“อภิสิทธิ์” ลุยหนองแขม ช่วย “วัชระ” หาเสียง เชื่อคนกรุงผูกพันปชป.

"อภิสิทธิ์" ลุยหนองแขม ช่วย "วัชระ" หาเสียง เชื่อคนกรุงผูกพันปชป.

วันที่ 1 เม.ย.66 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ช่วยนายวัชระ เพชรทอง ว่าที่ผู้สมัคร กทม.เขตที่ 29 หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ หาเสียงที่ศูนย์การค้าหนองแขม โดยได้รับการตอบรับจากพ่อค้าและแม่ค้าที่มาจับจ่ายตลาดเช้า โดยพ่อค้าแม่ค้าได้ขอถ่ายรูปกับนายอภิสิทธิ์ และบางคนบอกว่า เป็นแฟนคลับมานาน ต่างระบุ ดีใจที่ได้เจอนายอภิสิทธิ์ นอกจากนี้ ยังมีแฟนคลับต่างประเทศคุณแม่ลูก 4 ที่กลับมาเที่ยวเมืองไทยมาขอถ่ายรูปด้วย

 

 

โดยนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กลยุทธ์ในการหาเสียงในพื้นที่นี้ จุดขายคือนายวัชระ คือความเสมอต้นเสมอปลายในการลงพื้นที่และยังเป็นปากเสียงในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวบ้าน ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของ ส.ส. ขณะที่นายวัชระได้ทำงานตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลก็พร้อมตรวจสอบและต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง ยอมรับว่า ทุกเขตมีทั้งความนิยมของพรรคและตัวผู้สมัครแตกต่างกันไป แต่ละเขตผู้สมัครมีจุดแข็งของตัวเอง โดยเฉพาะนายวัชระที่สังคมรับทราบถึงบทบาทในการทำหน้าที่ผู้แทน มีปากเสียงให้กับประชาชนอยู่แล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 7 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองติดภารกิจที่ต่างจังหวัด จึงไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยด้วย แต่ยังมีอีกหลายเวทีซึ่งตนพร้อมมาช่วยปราศรัย ขึ้นอยู่กับพรรคจะประสานมา รวมถึงการปราศรัยใหญ่เวทีต่างจังหวัด โดยวันอังคารที่ 4 เม.ย.นี้จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครที่จังหวัดกระบี่ ส่วนวันที่ 3 เม.ย.ที่เป็นวันเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต จะไม่ไปที่สนามไทยญี่ปุ่นดินแดงซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครเขต กทม.แต่จะไปขึ้นรถแห่หาเสียงช่วย ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง หรือเอิร์ธ ที่เขตคลองเตยในช่วงบ่าย

 

นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงความแตกต่างของการเลือกตั้งปี 62 กับปี 66 ว่า ระบบเปลี่ยนไป จากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ ทั้งนี้ หลายคนคุ้นเคยระบบนี้มาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งการเลือกตั้งที่ใช้บัตรสองใบ จะมีผลกระทบกับทุกพรรคการเมือง บางพรรคอาจจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ ซึ่งในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนจำนวน ส.ส.เขตที่ได้รับเลือกตั้ง จะได้ต่ำกว่าคะแนนที่ได้รับ พร้อมยกตัวอย่างเช่น ถ้าได้คะแนน 20% ที่นั่ง ส.ส.จะไม่ถึง 20% ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้บัตรสองใบ พรรคอาจจะเสียเปรียบนิดหน่อย เพราะถ้าระบบบัตรใบเดียว ถ้าได้ 20% ก็จะได้ที่นั่ง 20%เท่ากัน แต่การเลือกตั้งบัตรสองใบ ทำให้ประชาชนมีทางเลือก ว่าจะเลือก ส.ส.เขตกับพรรค ซึ่งอาจจะมีบางพื้นที่ ส.ส.เขตอาจจะทำได้ดีกว่าพรรค

 

 

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะคัมแบ็คในพื้นที่ กทม. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้บริหารตั้งเป้าไว้แบบนั้น เรามีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด ส่วนกระแสตอบรับจากการลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่ใต้สะพานพระราม 8 เมื่อวันที่ 29 มี.ค. พบว่า ชาวกรุงเทพฯจำนวนไม่น้อยยังมีความผูกพันและเห็นคุณค่าของพรรคประชาธิปัตย์ในระบบการเมือง รวมถึงหลายพื้นที่มีบุคลากรที่เคยทำงาน ประชาชนก็ยังผูกพันอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ถ้าถามว่า จะต้องชนะหรือไม่ ไม่แน่ ต้องทำงานกันหนักต่อเนื่องจนถึงวันเลือกตั้ง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนแห่ ‘โคมไฟปลา’ แหวกว่ายส่องสว่างในอันฮุย
"พิพัฒน์" ตรวจเยี่ยมเอกชน ต้นแบบอุตสาหกรรม ผลิตด้วยเทคโนฯ AI พร้อมเร่งนโยบาย up skill ฝีมือแรงงานไทย
ผู้นำปานามาลั่นคลองปานามาไม่ใช่ของขวัญจากสหรัฐ
จีนไม่เห็นด้วยหลังไทยยืนยันไม่มีแผนส่งกลับอุยกูร์ในขณะนี้
"ดีเอสไอ" อนุมัติให้สืบสวนคดี "แตงโม" ปมมีการบิดเบือน บุคคลอื่น-จนท.รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่
"พิพัฒน์" นำถก "คบต." ลงมตินายจ้างต้องยื่นบัญชีชื่อต้องการแรงงานต่างด้าว ให้เสร็จใน 13 ก.พ.68
ส่องรายได้ "ดิว อริสรา" หลัง "ไผ่ ลิกค์" เฉลยชื่อดาราดัง ปมยืมเงินปล่อยกู้ โซเชียลจับตา รอเจ้าตัวชี้แจง
ศาลให้ประกันตัว "หนุ่มลูกครึ่งอินเดีย" ขับรถชนไรเดอร์เสียชีวิต ตีวงเงิน 6 แสนบาท คุมเข้มใส่กำไล EM ภรรยาผู้ตาย ลั่นไม่ให้อภัย
ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น