“ชูวิทย์” เล่นใหญ่ ไหว้สัมภเวสีหน้ากองปราบ ก่อนนำ 6 ล้านคืนตำรวจ ยินดีให้สอบตามกม.

ชูวิทย์จุดธูปเซ่นไหว้สัมภเวสีหน้ากองปราบ ก่อนนำเงิน 6 ล้าน คืนตำรวจ แจงที่มาของเงินนายพล “ป.ปลา” นำมาให้ พร้อมยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบตามกฎหมาย

จากกรณีเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ได้เปิดเผยว่า ให้ติดตามดูให้ดีว่าเงินสด 6 ล้านบาทที่ไปรับคืนมาจากโรงพยาบาล ตนจะนำไปทำอะไรและเอาไปมอบให้ใคร และยังบอกทิ้งท้ายอีกด้วยว่าถ้ารู้แล้วอย่าช็อกก็แล้วกัน

ซึ่งสัปดาห์ที่แล้ว นายชูวิทย์ บอกกับสื่อมวลชนขณะลงพื้นที่รณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรีที่ซอยเฉยพ่วงว่าจะนำเงินจำนวนนี้ไปให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำให้ซึ่งสังคมต่างจับตาว่านายชูวิทย์จะนำเงินจำนวนนี้ไปให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เหมือนเดิมหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนเป้าหมายเอาไปให้ใครนั้น

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ล่าสุดนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองได้เดินทางมายังกองบังคับการปราบปราม เพื่อนำเงินจำนวน 6 ล้านบาท ส่งมอบให้กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยนายชูวิทย์ ได้เริ่มพิธีด้วยการนำผ้าขาวมาปูที่พื้นด้านหน้าตึกกองปราบ พร้อมกับวางของเซ่นไหว้ ประกอบด้วย หัวหมู ไก่ต้ม เป็ด ผลไม้ และสุรา พร้อมทั้งระบุว่า ต้องการจะไหว้สัมภเวสี ตามความเชื่อ จากนั้น ได้นำธนบัตร ใบละ 1,000 บาท มาวางซ้อนกันไว้ในพาน รวมเป็นเงิน 6 ล้านบาท

 

 

 

 

 

 

โดย นายชูวิทย์ ได้จุดธูป และพนมมือ พร้อมกล่าวว่า “ข้าพเจ้านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ขอเซ่นไหว้หมูเห็ดเป็ดไก่เหล้าให้กับสัมภเวสี เงินต่างๆ ที่นำมา ตนเองก็รับ และนำไปบริจาค แต่ว่ามีวิญญาณเร่ร่อนสัมภเวสี ที่จะมาฉกฉวยแย่งซีน ตนเองนั้นทำอะไรเปิดเผย แต่จะเล่าให้ฟังว่า มีใครไม่เปิดเผย รับหรือไม่รับ แต่สัมภเวสีต่างๆ ก็มาก่อกวน จึงนำของเซ่นไหว้นี้มาให้ จะได้ปล่อยให้ตนเองไปทำบุญทำทานให้กับโรงพยาบาล และคนอยากไร้”

จากนั้น นายชูวิทย์ ได้แสดงเอกสารหลักฐานการบริจาคเงิน เริ่มต้นรับมาเป็นเงินสด ก่อนจะนำไปซื้อแคชเชียร์เช็ค เพื่อไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลศิริราช 3 ล้านบาท และนำอีก 3 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ทั้งหมดทำอย่างตรงไปตรงมาไม่ผ่านเข้าบัญชีตนเอง รวมทั้ง ใบเสร็จหลังการทำบุญตนเองก็ไม่เคยนำไปลดหย่อนภาษีใด ๆ

