ใครมี "รอยช้ำ" ฟกช้ำ เป็นจ้ำบ่อย ๆ ไม่ปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้าย อันตรายถึงชีวิต เช็คเลย เข้าข่ายไหม
ข่าวที่น่าสนใจ
ใครมีปัญหาแผลฟกช้ำ ดำเขียว บ่อย ๆ แบบไม่มีสาเหตุ มามุงตรงนี้ด่วน ๆ เช็คให้ดีเข้าข่ายอันตรายแค่ไหน แพทย์เผย มีอาการ “รอยช้ำ” ตามร่างกายบ่อย ๆ อย่าปล่อยไว้นาน อาจเป็นสัญญาณเตือนโรคร้ายแรง เสี่ยงเสียชีวิตได้
รอย ช้ำ เกิดขึ้นได้ทั้งจากอุบัติเหตุและโรค สามารถแบ่งได้ ดังนี้
1. อุบัติเหตุหรือกระแทกสิ่งของ
- หากรอย ช้ำเป็นรอยเขียวและเป็นรอย ช้ำเพียง 1-2 จุด เฉพาะบนร่างกาย
- กดลงไปแล้วมักจะเจ็บเบา ๆ อาจเป็นรอยฟกช้ำธรรมดาที่เราเดินไปชนสิ่งของหรือเดินไปกระแทกกับของแข็งโดยไม่รู้ตัว
2. อายุที่มากขึ้น
- ผิวหนังจะบางลง ไขมันและคอลลาเจนที่ช่วยปกป้องเส้นเลือดก็ลดลงตามไปด้วย
- ทำให้เส้นเลือดเปราะบางและแตกง่าย จึงเกิดเป็นรอยคล้ำเมื่อเลือดออกที่ผิวหนัง
3. ขาดวิตามิน
- โดยเฉพาะวิตามิน C และ K
- วิตามิน C อาจจะขาดจากทานผลไม้ไม่พอ
- วิตามิน K อาจเกิดจากได้รับยาฆ่าเชื้อติดต่อกันนาน ๆ จะทำให้เลือดออกได้ง่าย
- จุดเลือดออกหรือจ้ำเลือดเกิดได้ทั่วร่างกาย หากปล่อยไว้นานอาจรุนแรงขึ้นจนมีเลือดออกในอวัยวะสำคัญได้
4. ใช้ยาสเตียรอยด์ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
- ผลข้างเคียงจากยา อาจทำให้เส้นเลือดฝอยเปราะบางและแตกง่าย จนเกิดรอย ช้ำตามร่างกายได้บ่อยครั้ง
5. เกล็ดเลือดต่ำหรือเกล็ดเลือดทำงานผิดปกติ
- “รอยช้ำ” มักจะเห็นได้ตามผิวหนังตื้น ๆ อาจเจอได้ชัดตามข้อพับ
- เกล็ดเลือดต่ำเกิดได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่ยาที่รับประทานไปจนถึงมะเร็ง หรือไขกระดูกฝ่อ ซึ่งต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้การรักษาที่เหมาะสม
6. ขาดโปรตีนแฟคเตอร์ 8
- หากเป็นตั้งแต่กำเนิดถ่ายทอดทางพันธุกรรม เรียกว่า โรคฮีโมฟิเลีย
- แต่อาจถูกกระตุ้นจากโรคอื่น ๆ ได้ด้วย ทำให้การแข็งตัวของเลือดลดลงจนเกิดภาวะเลือดออกง่ายแต่หยุดยาก
- และเกิดรอยฟกช้ำจ้ำใหญ่ทั่วร่างกาย
- ส่วนใหญ่มักจะมีเลือดออกค่อนข้างรุนแรง ตามการขาดโปรตีนแฟคเตอร์
7. โรคไขกระดูกบกพร่อง
- เกิดจากเกล็ดเลือดต่ำ เพราะ ร่างกายสร้างได้ไม่ปกติ ทำให้มีรอยจ้ำหรือรอยช้ำเลือดตามร่างกาย เลือดออกง่าย เช่น
- เลือดกำเดา
- เลือดออกในช่องปาก
- หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธี อาจกลายเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้
8. มะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย
- เป็น 1 ใน 10 โรคมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย จะเกิดขึ้นในไขกระดูกซึ่งเป็นแหล่งผลิตเม็ดเลือด
- โดยเกิดจากเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวอ่อนเติบโตมากผิดปกติและไม่สามารถกลายเป็นเม็ดเลือดที่สมบูรณ์ได้ จนไปรบกวนการสร้างเม็ดเลือดปกติชนิดอื่น ส่งผลให้ผู้ป่วยติดเชื้อง่าย
- อ่อนเพลีย
- เลือดออกง่ายผิดปกติ
- เกิดจ้ำเลือดตามร่างกาย
- หากไม่ได้รับการรักษาโดยเร็วและถูกวิธีอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ง่าย
9. ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก มักแป็นบริเวณขาและเกิดรอยจ้ำเขียว รู้สึกปวดร่วมกับมีอาการบวม
- แต่ถ้าลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่ปอดอาจทำให้รู้สึก
- เจ็บหน้าอก
- ไอ ไอปนเลือด
- เวียนศีรษะ
- หายใจถี่และหมดสติ
- ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต รอย ช้ำที่ไม่เป็นอันตรายส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นและค่อย ๆ จางหายไปเองใน 3 – 7 วัน
- และมักจะเป็นเฉพาะที่ แต่หากเป็นนานกว่า 1 สัปดาห์ หรือรอย ช้ำมีสีเข้มขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกโรคร้ายแรงได้
ดังนั้น ควรสังเกตร่างกายตัวเองอยู่เสมอ หากพบความผิดปกติไม่ว่าจะเป็นรอย ช้ำหรืออาการอื่น ๆ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างทันท่วงที
ข้อมูล : โรงพยาบาลเวชธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง