จับตามวยคู่เอก “อัจฉริยะ” แฉ “พล.ต.ต.เอกรักษ์” ปม “เมีย” เอี่ยวพนันออนไลน์

จับตามวยคู่เอก "อัจฉริยะ" แฉ "พล.ต.ต.เอกรักษ์" ปม "เมีย" เอี่ยวพนันออนไลน์

ทันทีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางร้องกองปราบปรามเอาผิด พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง.และ “พล.ต.ท.เปี๊ยก” พร้อมพวก จากคดี หิ้วถุงเงิน 6 ล้านบาทเพื่อปิดปาก ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมือง เพื่อให้หยุดแฉเว็บพนันเครือข่ายสารวัตรซัว หรือ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล

นับเป็นการเปิดเผย ชื่อ ยศ ตำแหน่ง แบบไม่มีกั๊ก จนทำให้เจ้าของชื่อถึงกับควันออกหู ประกาศเข้าแจ้งความเอาผิดนายอัจฉริยะ แทบจะทันที

นายอัจฉริยะ ให้เหตุผลถึงมุ่งเป้าเปิดหน้า เปิดชื่อนายตำรวจยศ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ว่าการร้องเรียนครั้งนี้ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน อยากให้สังคมได้เห็นว่าคดีเงิน 6 ล้านนี้”ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ” โดยเฉพาะรองเลขาธิการ ปปง.เป็นเจ้าหน้าที่ ปปง.มีหน้าที่ตามกฎหมายในการปราบปรามเงินที่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่มาปกป้องเงินเจ้าของเว็บพนันออนไลน์

มีคำถามจากหลายฝ่ายว่า ทำไมครั้งนี้ นายอัจฉริยะ จึงกล้าเอ่ยชื่อ ยศ ตำแหน่ง แบบไม่กลัวว่าจะถูกฟ้อง นั่นเพราะนายอัจฉริยะ เชื่อว่า ตัวเขาเองมีหลักฐานเด็ดอยู่ในมือ โดยกล่าวหาว่า พล.ต.ต.เอกรักษ์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการพนันออนไลน์ เพราะว่า เขามีข้อมูลการจับกุมเครือเว็บพนันออนไลน์ ที่ชื่อ“ KINGPIN88.COM ” หรือไม่

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ตำรวจ สน.บางขุนเทียน ได้เข้าตรวจค้น บริษัท คอมโพส พับลิชชิ่ง จำกัด เลขที่ 15 เลขที่ 17 และเลขที่ 19 ซอยเอกชัย 89/1 เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้ในการจัดการเว็บไซต์พนันออนไลน์“ KINGPIN88.COM ” มีนายอิทธิ คงศิริ แสดงตนเป็นคนเช่า ดูแล พักอาศัยที่ดังกล่าว และมีนายภาคิน ฐานะบวรเดชและนางสาวน้องญา ปานเมือง แบ่งหน้าที่กันเพื่อจัดกำรเกี่ยวกับเว็บไซต์ ต่อมาเจ้าตำรวจได้ทำการยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบจำนวนหลายรายการ อาทิ เงินสด จำนวนกว่า 27 ล้านบาท และทรัพย์สินย์อื่น ๆ จำนวนหลายรายการ

 

จากคดีนี้ มีการตรวจสอบพบว่า บริษัท คอมโพส พับลิชชิ่ง จำกัด ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2553 ประกอบธุรกิจ กิจการออกแบบ จัดพิมพ์ จัดทำผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภท มีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท กรรมกำรประกอบด้วย นางสาวณัฐฐินันท์ กิตติพันธ์ นางสาวชลลดา สังขวร หรือลิ้มสังกาศ นายวีรวิชศ์ ศิวัชขวัญตระกูล โดยมี นางสาวณัฐฐินันท์ กิตติพันธ์ และนางสาวชลลดา สังขวร หรือลิ้มสังกาศ คนใดคนหนึ่งมีอำนาจลงนาม ซึ่งนางสาวชลลดา เป็นภรรยาของพล.ต.ต.เอกรักษ์ นั่นเอง