รวมทั้งยังกล่าวถึงความสัมพันธ์ของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้สื่อข่าวอาวุโส และนายแทนไท ณรงค์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไททัน แคปปิตอลกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ทั้งสองมีการพบกัน โดย พลตำรวจเอก “ช.ช้าง” เป็นคนติดต่อให้มาพบกัน ครั้งนั้น นายสนธิ ระบุว่ากล่าวตำหนิ นายแทนไท เรื่องการทำพนันออนไลน์ ส่วนตัวมองว่าการกระทำดังกล่าวไม่สมเหตุสมผล คาดว่าจะเป็นการทำเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่น จึงอยากให้ทุกคนลองคิดตามว่า ถ้าเป็นสื่อใหญ่ แต่เรียก นายแทนไท เข้ามาตำหนินั้น มันใช่หน้าที่ของสื่อฯ หรือไม่ สำหรับพฤติการณ์ของ นายสนธิ เป็นแบบนี้มาโดยตลอด

ซึ่งในวันนี้ (31 มี.ค.66) ที่ตนเองมากองปราบ เพื่อมาแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า เงินที่ได้มาทั้งหมด ตนเองยินดีที่จะคืนกลับไปยังต้นทาง ซึ่งเงินนี้เป็นเงินที่ผู้ให้ตั้งใจจะไปทำบุญอยู่แล้ว ในส่วนช่องว่างที่เงินมาค้างอยู่กับตนเองระยะหนึ่งก่อนนำไปบริจาคนั้น เป็นเพราะการเดินทางไปบริจาคไม่สามารถที่จะทำได้ทันที ต้องนัดหมายล่วงหน้า ก่อนที่จะไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล เงินก็คือเงิน แต่ถ้าถามว่าที่มาของเงินนำมาจากไหน ต้องไปถามที่ นายพล “ป.ปลา”

 

ขอยืนยันว่า เงินก้อนนี้ไม่ใช่ได้มาจากการขู่เข็ญ ไม่ได้ให้ที่หลบซ่อน ออฟฟิศตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ ซึ่งได้รับมาเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ขณะนั้นตนเองอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี กำลังพักผ่อนอยู่ ซึ่ง นายพล “ป.ปลา” ได้ติดต่อมาว่าอยากจะทำบุญ จนกระทั่งต้นปี 2566 ผู้ที่นำเงินมาติดต่อบอกว่า อยากจะทำธุรกิจ “อาบอบนวด” อยากปรึกษาตนเอง เพราะมีความรู้เรื่องนี้

 

ส่วนประเด็นการนำเรื่องที่ดินของตนเองไปเปรียบเทียบกับที่ดินเขากระโดง ก็เป็นคนละประเด็นกัน การที่ตนเองพูดว่าจะให้ หรือบริจาค ก็เป็นคนละประเด็น ตอนนี้ตนเองจะนำไปสร้างตึก และด้านหน้าทำเป็นสวน ก็เป็นไปได้ทั้งหมด นั่นคือสิทธิของตนเอง ดังนั้น เรื่องที่ดินตนเองยืนยันที่จะสู้ต่อไป ส่วนเงินก้อนนี้เป็นเพียงเศษเงิน แต่สำหรับบางคนอาจจะมองว่า สามารถนำไปบำรุงบำเรอได้ หลังมีข่าวเงินก้อนนี้ว่า จะต้องนำมาส่งมอบคืนเจ้าของเงินเองก็รู้สึกเสียใจที่ไม่ทำบุญ

 

 

 

อย่างไรก็ตาม นายชูวิทย์ กล่าวถึงประเด็นค่าเสี่ยงภัย 300,000 บาท ของกรณีทนายคนหนึ่งว่า ที่ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ ตนเองอยากถามย้อนกลับไปว่า วิชาทนายความต้องมีค่าเสี่ยงภัยด้วยหรือไม่

 

ทั้งนี้หลังการแถลงข่าว นายชูวิทย์ ได้นำเงินสด ใส่กระเป๋า และเดินทางขึ้นอาคารกองบังคับการปราบปราม ไปพร้อมกับพลตำรวจตรี มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน
สถาปนาเขตพื้นที่คุ้มครองฯ ชาติพันธุ์ชุมชนชาวเลโต๊ะบาหลิว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น