ผบช.ภ.7 ตรวจเยี่ยมการยกระดับบริการประชาชน สภ.บ้านคา ราชบุรี

วันที่ 27 มี.ค. 2566 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและขับเคลื่อนการยกระดับการบริการประชาชนของสถานีตำรวจ ตามนโยบายของ ผบ.ตร. ณ สภ.บ้านคา ภ.จว.ราชบุรี โดยในการนี้ได้มอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านคา ได้แก่ ถุงบำรุงขวัญ 20 ถุง  น้ำดื่ม 20 แพ็ค ข้าวสารถุงละ 5 โล 20 ถุง หน้ากากอนามัย 500 อัน เจลแอลกอฮอล์ 5 ลัง มาม่า 2 ลัง(ใหญ่) ข้าวโพดอบกรอบ 1 ลัง นมจืด 2 ลัง น้ำปลา 1 ลัง รองเท้าผู้ชาย 40 คู่ รองเท้าผู้หญิง 30 คู่ รองเท้าเด็ก 20 คู่ พัดลม 14 นิ้ว 3 ตัว

โดยมี พ.ต.อ.นฤดม  มารศรี รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พ.ต.อ.ภัทรพล  วัจนสุนทร รรท.ผกก.สภ.บ้านคา คณะ กต.ตร.สภ.บ้านคาและข้าราชการตำรวจ สภ.บ้านคา รอรับการตรวจและเข้าร่วมการประชุมได้กำชับให้ปฏิบัติดังนี้

  1. นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นตำรวจมืออาชีพ ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม
  2. ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ
  3. การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน 4443”

3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง

3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ

3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ

3.4  “3 S” Smart Smile Strong

  1. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่งกรมตำรวจ ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค. 2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ

ข่าวที่น่าสนใจ

  1. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใด ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด
  2. กำชับให้มีการฝึกทบทวนทางยุทธวิธีทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวนเป็นประจำสม่ำเสมอ ให้เกิดความคุ้นชินเมื่อต้องปฏิบัติ เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่เพื่อนพี่น้องข้าราชการตำรวจ
  3. ปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ เป็นภารกิจเร่งด่วนของผบ.ตร. ให้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีรูปแบบต่าง ๆ ให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อ หากพบการกระทำความผิดดำเนินการบังคับใช้กฎหมายให้ถึงที่สุด
  4. ปัญหายาเสพติดเป็นภารกิจเร่งด่วนของ ผบ.ตร. มุ่งเน้นใช้วิธีการบำบัดยาเสพติดต่อผู้เสพ เพื่อคืนคนดีสู่สังคมตามนโยบายรัฐบาล โดยปฏิบัติการเชิงรุกซักถามถึงแหล่งที่มาและเครือข่าย เพื่อจัดทำฐานข้อมูลในการติดตามจับกุมและขยายผลต่อไป
  5. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นมีความเข้าถึงและใส่ใจในความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาและครอบครัว อย่างใกล้ชิด คอยช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิน ความเป็นอยู่ อย่าปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาต้องเคว้งคว้างเผชิญปัญหาเพียงผู้เดียว
  6. ให้ผู้บังคับบัญชาเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านงานในหน้าที่ ด้านการใช้ชีวิต การครองตนให้อยู่ในศีลธรรมอันดี

11.กำชับความรักความสามัคคีในหมู่คณะ ทำงานเป็นทีม(Teamworks) เคารพซึ่งกันและกันระหว่างรุ่นพี่ รุ่นน้อง โดยให้ยึดหลักการครองตน ครองคน และครองงาน

12.1 ให้มีพื้นที่รองรับการจอดของรถที่เข้ามารับบริการ ไม่ให้กระทบการจราจร

12.2 ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค รักษาระยะห่าง social distancing

12.3 จัดเตรียมหน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจล สบู่ล้างมือ ถุงมือ แผ่นป้องกันหน้า face shield สำหรับทั้งผู้ปฎิบัติ และบริการประชาชน

12.4 นำกล้อง CCTV ที่เคยออกแบบไว้ใช้สำหรับจุดตรวจ บันทึกภาพนิ่ง เคลื่อนไหว

12.5 ให้จัดเตรียมเครื่องขยายเสียงให้พร้อมสำหรับการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารสำหรับการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์