นายอัจฉริยะ ยังกล่าวหาว่า มีการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินนางสาวชลลดา สังขวร หรือลิ้มสังกาศ แล้วพบว่ามีการโอนเงินจากเว็บพนันออนไลน์หลายแห่งเข้าบัญชีของนางสาวชลลดา หลายล้านบาท เรื่องนี้นายอัจฉริยะ อ้างว่า เขามีหลักฐานเส้นทางทางการเงินที่ไหลเข้าบัญชีนางสาวชลลดา ชัดเจน ส่วนนางสาวชลลดา กับเว็บพนันออนไลน์ ชื่อ “KINGPIN88.COM” จะมีความสัมพันธ์กันอย่างไร หรือไม่ นายอัจฉริยะ บอกว่า เบื้องต้นก็พอคาดเดา ได้ว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีความเชื่อมโยงกัน เพราะนางสาวชลลดา เป็นหนึ่งในกรรมการบริษัทฯที่มีอำนาจลงนาม จะปฎิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นการกระทำของพนักงาน ที่พักอาศัยในบริษัทฯ คงเป็นเรื่องยากที่ใครจะเชื่อ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนตัวของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ก็เข้าไปเกี่ยวข้องกับถุงเงิน 6 ล้าน เพราะเป็นคนนำเงินไปมอบให้กับนายชูวิทย์ ด้วยตัวเอง โดยเรื่องนี้ผู้ที่ออกมาแฉคือ “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด ซึ่งได้เปิดแถลงข่าวอ้างว่า ภาพถ่ายของเงิน 2 ถุง เป็นรูปถ่ายเมื่อปลายปี 2565 โดยที่มีคนนำไปมอบให้กับนายชูวิทย์ โดยการติดต่อผ่านลูกชายของนายชูวิทย์ ประกอบด้วยนายศักดิ์ เจ้าของบ่อนพระราม 3 ซึ่งเช่าอาคารทำบ่อนจากเฮียตี้ เป็นคนถือเงินสดมาพร้อมกับ พลตำรวจตรี เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาฯ ปปง. และมี พลตำรวจโท เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ อดีตที่ปรึกษา สบ.9 ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วร่วมอยู่ด้วยและยังมีเงินจากเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์อีกครั้งละ 10 ล้านบาท

เมื่อ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง.ถูกกล่าวหาผ่านสื่อโดยนายอัจฉริยะ ก็ไม่ได้นิ่งเฉย ล่าสุด เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีกับ นายนายอัจริยะ ในข้อหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และกฎหมาย PDPA” พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน จํานวน 10 ล้านบาท

พล.ต.ต.เอกรักษ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ นําเอกสารหลักฐาน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษตนเองในความผิดฐาน “ฟอกเงิน” ต่อกองบังคับการปราบปราม และยังได้โชว์ภาพถ่ายของตนเองต่อสื่อมวลชนอีกด้วย อีกทั้งมีถ้อยคำบางช่วงบางตอนที่พาดพิงตนเองและภรรยา ส่งผลทำให้สำนักงาน ปปง. ได้รับความเสียหาย

พร้อมยืนยัน ว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินจำนวน 6 ล้านบาท ที่เจ้าของเว็บพนันออนไลน์นำไปให้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง แต่อย่างใด โดยจากภาพที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม นำออกมาโพสต์นั้น เป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2565 ตนเป็นผู้แนะนำให้บุคคล 2 คนในภาพได้รู้จักกัน พอเขาแลกเบอร์โทรศัพท์กัน ตนก็ไม่รู้เรื่องใดๆ ซึ่งเขาอ้างว่า เป็นเอฟซี คุณชูวิทย์ ส่วนจะไปพูดคุยหรือไปโรงแรมคุณชูวิทย์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

สำหรับกรณีที่ นายอัจฉริยะ ออกมาพูดพาดพิงภรรยาของตนว่า มีเงินจากพนันออนไลน์โอนเข้าบัญชีหลายล้านนั้น ขอชี้แจงว่า ภรรยาของตนเองเป็นเซลล์ขายไม้อัด ครอบครัวตนรับเงินเดือนจากราชการ ประกอบอาชีพสุจริต และใช้เงินอย่างประหยัด หากอยากมีการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของครอบครัวตนเองก็สามารถกระทำได้ ที่ผ่านมาครอบครัวตนเองใช้เงินอย่างประหยัด รู้จักเก็บหอมรอมริบ ดังนั้นในส่วนที่จะไปเกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิด แล้วมีทรัพย์สินเงินทองเพิ่มมากขึ้นนั้น ขอยืนยันตามความจริงว่า ไม่มีแน่นอน

กรณี นายอัจฉริยะ นำภาพถ่ายตนเองคู่กับชายผูกเนคไทรูปร่างลักษณะท้วม นั้น ชายคนดังกล่าวเป็นลูกของเพื่อนที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดอ่างทอง มีชื่อว่า ดั้ม ถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2559 ซึ่งตอนนั้นตนเองดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อ่างทอง จึงรู้จักกัน ทำงานสาธารณะร่วมกันมาตลอด ก็ถ่ายรูปกันปกติ เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มี และไม่ได้เจอกันนานกว่า 7 ปีแล้ว แต่ชายคนดังกล่าวจะมีความเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ

