30 มี.ค. 2566 ทวิตเตอร์ TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานว่า ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี 2 นิสิตม.บูรพา เหตุแขวนป้ายวิจารณ์รัฐบาล-พระมหากษัตริย์ ติดระเบียงหอพัก เมื่อ 13 ก.ค. 64 ก่อนลดโทษเหลือจำคุกคนละ 2 ปี รอลงอาญา ให้พนง.คุมประพฤติตักเตือน-สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันฯและทำงานบริการสังคม 12 ชั่วโมง
ข่าวที่น่าสนใจ
ทั้งนี้มีรายละเอียดระบุว่า ศาลจังหวัดชลบุรีนัดฟังคำพิพากษาคดีที่ วัชระ (สงวนนามสกุล) และ วิรชัช (สงวนนามสกุล) สองนิสิตมหาวิทยาลัยบูรพาวัย 19 ปี ถูกฟ้องในข้อหา “หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการแขวนป้าย “ผู้นำส้น … ก็ส้น…” วิจารณ์รัฐบาลและกษัตริย์ที่หอระเบียงหอพัก เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2564
คดีนี้ทั้งสองถูกสั่งฟ้องเมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2565 พนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี คมสรร สิมสา บรรยายฟ้องโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2564 จําเลยได้เขียนข้อความลงบนป้ายผ้าสีชมพู ด้วยหมึกสีแดง แล้วนําป้ายผ้าดังกล่าวไปแขวนไว้ที่บริเวณระเบียงห้องพัก ชั้น 3 ในพื้นที่ตำบลแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี อันเป็นแหล่งชุมชน ซึ่งเป็นบริเวณที่ประชาชนโดยทั่วไปพบเห็นได้ง่าย
ต่อมาก่อนนัดเริ่มสืบพยาน นิสิตทั้งสองคนได้ขอกลับคำให้การเป็นรับสารภาพตามฟ้อง ศาลได้มีคำสั่งให้สืบเสาะและพินิจพฤติการณ์ของจำเลยเพิ่มเติม และนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้
เวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาโดยสรุป เห็นว่าจำเลยทั้งสองคนมีความผิดในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ขณะเกิดเหตุ จำเลยทั้งสองคนอายุยังไม่ถึง 20 ปี จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 76 ลงโทษจำคุก คนละ 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 เหลือจำคุกคนละ 2 ปี
พฤติการณ์แห่งคดีตามรายงานการสืบเสาะ เห็นว่าขณะกระทำผิดอายุยังน้อย เพราะคิดว่าสถานการณ์บ้านเมือง มีประชาชนกำลังเดือดร้อน กษัตริย์ควรช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ประชาชนเหมือนกษัตริย์ในประเทศอื่น ๆ จำเลยขาดความรู้ความเข้าใจ โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี คุมประพฤติจำเลยกำหนดระยะเวลา 1 ปี ให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน ให้พนักงานคุมประพฤติตักเตือนและแนะนำ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานบันกษัตริย์และให้จำเลยทั้งสองทำงานบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 12 ชั่วโมง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56 และให้ริบป้ายผ้าของกลาง
สำหรับคดีนี้เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2564 วัชระได้ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตามหมายจับจากที่พัก โดยไม่เคยมีการออกหมายเรียก และถูกนำตัวไปยัง สภ.แสมดำ เพื่อทำบันทึกจับกุม จากนั้นได้นำตัวต่อไปยัง สภ.แสนสุข ซึ่งเป็นสถานีตำรวจเจ้าของคดี
ภายหลังวิรชัช ซึ่งทราบว่าตนก็ถูกออกหมายจับเช่นเดียวกัน ได้เดินทางเข้าแสดงตัวตามหมายจับที่ สภ.แสนสุข ในช่วงบ่ายวันที่ 24 ต.ค. 2564 ทั้งสองถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจและถูกนำตัวไปฝากขังเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2564 ก่อนศาลจังหวัดชลบุรีอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนด้วยหลักทรัพย์คนละ 150,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ และได้รับการประกันตัวในชั้นพิจารณาด้วยหลักทรัพย์เดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