12.6 จัดเตรียมสมุดตรวจสั่งการของผู้บังคับบัญชา และกำลังพลพร้อมรับการตรวจ

  1. ในห้วงก่อนการเลือกตั้งให้สืบสวนหาข่าวด้านความมั่นคง บุคคลหรือกลุ่มบุคคล ที่อาจจะมีการลักลอบสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ หรือเข้ามาก่อเหตุร้ายในพื้นที่ในลักษณะต่างๆ โดยให้มีข้อมูลบุคคลหรือกลุ่มบุคคลต้องสงสัย ยานพาหนะต้องสงสัย โดยให้สังเกตสิ่งผิดปกติ ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถกับฐานข้อมูลอาชญากรรมหรือรถต้องสงสัย การตรวจค้นวัตถุต้องสงสัยอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ระเบิดแสวงเครื่อง เชื้อปะทุ/ชนวน องค์ประกอบหรือชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่สามารถประกอบเป็นวัตถุระเบิดได้ เมื่อพบการกระทำผิดหรือสิ่งของผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกรณี
  2. ให้สนับสนุนการปฏิบัติตามที่ กกต. ขอความร่วมมือในการเลือกตั้ง และดำเนินการ ดังนี้

14.1 การอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้มีการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและจัดบริเวณที่จอดรถให้กับผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่บริเวณหน่วยเลือกตั้งแต่ละหน่วย อย่าให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด

14.2 การรักษาความปลอดภัยบริเวณหน่วยเลือกตั้งโดยเฉพาะการนับคะแนน การขนหีบบัตรเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้งที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและเดินทางยากลำบาก ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องไปถึงเวลากลางคืน จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลรักษาความปลอดภัยในการดำเนินการโดยตลอดจนกว่าจะเสร็จสิ้น

14.3 การใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ให้แต่ละหน่วยที่ได้รับจัดสรรงบประมาณสนับสนุน จัดทำแผนรองรับการปฏิบัติ โดยให้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินงบประมาณต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐานด้วย

14.4 การสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งและพรรคการเมืองเมื่อมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้งและพรรคการเมืองที่มีโทษทางอาญา หรือที่เกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งและมีโทษทางอาญาเกิดขึ้น และมีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนคดีดังกล่าว และรายงานให้ กกต. ทราบโดยเร็ว

ศูนย์ข่าวภาคตะวันตก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เจพาร์ค ศรีราชา” จัดพิธีอัญเชิญเทพเจ้าโอคุนินุชิ ประทับในศาลเจ้าโอคุนิ ศาลเจ้าชินโตแห่งที่สามของประเทศไทย
ก้าวสู่ปีที่ 5 Future Food Leader Summit 2025 ชวนสร้างไอเดีย บนแนวคิด “อาหารฟื้นฟูเพื่ออนาคต” เปิดตัว Future Food AI ครั้งแรกในเอเชีย
TIPH คว้าอันดับเครดิตองค์กรสูงสุดของกลุ่มโฮลดิ้งส์ ตอกย้ำศักยภาพผ่านการประเมินจากทริสเรทติ้ง
"บิ๊กเต่า" เตรียมส่งทีมสอบ "บอสพอล" ปมเส้นเงิน 8 แสน โยงแม่นักการเมือง ส.
"วราวุธ" ขออย่านำ "เกาะกูด" เป็นประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ ชี้ MOU 44 ไม่เกี่ยวข้อกังวลทุกฝ่าย
แม่ค้าขนมครกโอดยอมกัดฟันสู้ หลังราคาน้ำกะทิขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาทแต่ยันขายขนมครกราคาเดิมกลัวลูกค้าหด
"นายกฯ" เผย ครม.อนุมัติ 2.5 พันล้าน ฟื้นฟูเกษตรกร หลังน้ำลด
หนุ่มขับรถกระบะไปส่งหมู หลับในขับรถพุ่งชนฟุตบาท พลิกคว่ำตีลังกาชนเสาไฟ ดับคารถพร้อมเพื่อนต่างด้าวที่นั่งมาด้วยกันเสียชีวิต 2 ศพ
ครม.ตั้ง “บิ๊กรอย” นั่งที่ปรึกษาภูมิธรรม “คารม-ศศิกานต์” เป็นรองโฆษกรบ.
พบแล้ว "สุสานหรู" ถูก "ซินแส" ใช้ลวงเหยื่อ ซื้อที่ดินต่อดวงชะตาชีวิต ก่อนสูญเงินกว่า 30 ล้านบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น