“ครอบครัวรัตนพันธ์” เดินหน้าทวงความเป็นธรรม ร้อง ปอท.เอาผิดอาญา SC Asset

"ครอบครัวรัตนพันธ์" เดินหน้าทวงความเป็นธรรม ร้อง ปอท.เอาผิดอาญา SC Asset

วันนี้ (31 มี.ค. ) เวลา 10.00 น. ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ พร้อมสมาชิกครอบครัว เดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัท SC Asset กรณีที่ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดิน เพื่อเสนอขายบริษัท เอสชี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีตระกูลชินวัตร เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และขอให้มีการตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบการดำเนินกิจการของบริษัท และผู้บริหารในการดำเนินธุรกิจ ที่ขาดความโปร่งใสและไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้น และนักลงทุน รวมถึงตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของบริษัทเอสซีฯ ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน

สืบเนื่องจากบริษัท SC Asset เป็นนิติบุคคล ประเภทบริษัท มหาชน จำกัด อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประชาชนทั่วไปสามารถทำการซื้อขายหุ้นของบริษัทได้ โดยมีนายณัฐพงษ์ คุณากรวงษ์ เป็นประธานบริหาร หรือ CEO โดยมี นางสาวพิณทองธา ชินวัตร คุณากรวงษ์ ภรรยาเป็น ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ส่วน สาวแพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง น้องสาว ซึ่งขณะนี้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็น ผู้ถือหุ้นอันดับที่ 1 โดยที่ผ่านมา ครอบครัวรัตนพันธ์ ต้องสูญเสียบ้านและที่ดิน เนื่องจากบริษัท บริษัท SC Asset ไม่ปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงการรวบรวมที่ดินเพื่อเสนอขาย ฉบับวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2559

ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนและครอบครัว เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบริษัท SC Asset และผู้ที่เกี่ยวข้อง จากกรณีที่ได้มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ โดยหนังสือที่มีการนำเข้าตลาดหลักทรัพย์เลขที่ SC -l 004/2566 ซึ่งเป็นข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง ทำให้นักลงทุน หรือให้ประชาชนและผู้ถือหุ้นหลงผิดในสาระสำคัญ ซึ่งมีความสำคัญต่อประชาชนหรือนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ลวงให้นักลงทุนหลงซื้อหุ้นของบริษัท SC Asset โดยข้อมูลดังกล่าว เป็นความเท็จและอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ยังไม่ได้มีการตัดสินชี้ขาดว่าฝ่ายใดถูกหรือผิด แต่บริษัท SC Asset กลับตั้งตนเป็นศาลตัดสินว่า เป็นความเท็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เป็นเหตุให้ต้องเข้าแจ้งความในวันนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับการเผยแพร่ของประเด็นดังกล่าวนี้มีการเผยแพร่ผ่านในระบบของตลาดหลักทรัพย์ และเผยแพร่ผ่านองค์กรสื่อสารของบริษัทที่กระจายข่าว เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ภายหลังจากที่ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องเรื่อง 1,503 ล้าน เราจึงต้องทำจดหมายเปิดผนึก เพื่อให้ชี้แจงหรือแจ้งข่าวตามพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ตามกฎระเบียบของตลาดหลักทรัพย์ แต่กลับพบว่า บริษัทฯได้ชี้แจงในข้อความที่บิดเบือนใส่ร้ายป้ายสีตนและครอบครัว

ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่มาจากรายงานกระบวนพิจารณาของศาล และข้อร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรีที่มีพยานหลักฐานอื่นๆ ไม่ว่าของกระทรวงยุติธรรมและหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงมั่นใจในพยานหลักฐานที่มาจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งความคืบหน้า ล่าสุดนายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการ มายังตลาดหลักทรัพย์ DSI และสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว

