยกฎหมายและนโยบายพรรคเพื่อปกป้องดูแลและคุ้มครองสิทธิสวัสดิการผู้ใช้แรงงานไทย
นายมนัส กล่าวว่าตลอดระยะเวลา 43 ปี ได้สนับสนุน “ขบวนการแรงงานเข้มแข็ง” ด้วยการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับสหภาพแรงงาน สหพันธ์แรงงาน , สภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย (สพท.) , เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) , ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) จนมาสู่การจัดตั้ง “พรรคแรงงานสร้างชาติ” โดยมีนโยบายสำคัญ ดังนี้
1.สิทธิสุขภาพ ต้องมีการปฏิรูประบบประกันสังคม คือ ลูกจ้างมีสิทธิเลือกบำเหน็จบำนาญได้ไม่ต้องรองอายุ 55 ปี , สิทธิในการรักษาพยาบาล มาตรา 33 กับ มาตา 40 ต้องเท่าเทียมกัน พร้อมกับเสนอ “ปฏิรูปกองทุนสุขภาพไทย” คือ 1.กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2.กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาล ข้าราชการ และ 3.กองทุนประกันสังคม เพื่อสร้างความเท่าเทียมและเป็นธรรมในการได้รับการรักษาจากระบบสุขภาพทั้ง 3 กองทุน
2.สิทธิการจ้างงาน คือ ลูกจ้างเหมาของรัฐ หรือ แรงงาน Outsourcing ต้องได้รับการบรรจุเป็นพนักงานราชการ หรือ พนักงานประจำ เพื่อสร้างความมั่นคงในการจ้างงานและได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม
นายมนัส กล่าวว่านโยบายค่าแรงขั้นต่ำ ไม่เน้นนำเสนอตัวเลขเพื่อแข่งขันหรือเอาชนะทางการเมืองเหมือนบางพรรคการเมือง แต่พรรคแรงงานสร้างชาติ เห็นว่าค่าแรงขั้นต่ำเปรียบเหมือน “ค่าจ้างแรกเข้า” ควรปรับเชิงโครงสร้างรายปี ตามความรู้ความสามารถและอายุงานของลูกจ้างที่ควรจะได้รับอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรมตามภาวะเศรษฐกิจทั้งนายจ้างและลูกจ้างต่างยอมรับได้
นอกจากนี้ทางพรรคมีนโยบาย “บำนาญชราภาพ” ควรได้รับ 4,500 บาท และ จัดตั้ง “ธนาคารแรงงาน” มาสนับสนุนแนวคิด “เศรษฐกิจที่มีชุมชนเป็นฐาน” เช่น จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้ง “โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” และเขตนิคมอุตสาหกรรมระดับต้นๆ ของประเทศ จึงควรส่งเสริมเกษตรกรหรือผู้ใช้แรงงานที่มีพื้นที่เพาะปลูก หันมาปลูกพืชสมุนไพรเป็น “พืชเศรษฐกิจ” หรือต่อยอดทางธุรกิจอื่นๆ จะได้มีอาชีพเสริมและมีรายได้เพิ่มไปยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจครอบครัว
/-/-/