พล.ต.ต.เอกรักษ์ เปิดเผยอีกว่า ตนไม่รู้จัก นายชูวิทย์ เป็นการส่วนตัว และยืนยันว่า ไม่เคยไปที่โรงแรมเดวิส แม้แต่ครั้งเดียว หาก นายอัจฉริยะ มีหลักฐานว่า ตนเองอยู่จริงในโรงแรมเดวิด ขณะที่มีการนำเงิน 6 ล้าน ไปมอบให้ นายชูวิทย์ จริง ก็สามารถนําหลักฐาน หรือกล้องวงจรปิดออกมาชี้แจงได้ แต่ขอยํ้าว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องการเคลีย์หน้าเสื่อให้กับเว็บพนันออนไลน์ หรือพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมายอย่างแน่นอน เพราะตําแหน่งของตนนั้น เป็นสายงานธุรการ ไม่มีอํานาจในการยึด หรืออายัดทรัพย์สินใครทั้งนั้น ซึ่งหากพบตนมีส่วนเกี่ยวข้อ งหรือกระทําความผิดจริง ยินดีลาออก เพื่อรับผิดชอบทันที ส่วนจะดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หรือไม่นั้น ต้องขอกลับไปดูข้อกฎหมายก่อน แต่จะเป็นรายถัดไปแน่นอน

 

สำหรับ ชื่อของ พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ได้รับการจับตามอง เมื่อมีชื่อเข้ามารับตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตามที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอ ว่ากันว่าเขาประแป้งรอเพื่อ รับตำแหน่ง “เลขาธิการ ปปง.” แทน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ที่จะเกษียณราชการ 30 กันยายน 2565 แต่ต้องผิดหวังเพราะคนที่ถูกเสนอชื่อกลับเป็น นายเทพสุ บวรโชติดารา ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้นายอัจฉริยะ บอกว่า ก็มีข้อครหาของเงินสีเทาจากเว็บพนันออนไลน์ เข้ามาเกี่ยวข้องถึง”ชวดตำแหน่ง เลขาฯ ปปง.”

ว่ากันตามจริง พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ มีประวัติการทำงานที่ไม่ธรรมดาเขาเรียนจบโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 41 (นรต.41) เติบโตในสายงานตำรวจจนก้าวขึ้นมานั่งผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 และ กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 9 ก่อนมาเป็น ผู้กำกับ สน.มักกะสัน จากนั้นขยับขึ้นมาเป็นรองผู้บังคับการตำรวจจราจร ,รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล, กระทั่งได้ติดยศนายพลในตำรวจแหน่งผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อ่างทอง ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 และเป็นหนึ่งในคณะทำงานแก้ปัญหาจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

แต่สิ่งที่ทำให้คนรู้จักชื่อ พล.ต.ต.เอกรักษ์ เพราะเคยทำ คดีสำคัญที่สะเทือนวงการสีกากี นั่นคือ คดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตคาโรงพัก คดีนี้ยึดครองพื้นที่หน้า 1 ของสื่อหลักนานนับสัปดาห์

จากคดีที่กล่าวมา พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 ถือว่ามีส่วนสำคัญในการคลี่คลายคดี เนื่องจากเป็นบุคคลที่ ผู้กำกับโจ้ โทรศัพท์ติดต่อพล.ต.ต.เอกรักษ์ ขอเข้ามอบตัว ก่อนที่คดีนี้จะจบลงแบบไม่สูญเสียอะไร

การเดินหน้าฟ้องร้องเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของพล.ต.ต.เอกรักษ์ และการออกมาแฉแบบไม่ยอมหยุดของนายอัจฉริยะ จากนี้ก็ต้องรอดูว่า คดีนี้จะจบลงอย่างไรเพราะความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว ใครจะพูดเท็จ ใครจะพูดจริง”พยานหลักฐาน”สำคัญที่สุด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"พีช" หนุ่มขับ BMW คุมอารมณ์ไม่อยู่ โวยสื่อหลังโดนกล้องกระเเทกหัว
เตรียมสนุกครบรส งานมหกรรมอาหารพื้นบ้าน สืบสานตำนานวิถีถิ่นอยุธยา 25-29 เมษายน 2568 ที่ วัดหลังคาขาว
"ภูมิใจไทย" ลงมติเอกฉันท์ ให้ "เอกราช ช่างเหลา" พ้นสมาชิกพรรค
เปิดใจ "นายกเบี้ยว" ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงป้าคู่กรณี ขอสังคมให้โอกาสลูกกลับตัว
สีจิ้นผิงชี้การกระทำฝ่ายเดียวไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน
อินโดนีเซียจะลดภาษีและเพิ่มนำเข้าเชื้อเพลิงจากสหรัฐ
โผล่แล้ว ลูกชาย "นายกเบี้ยว" เสียงสะอื้นขอโทษ อ้างตกใจหนีนอนบ้านเพื่อน ไม่เห็นลุงป้ายกมือไหว้
จีน-กัมพูชากำหนดให้ 2568 เป็นปีท่องเที่ยวระหว่างกัน
สหรัฐสั่งเก็บค่าธรรมเนียมเรือสินค้าจีน
การรถไฟฯ ร่วมกับ สจล. จัดกิจกรรม Doctor Train ครั้งที่ 8 ชวนพนักงานการรถไฟฯ ครอบครัว และประชาชนพื้นที่ใกล้เคียง เข้ารับบริการตรวจสุขภาพฟรี 29-30 เม.ย. 68 ที่สถานีรถไฟนครสวรรค์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น