ทั้งนี้ ช่วงบ่าย ตนและครอบครัวจะเดินทางไปที่ตลาดหลักทรัพย์เพื่อ ติดตามความคืบหน้า กรณีการดำเนินคดีกับ บริษัท SC Asset นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เชิงเดี่ยว ซึ่งผู้ลงทะเบียนข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น ที่จะสามารถใช้ข้อมูลได้ เป็นการให้ข้อมูลโจมตีอย่างฝ่ายเดียวถือว่า ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับคู่กรณี และประชาชน และข้อความดังกล่าวนี้ก็ยังคงค้างอยู่ในระบบข้อมูล ยังไม่มีการแก้ไขใดๆทั้งที่เราได้มีการแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์แล้ว ซึ่งทางครอบครัวรัตนพันธ์ เตรียมยื่นหนังสือให้ตลาดหลักทรัพย์ และ SET ในวันเดียวกัน เพื่อให้ไต่สวนลงโทษ บริษัท SC Asset ฐานนำความเท็จ ปกปิดข้อมูลที่ควรแจ้ง บิดเบือนข้อเท็จจริง ใส่ร้ายป้ายสีครอบครัวรัตนพันธ์ให้ได้รับความเสียหายเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของ SET

 

ดร.ศรายุทธ ยังกล่าวถึงการออกมาเคลื่อนไหวตั้งแต่แรกจนถึงขณะนี้ ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า ตนต่อสู้กับตระกูลชินวัตร มีทั้งคลิปเสียงของคุณหญิงพจมาน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ยาก เพราะบางหน่วยงานมีการเบรคหรือชะลอเรื่องร้องเรียนของตน แม้กระทั่งการนำเสนอข่าวเองก็ตามก็ยังไม่ได้รับการเปิดเผยมากเท่าที่ควร ทั้งๆที่ประเด็นดังกล่าวนี้เป็นเรื่องธรรมาภิบาลของตลาดหลักทรัพย์ และของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จึงอยากเชิญชวนประชาชนผู้รักความยุติธรรม ให้ออกมาต่อสู้กับเรา

ดร.ศรายุทธ รัตนพันธ์ ยังยืนยันว่าจะเดินหน้าเปิดโปงข้อมูลที่สำคัญ หากวันใดที่สื่อสำนักอื่นๆพร้อมที่จะนำเสนอข่าวตนก็พร้อมที่จะเปิดโปงชี้แจงทุกอย่าง และขอย้ำจุดยืนเดิมในการต่อสู้ และสัญญาว่าเราจะต่อสู้เพื่อให้ได้ความยุติธรรมปรากฏในพื้นแผ่นดินไทย มิใช่ปล่อยให้คนที่มั่งมีเงินทองด้วยลาภยศอิทธิพลและอำนาจอื่นๆอยู่เหนือความถูกต้องและความยุติธรรมไปได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"บิ๊กเต่า" ขีดเส้นตาย 12 มี.ค.นี้ พยานเร่งเข้าพบตำรวจให้ข้อมูล "ทุจริตยา"
อ.สันกำแพง จับมือ ซีพีเอฟ ชวนชุมชนเปิด “ตลาดนัดใบไม้แลกไข่” รณรงค์หยุดเผา ลด PM2.5 - ป้องกันไฟป่า
"พิพัฒน์" นำถก "กรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจ" เห็นชอบปรับค่าจ้างเพิ่มไม่เกิน 10% ภายใน 2 ปี
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จับมือ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และภาคีเครือข่าย ยกระดับการพัฒนากระบือไทย ด้วยเทคโนโลยีและพันธุกรรม สู่การเลี้ยงที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประกาศนางสงกรานต์ 2568 ทรงนาม “ทุงสะเทวี” พร้อมคำทำนายตลอดปี
งานหยาบ "F-16" เกาหลีใต้ หย่อนตูม 8 ลูกผิดเป้า ชาวบ้านสาหัส 4 บ้านเรือนแหลก
"มนพร" แจงเหตุจำเป็นปรับปรุง พ.ร.บ.การท่าเรือฯ ยังไม่สรุป "คลองเตย" ใช้พัฒนาสร้างเอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ
“พม่าUK” ตะโกนลั่นหน้าสถานทูต ประท้วงไทย! ค้านส่งคนเถื่อนกลับประเทศ
"ภูมิธรรม" ย้อนสื่อซักมติกคพ. ชี้ภาพดีลจันทร์ส่องหล้าล่ม ไม่เชื่อกระทบซักฟอกนายกฯ
"ธรรมนัส" ไม่รู้เรื่อง ปมครม.ถามกรอบจริยธรรมปูทางกลับมานั่ง รมต. ยันตัวเองคุณสมบัติไร้ปัญหาอยู่แล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น