งานเข้า ตร.เตรียมเชิญตัว “หยาดทิพย์” สอบปมที่มาทรัพย์สิน “เมฆ รามา”

งานเข้า ตร.เตรียมเชิญตัว "หยาดทิพย์" สอบปมที่มาทรัพย์สิน "เมฆ รามา"

จากกรณีเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (30 มี.ค.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 นำกำลังตำรวจ บก.สอท.1 บก.สอท.2 และชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด นำหมายค้นศาลอาญาเข้าปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เพื่อค้นหาหลักฐานดำเนินคดีกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์

 

 

 

 

 

ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การเข้าตรวจค้นบ้านหรูในซอยโยธินพัฒนา บ้านพักของนายเมฆ-รามา รัศมีรามา สามีนักแสดงสาวชื่อดัง หยาดทิพย์ ราชปาล นอกจากนี้ นายรามา ยังเคยถูกดีเอสไอออกหมายเรียกในฐานะพยานให้เข้าชี้แจงปมรับซื้อห้องชุด (เพนท์เฮาส์) เลขที่ 61/125 ชั้นที่ 36-37 อาคารเลขที่ เอ ชื่ออาคารชุด “รอยซ์ ไพรเวท เรซิเดนซิซ (ROYCE Private Residences)” ราคากว่า 245 ล้านบาท ซึ่งเคยเป็นทรัพย์ของนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหาร Forex-3D ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดทางด้านพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจ สอท.ได้เปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้นรวม 17 จุด สามารถจับผู้ต้องหาตามหมายจับความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์และฟอกเงิน 8 ราย ในจำนวนนี้มี นายเมฆ รามา สามีของนางเอกชื่อดัง ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าว สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมและ ดิว อริสรา ดารานักแสดงชื่อดัง ที่ให้ข้อมูลซึ่งตำรวจได้มีการสืบสวนสอบสวนทางลับ จนพบความผิดชัดเจน โดยเฉพาะเส้นทางการเงินจากเว็บพนันไปยัง เมฆ รามา สามีของนางเอกดัง ซึ่งตำรวจจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

 

โดยตนเองยังไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้ต้องหา แต่ทางพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการสอบปากคำก่อนแจ้งข้อหา พร้อมกับยืนยันว่าจากการสอบสวนเครือข่ายเว็บพนันของเมฆ รามา เป็นคนละเครือข่ายกับเครือข่ายมาเก๊า 888

 

ส่วนนางเอกดัง ภรรยาของเมฆ รามา เบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตามหลักของกฎหมายในฐานะสามีภรรยา พนักงานสอบสวนจะต้องเชิญภรรยาซึ่งเป็นนางเอกดังมาให้ปากคำ ว่ามีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่

 

 

 

 

เนื่องจากความผิดดังกล่าวเข้ามูลฐานการฟอกเงิน ดังนั้นต้องตรวจสอบรายละเอียดทรัพย์สินและบุคคลใกล้ชิดทั้งหมด เพื่อดำเนินการให้สิ้นกระแสความ เพราะมิฉะนั้นการรวบรวมหลักฐานที่จะยื่นในชั้นอัยการและศาลจะไม่สมบูรณ์ส่งผลทางคดี ทำให้ประชาชนมองว่าเป็นมวยล้มต้มคนดู เพราะตนเองได้สั่งกำชับในการทำงานของพนักงานสอบสวนไซเบอร์ไปแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลเตือนมิจฉาชีพอ้างเป็น “กรมบัญชีกลาง” ลวงดูดเงินประชาชน
สายสีแดง ชวนเที่ยวแลนด์มาร์คแห่งใหม่ สูดอากาศบริสุทธิ์ สะดวก เดินทางง่าย ติดรถไฟฟ้า
“สาวไทย” โคตรแสบ! ช่วยแฟนผิวสีขนโคเคนเข้าเมือง โดนชาร์จคา ตม.สระแก้ว
‘ผอ.อผศ.’ จัดกิจกรรม นักรบ พบ รด. ปลุกจิตสำนึกเยาวชนต่อความเสียสละของทหารผ่านศึก
ผบช.น. สั่งเอาผิดขั้นเด็ดขาด เก๋งหัวร้อนพุ่งชนไรเดอร์ดับ แจ้ง 2 ข้อหาหนัก-ค้านประกันตัว
"ปอศ.-สรรพสามิต" บุกยึดบุหรี่เถื่อน ลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท
"ตำรวจ" เตือน "Jagat" แอปฯล่าเหรียญ สัญชาติอินโดฯ ไม่ได้จดทะเบียนในไทย อันตรายหลายจุด
กรมอุตุฯ เผยไทยอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ อากาศยังเย็นอยู่  กทม.หนาวสุด 19 องศาฯ
"กรมวังฯ" ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยม ติดตามผลการดำเนินงาน โครงการกำลังใจฯ ณ เรือนจำ จ.ภูเก็ต
"เซเลนสกี" อกแตก "ทรัมป์-ปูติน"ส่งซิกหากัน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น